คนที่เล่นดนตรีให้ ผู้คนฟัง ไม่ทราบว่าบาปหรือเปล่าครับ
ไม่ทราบว่า คนที่เล่นดนตรีให้ ผู้คนฟังนั้น จะให้คนอื่นมี ราคะ เกิดขึ้นไม่ทราบว่าบาปหรือเปล่าครับ อีกข้อครับ : แล้วถ้าในขณะนั้น ผู้เล่นเห็นจิตคิดที่เป็นกุศลจิต และทั้งอกุศลจิต แล้วจะบาปมากกว่าหรือน้อยกว่าอย่างไรบ้างครับ ขอบคุณครับผม
การเล่นดนตรี ส่วนใหญ่เป็นไปตามกำลังของอกุศล อกุศลทุกชนิดเป็นบาป คือไม่ดีงาม แต่บาปหรืออกุศลที่เป็นปัจจัยให้เล่นดนตรีนี้ มีโทษน้อย คือ เพียงเล่นเพราะติดใจ เล่นเพราะชอบ เล่นเพราะอยากให้คนอื่นชอบ ไม่ได้ถึงกับจะไปฆ่าสัตว์ ลักทรัพย์ประพฤติผิดในกาม หรือ พูดโกหก พูดส่อเสียด พูดคำหยาบ พูดเพ้อเจ้อ ที่สร้างความเสียหายแก่ใครโดยการเบียดเบียนประโยชน์ของผู้อื่นด้วยกาย หรือ วาจา แต่ขึ้นชื่อว่า อกุศลแล้ว แม้น้อยก็มีโทษ อุปมาเหมือนไฟแม้น้อยก็ร้อน หรือของปฏิกูลแม้น้อยก็ต้องเป็นของปฏิกูล อกุศลเหล่านี้เมื่อเกิดแล้วดับไป ก็จะสะสมจนเป็นอุปนิสัยต่อไป เช่น การเล่นดนตรี พอซ้ำๆ นานๆ เข้าก็เบื่อในสิ่งเดิมๆ ก็มีการขวนขวายพยายามที่จะสร้าง หรือประดิษฐ์ทำนองใหม่ๆ ขึ้นมาเรื่อยๆ ให้ไพเราะ น่าฟังยิ่งขึ้นไปอีกตามกำลังของความติดที่ได้สะสมไว้ ถ้าไม่ได้เสียงที่ตรงตามความปรารถนา หรือได้ฟังแต่เสียงที่ไม่น่าปรารถนา ก็จะเป็นปัจจัยให้เกิดโทสะ คือ ความไม่พอใจได้
ส่วนผู้ที่ฟังเสียงดนตรีแล้วยินดี ชอบใจ ก็เป็นอกุศลจิต เป็นราคะของผู้ฟังเองที่มีเหตุปัจจัยให้ต้องเกิด จึงเกิดขึ้น เพราะเป็นผู้ที่ยังมีกิเลสอยู่ จึงติด จึงมีการแสวงหาที่จะฟังในเสียงที่ตนติด ส่วนผู้ที่ไม่มีกิเลสอย่างพระอรหันต์ ท่านไม่ได้แสวงหาเพื่อจะฟังเสียงด้วยอำนาจของความอยาก เพียงแต่ว่าบางกาลที่จะต้องได้ยิน ท่านก็ต้องได้ยิน แต่ได้ยินแล้วไม่ติด คือ จิตไม่เป็นอกุศล เช่น ท่านได้ยินเสียงพิณอันไพเราะของเหล่าเทวดาที่มาขับกล่อมได้ แต่เมื่อดับราคะแล้ว ราคะก็ไม่เกิดอีกต่อไป
ในพระไตรปิฏกก็มีแสดงไว้ ตาลปุตต์เป็นนักเต้นรำ ทำให้คนดูหัวเราะ เขาถูกอาจารย์ สอนว่าถ้าทำอย่างนี้ ตายไปเกิดในสวรรค์ ต่อมาพระพุทธเจ้าทรงแสดงธรรมว่าคนพวก นี้ยังไม่ปราศจากราคะ โทสะ โมหะ ทำให้ผู้อื่นเพิ่มราคะ โทสะ โมหะ ขึ้นด้วย ตายไปก็ จะเกิดในนรกชื่อปหาสะ ในที่สุดท่านเห็นโทษก็ออกบวชและได้บรรลุเป็นพระอรหันต์ค่ะ