พระโสดาบันไม่ทำบาป - นายพราน ชื่อว่า กุกกุฏมิตร
ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย
คู่มือศึกษาธรรม เล่ม ๒ หน้า ๑๕ - ๑๖ เรียบเรียงโดย อาจารย์สมพร ศรีวราทิตย์
เรื่อง นายพราน ชื่อว่า กุกกุฏมิตร
ว่าด้วย พระโสดาบัน ไม่ทำบาป
พระศาสดา เมื่อประทับอยู่ในพระเวฬุวัน ทรงปรารภ นายพราน ชื่อว่า กุกกุฏมิตร ในสมัย ของ พระกัสสปทศพล พวกเขา ๑๖ คน มีเศรษฐี เป็นต้น ทำกุศลไว้มาก ในพุทธุปบาทนี้ เศรษฐีนั้น เกิดในตระกูลนายพราน ภรรยา เกิดในตระกูลเศรษฐี ได้เป็นพระโสดาบัน ตั้งแต่ยังเป็นกุมาริกา เมื่ออยู่กับนายพราน ชื่อ กุกกุฏมิตร นั้น ได้บุตร และ สะใภ้ รวม ๑๔ คน พวกภิกษุ สงสัยว่า ภรรยาของเขา เป็นพระโสดาบัน แต่ยังทำบาป
พระศาสดา มาตรัสว่า "พระโสดาบัน ไม่ทำบาป แต่นางคิดว่า เราจักทำ ตามคำสั่งสามี จริงอยู่ เมื่อแผลในฝ่ามือ ไม่มียาพิษ ก็ไม่อาจให้โทษ แก่ผู้ถือได้ ชื่อว่าบาป ย่อมไม่มี แก่ผู้ไม่กระทำ"
เป็นต้นแล้ว ได้ตรัสพระธรรมเทศนานี้ว่า ปาณิมฺหิ เจ วโณ นาสฺส หเรยฺย ปาณินา วิสํ นาพฺพณํ วิสมนฺเวติ นตฺถิ ปาปํ อกุพฺพโต แปลว่า ถ้าแผล ไม่มี ในฝ่ามือไซร้ บุคคล พึงนำยาพิษ ไปด้วยฝ่ามือได้เพราะว่า ยาพิษ ย่อมไม่ซึมเข้าไปสู่ฝ่ามือที่ไม่มีแผล ฉันใด บาป ย่อมไม่มี แก่ผู้ไม่ทำบาป ฉันนั้น ดังนี้
.
อธิบาย ในบทเหล่านั้น บทว่า "นาสฺส" แปลว่า ไม่พึงมี
บทว่า "หเรยฺย" แปลว่า พึงอาจนำไปได้
ถามว่า เพราะเหตุไร
ตอบว่า เพราะว่า ยาพิษ ไม่ซึมไปสู่ฝ่ามือ ที่ไม่มีแผลจริงอยู่ ยาพิษย่อมไม่อาจซึมซาบเข้าสู่ฝ่ามือ ที่ไม่มีแผล ฉันใดชื่อว่า บาป ย่อมไม่มี แก่ผู้ไม่ทำบาป แม้นำเครื่องประหารทั้งหลาย มีธนู เป็นต้น ออกมาให้สามีเพราะไม่มีอกุศลเจตนา ฉันนั้น เหมือนกันแท้จริง บาปย่อมไม่ติดตามจิตของบุคคลนั้นเหมือนยาพิษ ไม่ซึมเข้าสู่ฝ่ามือ ที่ไม่มีแผล ฉะนั้น
ในกาลจบเทศนา ชนเป็นอันมาก ได้บรรลุโสดาปัตติผล เป็นต้น ดังนี้แล
จบ เรื่อง นายพราน ชื่อ กุกกุฏมิตร
ขออนุโมทนา
ขออุทิศกุศลแด่สรรพสัตว์
พระสูตรนี้น่าสนใจ แสดงความเห็นนะครับ มองเผินๆ ก็เหมือนนางผู้เป็นภรรยานายพรานทำบาปด้วย แต่จริงๆ แล้วนางไม่มีอกุศลเจตนา เพียงทำตามสามีสั่ง ในการหยิบธนูให้เท่านั้น และหากไม่หยิบให้ นายพรานก็สามารถ หยิบเองได้ นางก็จะบกพร่องในการทำตามคำสั่งสามี เป็นความละเอียดของธรรมะ ที่ควรศึกษา และเข้าใจสภาพธรรม
ขออนุโมทนาครับ
ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย
พระโสดาบันไม่มีเจตนาที่จะฆ่าเลยครับ ดังนั้นการกระทำเดียวกันดูภายนอกแต่จิตต่างกันก็ได้ ดังนั้นสำคัญที่ปัญญาเป็นสำคัญ ครับ
[เล่มที่ 23] พระสุตตันตปิฎก มัชฌิมนิกาย อุปริปัณณาสก์ เล่ม ๓ ภาค ๑ - หน้าที่ 308
ถามว่า ก็พระอริยสาวก พึงปลงชีวิตคนอื่นหรือ
ตอบว่า แม้ข้อนั้นก็ไม่ใช่ฐานะ (ที่มีได้)
ก็ถ้าใครๆ จะพึงกล่าวกะพระอริยสาวกผู้อยู่ในระหว่างภพ (ผู้ยังเวียนว่ายตายเกิด) ทั้งที่ไม่รู้ว่าตนเป็นพระอริยสาวก แม้อย่างนี้ว่า ก็ท่านจงปลงชีวิตมดดำ มดแดงนี้แล้ว ครอบครองความเป็นพระเจ้าจักรพรรดิในห้องจักรวาลทั้งหมด ดังนี้ ท่านจะไม่ปลงชีวิตมดดำ มดแดงนั้นเลย. แม้ถ้าจะกล่าวกะท่านอย่างนี้ว่า ถ้าท่านจักไม่ฆ่าสัตว์นี้ ฉันจักตัดศีรษะท่าน. แต่ท่านจะไม่ฆ่าสัตว์นั้น
อุทิศกุศลให้สรรพสัตว์
ท่านพระโสดาบันมีศรัทธาที่มั่นคงในพระพุทธเจ้า มีศรัทธามั่นคงในพระธรรม มีศรัทธามั่นคงในพระสงฆ์ และเป็นผู้มีศีลที่บริสุทธิ์ ท่านย่อมไม่มีเจตนาที่จะล่วงศีล อย่างแน่นอน
ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกท่านค่ะ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
พระอริยบุคคล หมายถึง บุคคลผู้ประเสริฐ เป็นผู้รู้แจ้งอริยสัจจธรรมดับกิเลสได้ตามลำดับของมรรค พระอริยบุคคล ผู้ที่ดับกิเลสได้ทั้งหมด ไม่มีกิเลสเกิดขึ้นอีกเลยนั้นเป็นพระอริยบุคคลขั้นพระอรหันต์ สำหรับพระโสดาบันบุคคลเป็นพระอริยบุคคลขั้นต้นดับกิเลสได้บางประเภท เช่น ความเห็นผิด ความสงสัยในสภาพธรรม ความริษยา,ความตระหนี่ จึงยังเป็นผู้มีกิเลสเหลืออยู่ แต่ไม่เป็นไปเพื่อการตกไปสู่อบายภูมิ เพราะท่านเป็นผู้ปิดประตูอบายได้แล้ว และพระโสดาบันเป็นผู้ที่มีความมั่นคงในพระรัตนตรัยพร้อมทั้งมีศีล ๕ ที่บริสุทธิ์ จึงเป็นไปไม่ได้เลยที่พระโสดาบันจะฆ่าสัตว์อื่น ครับ
...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...