การขัดสังข์ให้ขาว
การขัดสังข์ให้ขาว หมายความว่าอย่างไร
ข้อความดังกล่าวมีอยู่หลายๆ สูตร ที่กุลบุตรที่มีอัธยาศัยในเพศบรรพชิต เมื่อท่านได้ ฟังพระธรรมแล้ว ท่านก็ปรารภว่า ฆราวาสคับแคบ บรรพชาปลอดโปร่ง การประพฤติ พรหมจรรย์ในเพศบรรพชิตให้บริสุทธิ์โดยส่วนเดียวดุจสังข์ขัดได้ ดังข้อความบางตอน ที่ยกมาดังนี้
[เล่มที่ 20] พระสุตตันตปิฎก มัชฌิมนิกาย มัชฌิมปัณณาสก์ เล่ม ๒ ภาค ๑ - หน้าที่ 11
ข้อความตอนหนึ่งจาก
กันทรกสูตร
....คฤหบดี บุตรคฤหบดี หรือผู้เกิดเฉพาะในตระกูลใดตระกูลหนึ่ง ย่อมฟังธรรมนั้น ครั้นฟังแล้วได้ศรัทธาในพระตถาคต เมื่อได้ศรัทธาแล้ว ย่อมเห็นตระหนักว่า ฆราวาสคับแคบ เป็นทางมาแห่งธุลี บรรพชาเป็นทาง ปลอดโปร่ง การที่บุคคลผู้ครองเรือน จะประพฤติพรหมจรรย์ให้บริบูรณ์ ให้บริสุทธิ์โดยส่วนเดียวดุจสังข์ขัด ไม่ใช่ทำได้ง่าย ถ้ากระไร เราพึงปลงผม และหนวด นุ่งห่มผ้ากาสาวพัสตร์ ออกจากเรือนบวชเป็นบรรพชิต สมัยต่อมา เขาละกองโภคสมบัติน้อยใหญ่ ละเครือญาติน้อยใหญ่ ปลงผมและหนวด นุ่งห่มผ้ากาสาวพัสตร์ ออกจากเรือนบวชเป็นบรรพชิต...
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
การอบรมเจริญปัญญาไม่ได้จำกัดอยู่ที่เพศใดเพศหนึ่งโดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็นเพศคฤหัสถ์หรือบรรพชิต ก็สามารถที่จะอบรมเจริญปัญญาได้ และสามารถที่จะรู้แจ้งอริยสัจจธรรมบรรลุถึงความเป็นพระอริยบุคคลขั้นต่างๆ ได้เช่นเดียวกัน ขึ้นอยู่กับปัญญาซึ่งเป็นความเข้าใจถูกเห็นถูก เป็นหลักสำคัญ สำหรับผู้ทีเห็นโทษในการอยู่ครองเรือนว่าเป็นที่ไหลมาแห่งกองอกุศลธรรมทั้งหลาย เห็นโทษในกามคุณ เป็นผู้มีอัธยาศัยน้อมไปในการบวช ท่านก็สละอาคารบ้านเรือน สละกองโภคสมบัติ สละทุกสิ่งทุกอย่างเข้ามาบวช เพื่อที่จะอบรมเจริญปัญญา ขัดเกลากิเลสในเพศของบรรพชิต ด้วยความตั้งใจจริง และเมื่อใดที่ปัญญาคมกล้าสามารถที่จะดับกิเลสทั้งปวงได้อย่างเด็ดขาด เมื่อนั้นย่อมเป็นผู้ปราศจากมลทินคือกิเลส ไม่มีกิเลสเกิดขึ้นอีกต่อไป จึงเป็นผู้บริสุทธิ์ผุดผ่องอย่างแท้จริง (อุปมาเหมือนกับสังข์ที่ขัดดีแล้ว ชำระล้างอย่างดีแล้ว ย่อมสะอาดเกลี้ยงเกลา) ครับ
...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...