ระลึกถึงผู้ที่จากไป คุณชมเชย ด้วยการสนทนาธรรม

 
พุทธรักษา
วันที่  15 ธ.ค. 2551
หมายเลข  10677
อ่าน  1,689

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

สนทนาธรรม ณ ถนนสุสานประตูหายยา อ.เมือง จ.เชียงใหม่โดย อาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ และคณะวิทยากร พ.ศ. ๒๕๔๔

ท่านผู้ฟัง เรายอมรับ ว่า การเข้าใจธรรมะนี้ เป็นสิ่งที่ประเสริฐฉะนั้น โอกาสใด ที่เราสามารถจะเข้าใจธรรมะได้ เราไม่ควรปล่อยให้ผ่านไปเพราะหลังจากการสนทนาธรรมจิตของเราก็ย่อมเป็น โลภะบ้าง โทสะบ้าง โมหะบ้าง ตามวิสัยของปุถุชนแต่มีโอกาสใดบ้างไหม ที่จะสลับด้วยการสนทนาธรรมะ ศึกษาธรรมะ เพราะฉะนั้น เพื่อเป็นการสะสมปัญญาความเข้าใจถูก เท่าที่โอกาสจะอำนวย

(ขอเริ่มต้นการสนทนาธรรม)

ท่านผู้ฟัง ที่ผมได้ยินมาว่า เมื่อจิต เป็นกุศล ก็ให้รู้ว่าจิต เป็นกุศลเมื่อจิต เป็นอกุศล ก็ให้รู้ว่าจิต เป็นอกุศลจะกล่าวอย่างไร จึงจะถูกต้อง

ท่านอาจารย์ ไม่ใช่ต้องกล่าวว่าอย่างไรนะคะ...แต่หมายความว่าธรรมะ มีอยู่ เดี๋ยวนี้...เราค่อยๆ เข้าใจขึ้น พระธรรม มีอยู่ตลอดเวลาแล้วเราเข้าใจอะไร ที่เป็นธรรม ที่กำลังปรากฏ

ท่านผู้ฟัง วันนี้ที่เราได้มาสนทนาธรรม เป็นสิ่งที่น่าขอบคุณ "คุณชมเชย" และท่านอาจารย์ รวมทั้งคณะวิทยากรทุกท่าน ที่เมตตาต่อเราชาวเชียงใหม่ เป็นอย่างยิ่งขณะนี้ก็ถือว่า เป็นวิบาก เป็นผลของกรรม

ท่านอาจารย์ แต่อย่างไรก็ตามการระลึกถึงมิตรสหายหรือผู้ที่จากไปสิ่งที่ดีที่สุด คือ มีการสนทนาธรรม ซึ่งท่านผู้จากไป ก็เป็นผู้ที่มีศรัทธามาก ที่จะเข้าใจพระธรรมเพราะฉะนั้น ก็เป็นสิ่งที่ควรกระทำ เพื่อที่จะอุทิศส่วนกุศลให้ และขณะเดียวกัน ก็ทำให้พวกเราได้เข้าใจพระธรรมมากขึ้น อันนี้ คือ ประโยชน์ที่สำคัญที่สุด

ทุกคนที่อยู่ที่นี้ได้ยิน "ข้อความเดียวกัน" แต่ขึ้นอยู่ที่ "การพิจารณาของแต่ละคน" การฟัง ไม่ใช่ฟังแล้วผ่านแต่ ฟังแล้ว ค่อยๆ เข้าใจ สิ่งที่ได้ยิน ได้ฟังแต่จะเข้าใจได้มากหรือน้อย ก็แล้วแต่ "การสะสม" ซึ่งเป็น เรื่อง ธรรมดาธรรมดา คือ ธรรมดา เมื่อเป็นธรรม ก็ไม่ใช่เรา แต่เพราะไม่รู้ว่าเป็นธรรม ก็เลย เป็นเรา ไปทั้งหมด เพราะฉะนั้น ต้องฟังแล้วฟังอีก

แล้วจะรู้ว่าปัญญามีหลายระดับข้อสำคัญ ไม่ต้องห่วงเรื่องมรรค เรื่องผล เรื่องสติปัฏฐาน เรื่องอายตนะซึ่งเป็นข้อความในพระไตรปิฎกและอรรถกถา แต่ควรเริ่มที่ความเข้าใจว่าธรรม หมายถึงสิ่งที่มีจริงๆ ที่กำลังปรากฏแต่ ไม่เคยฟัง ไม่เคยเข้าใจ ควรฟังจนกว่าจะเข้าใจขึ้น เข้าใจขึ้น

พระผู้มีพระภาค ทรงแสดงธรรม ตามสภาพความเป็นจริง ว่าขณะใดที่เป็นธรรม เป็นกุศลบ้าง อกุศลบ้าง ตามประเภทของจิตนั้นๆ ให้รู้ความจริง ไม่ใช่มี "ตัวเรา" ไปติดข้อง ไปต้องการอะไรอีก

.

ขออนุโมทนา


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
Noparat
วันที่ 15 ธ.ค. 2551
ขออนุโมทนาค่ะ
 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
suwit02
วันที่ 15 ธ.ค. 2551

สาธุ

ขออุทิศกุศลให้แก่ผู้จากไป แม้จะนานมาแล้ว

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
ajarnkruo
วันที่ 16 ธ.ค. 2551

แทนที่จะปล่อยให้จิตใจเศร้าหมองไปด้วยความอาลัยในผู้ที่จากไปเราก็สนทนาธรรมกัน เพื่อที่จะได้อบรมเจริญปัญญาสมาทาน อาจหาญ ร่าเริง ที่ได้เข้าใจสัจจธรรมของชีวิตเกิด แก่ เจ็บ ตายเป็นสิ่งปกติ เป็นของธรรมดา เพราะเป็นความจริง

...ขออนุโมทนาครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
opanayigo
วันที่ 23 ธ.ค. 2551

สมาทาน อาจหาญ ร่าเริง ที่ได้เข้าใจสัจจธรรมของชีวิตเกิด แก่ เจ็บ ตายเป็นสิ่งปกติ เป็นของธรรมดา เพราะเป็นความจริง

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
pornpaon
วันที่ 4 ม.ค. 2552
ขออนุโมทนาค่ะ
 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
คุณ
วันที่ 29 เม.ย. 2552
ขออนุโมทนาค่ะ
 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
pamali
วันที่ 29 มิ.ย. 2553

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
chatchai.k
วันที่ 19 ก.ค. 2563

ขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ