เหตุใดเราถึงระลึกชาติที่ผ่านมาไม่ได้

 
bauloy
วันที่  14 ม.ค. 2552
หมายเลข  10911
อ่าน  5,024

หากเราระลึกชาติที่ผ่านมาได้ เราคงจะได้รู้ที่มาของชาติปัจจุบันเพื่อ ที่จะได้ไม่สร้างอกุศลเพิ่มมากขึ้นไปอีก ....


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
study
วันที่ 14 ม.ค. 2552

ขอเชิญคลิกอ่านที่ ..

การระลึกชาติได้ ระลึกชาติ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
wannee.s
วันที่ 14 ม.ค. 2552

ชาติที่แล้วมีจริง ชาตินี้มีจริง และชาติหน้าก็มีจริง ถึงจะรู้ว่าชาติที่แล้วเป็นอะไร เมื่อยังมีกิเลสก็ยังละอกุศลไม่ได้ นอกจากอบรมอริยมรรคมีองค์ ๘ จึงจะออกจากสังสารวัฏฏ์ได้ค่ะ ยังไม่ต้องถึงกับระลึกชาติได้ เพียงแค่เมื่อปีที่แล้วเราทานอาหารอะไร กับข้าวอะไรบ้าง เราก็จำไม่ได้ ปกติปุถุชนเป็นผู้หลงลืมสติเพราะว่าถูกโมหะหรืออวิชชาปิดบังไว้ค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
ajarnkruo
วันที่ 14 ม.ค. 2552

แม้ว่าจะระลึกชาติได้แล้วก็จริง แต่ก็ไม่แน่เสมอไปว่า บุคคลนั้นจะละเว้นจากการกระทำอกุศลได้ เช่น บางบุคคลก็มีการสะสมความผูกโกรธในครั้งก่อนๆ เมื่อเกิดใหม่อีกชาติหนึ่ง ก็ได้ญาณที่ทำให้ระลึกชาติได้ แต่ก็ไม่เป็นไปเพื่อการทำกุศล แต่กลับเป็นไปเพื่อการกระทำอกุศล ซึ่งในพระไตรปิฎก ก็มีตัวอย่างอยู่ใน ฉัททันตชาดก ครับ เพราะฉะนั้นระลึกชาติได้หรือไม่ได้ ไม่สำคัญเลย สำคัญว่าขณะนี้มีความเข้าใจพระธรรมที่พระผู้มีพระภาคทรงแสดงไว้ค่อยๆ เพิ่มขึ้นทีละเล็กทีละน้อยแล้วหรือยัง ถ้ายัง ก็ควรที่จะได้ศึกษาหนทางที่จะดับอกุศลที่ต้นเหตุทั้งหมด เริ่มด้วยการฟัง แล้วพิจารณาพระธรรมแล้วน้อมประพฤติปฏิบัติตามพระธรรมที่ได้ฟัง ตามขั้นของปัญญาครับ

[เล่มที่ 61] เล่มที่ 61 พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ชาดก เล่ม ๓ ภาค ๗

ชื่อเรื่องข้อ / หน้า๔.

ฉัททันตชาดก (ติงสตินิบาตชาดก)

ว่าด้วยพญาช้างฉัททันต์

2327 / 370 อรรถกถาฉัททันตชาดก 377

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
SURAPON
วันที่ 15 ม.ค. 2552

จิตดวงนี้เป็นผลจิตของจิตชาติก่อน จึงระลึกไม่ได้ เช่นเดียวกับผลกรรมชาติก่อนที่ส่ง ผลให้เราชาตินี้ รวมทั้งนำเรามาปฏิสนธิตามกรรมที่เราได้สร้างสมมา

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
khampan.a
วันที่ 15 ม.ค. 2552

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ชีวิตที่ดำเนินไปในแต่ละวันของแต่ละบุคคลนั้น เป็นความเป็นไปของขันธ์ คือ จิต เจตสิก รูป ซึ่งไม่พ้นไปจากนามธรรม กับ รูปธรรม ตราบใดที่ยังไม่ได้ดับกิเลสทั้งหมดได้อย่างเด็ดขาด ย่อมมีการเกิดอยู่ร่ำไป เกิดแล้วตาย ตายแล้วเกิดอย่างไม่มีวันจบสิ้นชาติก่อนๆ ที่ผ่านมา ก็เป็นอย่างนี้มาแล้ว นับชาติไม่ถ้วน ทุกอย่างผ่านพ้นไปหมดแล้วไม่มีอะไรเหลือ จึงไม่ควรที่จะไปคำนึงหรือคาดหวังที่จะระลึกถึงชาติที่ผ่านมาเพื่อจะทำให้ตนเองไม่ทำอกุศล ถึงแม้ว่าจะระลึกชาติไม่ได้ แต่สามารถที่จะเจริญกุศล อบรมเจริญปัญญา สั่งสมความเข้าใจถูกเห็นถูกในชีวิตประจำวันได้ ซึ่งเป็นการสร้างเหตุใหม่ที่ดี (สังสารวัฏฏ์ของคนพาลผู้โง่เขลา ผู้ไม่รู้ความจริง ย่อมยาวนาน) จึงควรเป็นผู้ไม่ประมาทในการดำเนินชีวิตเป็นอย่างยิ่ง เพราะเหตุว่าชาตินี้อกุศลก็ยังมีมาก อีกทั้งปัญญาก็ยังไม่ได้เจริญขึ้น ถ้าหากว่าไม่เริ่มในชาตินี้ ขณะนี้ ชาติหน้าต่อไปก็จะเป็นอย่างนี้อีก คือ เป็นผู้มากไปด้วยอกุศล และไม่มีปัญญา ดังนั้น ขณะนี้จึงเป็นโอกาสที่ดีที่สุดที่เริ่มตั้งตนไว้ชอบในการศึกษาพระธรรม อบรมเจริญปัญญา เพื่อความเข้าใจที่ถูกต้องยิ่งขึ้น เพื่อละคลายความไม่รู้ ต่อไป

...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
Sam
วันที่ 15 ม.ค. 2552

หากเราระลึกชาติที่ผ่านมาได้ เราคงจะได้รู้ที่มาของชาติปัจจุบันเพื่อที่จะได้ไม่สร้างอกุศลเพิ่มมากขึ้นไปอีก ....

ข้อสงสัยของคุณ bauloy เป็นเงื่อนไขที่เป็นไปไม่ได้ และหากจะเป็นไปได้ก็ไม่ได้เป็นจริงเช่นนั้น เพราะ...

๑. การรู้ที่มาของชาติปัจจบันอย่างละเอียดจริงๆ เป็นปัญญารู้เรื่องกรรม และผลของกรรมซึ่งเป็นพุทธวิสัย และเป็นอจินไตย นอกจากพระผู้มีพระภาคแล้วไม่มีใครรู้ได้อย่างครบถ้วนและถูกต้องครับ

๒. การรู้อดีต ไม่ใช่เหตุให้กุศลหรืออุกศลเกิด ตัวอย่างเช่นเราอาจได้รู้ว่าเมื่อวานทำไม่ดีอย่างไรแล้วได้รับโทษอย่างไร แต่วันนี้หรือวันต่อๆ ไปก็อาจทำไม่ดีอย่างเดิมอีกก็ได้ครับ ทั้งนี้เพราะว่ายังมี "เหตุ"

เหตุแห่งอกุศล คือ โลภะ โทสะ และโมหะ ส่วนเหตุแห่งกุศลคือ อโลภะ อโทสะ และอโมหะ (ปัญญา) ซึ่งปัญญานี้เป็นเหตุให้กุศลทั้งหลายเจริญเพิ่มพูนขึ้น

เราเริ่มอบรมเจริญปัญญาได้ด้วยการฟังพระธรรมให้เข้าใจว่า ธรรมะคืออะไร อะไรเป็นกุศล อะไรเป็นอกุศล เมื่อมีปัญญาความเข้าใจแล้ว กุศลทั้งหลายก็จะเพิ่มพูนขึ้นได้โดยไม่ต้องห่วงกังวลกับอดีตหรืออนาคตเลยครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
พุทธรักษา
วันที่ 16 ม.ค. 2552

อกุศลจิต เกิดขึ้นตามเหตุปัจจัย เป็นปกติเป็นธรรมดา ในปัจจุบัน สติก็ระลึกรู้ ลักษณะของอกุศล ที่กำลังปรากฏแก่สติ ในปัจจุบัน ปัญญารู้ตามความเป็นจริงว่า แม้อกุศลก็ไม่ใช่เรา ที่เกิดอกุศล ในปัจจุบัน อกุศล เป็นสังขารขันธ์ ที่มีเหตุปัจจัย ปรุงแต่ง จึงเกิดขึ้น ในปัจจุบัน การวิรัติอกุศลได้ ก็ต่อเมื่อสติเกิด เห็นโทษเห็นภัยของอกุศล ในปัจจุบัน

บุคคลไม่ควรคำนึงถึง สิ่งที่ล่วงแล้ว ไม่ควรมุ่งหวังสิ่งที่ยังไม่มาถึง สิ่งใดล่วง ไปแล้ว สิ่งนั้นก็เป็นอันละไปแล้ว และ สิ่งที่ยังไม่มาถึงก็เป็นอันยังไม่ถึง ก็บุคคล ใดเห็นแจ้งธรรมปัจจุบันไม่ง่อนแง่น ไม่คลอนแคลน ในธรรมนั้นๆ ได้ บุคคลนั้นพึงเจริญธรรมนั้นเนืองๆ ให้ปรุโปร่งเถิด พึงทำความเพียร เสียในวันนี้แหละ ใครเล่าจะรู้ความตาย ในวันพรุ่ง เพราะว่าความผัดเพี้ยนกับมัจจุราช ผู้มีเสนาใหญ่นั้น ย่อมไม่มี แก่เราทั้งหลาย พระมุนีผู้สงบ ย่อมเรียกบุคคลผู้มีปกติ อยู่อย่างนี้ มีความเพียร ไม่เกียจคร้าน ทั้งกลางวัน และกลางคืน นั้นแลว่า ผู้มีราตรีหนึ่งเจริญ.

(จาก .... ภัทเทกรัตตสูตร)

ผู้มีราตรีหนึ่งเจริญ หมายถึง การเจริญสติปัฏฐาน นั่นเองคือ สติระลึกรู้ลักษณะของสภาพของนามหรือรูปที่กำลังปรากฏระลึกรู้ขณะนี้ ว่า สภาพธรรมที่ปรากฏ ไม่ใช่สัตว์ บุคคล ตัวตน

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
paderm
วันที่ 18 ม.ค. 2552
ขออนุโมทนาครับ
 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
choonj
วันที่ 19 ม.ค. 2552

นั้นนะสินะ ทำไมเราถึงระลึกชาติที่ผ่านมาไม่ได้ ขอสนทนาในประเด็นที่ระลึกอย่างเดียว จะไม่สนทนาในผลของการระลึก ถ้าจะเปลียนคำว่าระลึกเป็นจำ ซึ่งก็จะไม่ทำให้ความหมายเปลียนไปมาก เมื่อเป็นจำ จำก็คือสัญญา สัญญาเป็นเจตสิกเกิดกับจิตทุกดวง เมื่อมีจิตก็ต้องมีสัญญาแล้วทำไมถีงจำชาติที่แล้วไม่ได้ หรือว่าสัญญาในจิตที่ทำกิจปฎิสนธิจิตไม่ปรากฎความจำของชาติทีแล้ว แต่ในประเทศอินเดียมีผู้จำได้นะทำเป็นสารคดี จำได้ว่าใครเป็นพ่อ ใครเป็นญาติ ทางกลับบ้านไปทางไหน บ้านทาสีอะไรทั้งๆ ที่ตอนไปพิสูจน์บ้านเปลี่ยนสีแล้ว สถานที่เป็นยังไง ตรงนั้นเคยมีอะไร จำได้หมด อย่างนี้จะอธิบายได้ไหมครับว่าสัญญาปรากฎในจิตทำกิจปฎิสนธิ แต่อยางไรเสียผู้ที่จำได้ก็มีจำนวนน้อย ก็เลยเขียนมาให้อ่านกันเล่นๆ เท่านั้นเอง ครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 11  
 
suwit02
วันที่ 19 ม.ค. 2552

ขออนุญาตเปลี่ยนปัญหาในกระทู้นี้ ให้ตอบง่ายขึ้นนะครับ

เหตุใดเราถึงระลึกชาตินี้ ตอนอายุ 0-5 ขวบ ไม่ได้

ขอเชิญนักวิทยาศาสตร์ ชีวภาพ อธิบายหน่อยครับ ถ้าท่านอธิบายไว้อย่างไร ผมก็จะถือเอาเป็นคำตอบของกระทู้นี้ด้วย เพราะว่า ถ้าในปัจจุบันชาติยังระลึกไม่ได้ จะระลึกย้อนกลับไปไกลกว่านั้น ได้อย่างไร

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 12  
 
เมตตา
วันที่ 20 ม.ค. 2552

การเกิดมาในชาตินี้ (ปฎิสนธิจิต) เป็นผลของกรรมหนึ่งกรรมใดในอดีตที่ได้กระทำไว้ แล้วมากมาย ไม่มีใครจะหลีกหนีผลของกรรมไปได้ ไม่ว่าจะเป็นกุศลกรรมหรืออกุศลกรรม ฉะนั้น อกุศลกรรมเพียงเล็กน้อยก็ไม่พึงกระทำค่ะ แม้อกุศลจิตที่เกิดขึ้นบ่อยมาก ในชีวิตประจุบันก็ไม่ควรเลยเพราะจะสะสมจนเป็นอกุศลจิตที่มีกำลังจนสามารถกระทำ อกุศลกรรมได้ จึงไม่ควรประมาทแม้อกุศลเพียงเล็กน้อย ควรอบรมเจริญความเห็นถูก เข้าใจถูกในพระธรรม อบรมเจริญปัญญาจนกว่าจะดับกิเลสหมดสิ้นเป็นสมุจเฉท ไม่ต้องมาเวียนว่ายตายเกิดอีก

ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 13  
 
bauloy
วันที่ 16 มี.ค. 2552

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหัตตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ขอขอบพระคุณทุกคำตอบที่ทุกท่านได้มีจิตอันเป็นกุศลตอบเพื่อความกระจ่างของกระผม และผู้ที่สงสัยอื่นๆ

ขอความสุขความเจริญในธรรมจงมีแด่ท่านผู้แสดงความเห็นทุกท่านครับ....

 
  ความคิดเห็นที่ 14  
 
คุณ
วันที่ 26 ก.ย. 2552

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 15  
 
chatchai.k
วันที่ 27 ธ.ค. 2563

ขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ