นี่คือความอัศจรรย์ เหตุเหตุกับผล ต้องตรงกัน

 
พุทธรักษา
วันที่  7 ม.ค. 2552
หมายเลข  10863
อ่าน  1,458

ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย

สนทนาธรรมกับท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ถอดเทปโดย คุณย่าสงวน สุจริตกุล

ข้อความบางตอน จาก

มหาสกุลุทายิสูตร

ข้อความต่อไป พระผู้มีพระภาค ตรัสว่าดูกร อุทายี อีกประการหนึ่ง สาวกทั้งหลายของเราย่อมสรรเสริญในเพราะความรู้ ความเห็นที่แท้จริงว่าพระสมณโคดม เมื่อทรงรู้เอง ก็ตรัสว่า รู้เมื่อทรงเห็นเองก็ตรัสว่า เห็น ทรงแสดงธรรมเพื่อ ความรู้ยิ่ง มิใช่ทรงแสดงธรรม เพื่อ ความไม่รู้ยิ่งทรงแสดงธรรม มีเหตุ มิใช่ทรงแสดงธรรม ไม่มีเหตุทรงแสดงธรรม มีความอัศจรรย์ มิใช่ทรงแสดงธรรม ไม่มีความอัศจรรย์ อุทายี ข้อที่สาวกทั้งหลายของเรา สรรเสริญเรา ในเพราะความรู้ ความเห็น ที่แท้จริง นี้แลเป็นเหตุให้สาวกทั้งหลาย ของเราสักการะ เคารพ นับถือ บูชาเรา แล้วพึ่งเราอยู่.การที่ท่านผู้ฟังจะเคารพ นอบน้อม สักการะ ท่านผู้ใด เพราะท่านผู้นั้น แสดงธรรมเพื่อความรู้ยิ่งหรือเปล่า หรือว่า มิใช่แสดงธรรม เพื่อ ความไม่รู้ยิ่ง เพราะว่า การฟังพระธรรมนี้ ท่านจะเห็นได้ว่า บางทีไม่ได้เป็นไปในเรื่องของสภาพธรรม ที่ปรากฏตามปกติ ตามความเป็นจริง ในชีวิตประจำวัน เพื่อความรู้ยิ่ง.ถ้าเป็นอย่างนั้น ท่านจะเคารพ สักการะ นอบน้อม เพราะเหตุใด ก็ต้องเป็นไป เพราะเหตุอื่น แต่สำหรับสาวก ของพระผู้มีพระภาคนี้ นอบน้อม เคารพ สักการะในเพราะความรู้ เห็น ที่แท้จริงเมื่อทรงรู้เอง เมื่อทรงเห็นเอง ก็ตรัสว่า รู้ ตรัสว่า เห็นทรงแสดงธรรม เพื่อความรู้ยิ่ง มิใช่ทรงแสดงธรรม เพื่อความไม่รู้ยิ่ง บางท่าน ฟังธรรมแล้ว ไม่ได้เกิดความรู้ ในสภาพธรรมที่ปรากฏแต่ตรงข้าม กลับเกิด ความไม่รู้มากขึ้นแม้ในการปฏิบัติ ซึ่งกล่าวว่า เป็นการอบรมเจริญภาวนาซึ่งความหมายของ "ภาวนา" หมายถึง "ความเกิดขึ้นของปัญญา"

แต่เมื่อไม่ได้อบรมเจริญปัญญาเวลาที่ปฏิบัติไปๆ ก็เป็นความไม่รู้ขึ้นๆ ในสภาพธรรมที่ปรากฏและบางท่าน เข้าใจว่านั้นเป็นความอัศจรรย์มากเมื่อปรากฏสิ่งแปลกประหลาด ผิดปกติท่านกลับเห็นว่าเป็น ความอัศจรรย์ แต่สำหรับ พระธรรม ที่พระผู้มีพระภาค ทรงแสดงซึ่งสาวกทั้งหลายของพระองค์สรรเสริญ เพราะว่า พระผู้มีพระภาค ทรงแสดงธรรม มีเหตุ มิใช่ทรงแสดงธรรม ไม่มีเหตุทรงแสดงธรรม มีความอัศจรรย์ มิใช่ทรงแสดงธรรม ไม่มีความอัศจรรย์

อัศจรรย์ ในที่นี้ คือ ปัญญารู้แจ้งแทงตลอดในสภาพธรรม ที่กำลังเกิดดับ ทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ที่กำลังปรากฏตามปกติ ตามความเป็นจริง ในขณะนี้นี่คือ ความอัศจรรย์ เป็นความอัศจรรย์ ที่เป็นธรรม ที่มีเหตุเหตุกับผล ต้องตรงกัน แต่ไม่ใช่ความอัศจรรย์ โดยการปฏิบัติที่ไม่รู้ไม่รู้ว่า นี่เกิดอะไรขึ้น ทำไมจึงเป็นอย่างนี้ ทำไมจึงรู้สึก เหมือนกับว่า ตัวลอยขึ้นไป ซึ่งตามความจริงแล้ว ไม่ได้เป็นเช่นนั้นเลยนั่นไม่ใช่ ความอัศจรรย์

ความอัศจรรย์ต้องเป็น ปัญญา ที่สามารถรู้แจ้ง แทงตลอดในสภาพธรรม ที่กำลังเกิดดับจึงจะเป็นความ อัศจรรย์ตามเหตุ ตามผล

ขออนุโมทนา

ขออุทิศกุศลแด่สรรพสัตว์


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
suwit02
วันที่ 8 ม.ค. 2552

สาธุ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
วันชัย๒๕๐๔
วันที่ 8 ม.ค. 2552
ขออนุโมทนาครับ
 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
aditap
วันที่ 8 ม.ค. 2552

สาธุ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
เมตตา
วันที่ 9 ม.ค. 2552

ข้าพเจ้ามีความเคารพ และนอบน้อมท่านอาจารย์อย่างสูงเพราะท่านบรรยายพระธรรมเพื่อให้ได้เข้าใจเรื่องของสภาพธรรม ที่ปรากฏตามปกติ ตามความเป็นจริง ในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย และทางใจ เมื่อมีความเข้าใจในลักษณะของสภาพธรรม มีการฟังพระธรรม และพิจารณาตามบ่อยๆ เนืองๆ ก็จะเป็นเหตุให้สติระลึกตรงลักษณะสภาพธรรมตามความเป็นจริง

ขอกราบอนุโมทนาท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ที่ท่านบรรยายพระธรรมตรงตามที่พระผู้มีพระภาคทรงแสดงหนทางเพื่อให้หลุดพ้นจากทุกข์ในสังสารวัฎฎ์ได้

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
Komsan
วันที่ 9 ม.ค. 2552
ขออนุโมทนาครับ
 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
คุณ
วันที่ 10 ม.ค. 2552
ขอกราบอนุโมทนาค่ะ
 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
paderm
วันที่ 10 ม.ค. 2552

พระพุทธเจ้าทรงแสดงธรรมเพื่อความรู้ยิ่ง รู้ยิ่งในสภาพธรรมที่มีจริงในขณะนี้ว่าเป็นธรรมไม่ใช่เรา ไม่พ้นไปจากสภาพธรรมที่มีจริงในชีวิตประจำวัน ไม่ใช่ไปรู้ในเวลาอื่นที่อื่น แต่ขณะนี้เองครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
h_peijen
วันที่ 10 ม.ค. 2552
ขอกราบอนุโมทนาค่ะ
 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
pornpaon
วันที่ 11 ม.ค. 2552
ขออนุโมทนาค่ะ
 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
suwit02
วันที่ 20 ส.ค. 2552

ขออนุโมทนาในกุศลวิริยะของคุณปริศนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 11  
 
pamali
วันที่ 23 มิ.ย. 2553

กราบอนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 12  
 
chatchai.k
วันที่ 17 ธ.ค. 2563

ขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ