เรื่องที่ควรพูด

 
พุทธรักษา
วันที่  26 ม.ค. 2552
หมายเลข  10984
อ่าน  1,453

ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย

ข้อความบางตอนจากหนังสือ พระพุทธกิจ ๔๕ พรรษา เรียบเรียง โดย คุณสุรีย์ และ เรือโท วิเชียร มีผลกิจจัดพิมพ์และเผยแพร่โดย คณะสหายธรรม

สมัยนั้น ภิกษุที่จำพรรษาอยู่ ณ พระเชตวันวิหารเมื่อกลับจากบิณฑบาต ฉันภัตตาหารแล้ว นั่งประชุมกันที่หอฉันสนทนากันถึงเรื่องต่างๆ อันเป็น ดิรัจฉานกถา

พระพุทธองค์ ตรัสว่า ไม่สมควร แก่เธอทั้งหลายผู้ป็นกุลบุตร ออกบวชเป็นบรรพชิตด้วยศรัทธาแล้วตรัส กถาวัตถุ ๑๐ ประการ ว่า พวกเธอ พึงกล่าวแต่ถ้อยคำที่

ชักนำ ให้มีความปรารถนาน้อย ๑

ชักนำ ให้สันโดษ ยินดี ด้วยปัจจัย ตามมีตามได้ ๑

ชักนำ ให้เกิดความสงบ ๑

ชักนำ ไม่ให้คลุกคลี กับหมู่คณะ ๑

ชักนำ ให้ปรารภความเพียร ๑

ชักนำ ให้ตั้งอยู่ในศีล ๑

ชักนำ ให้มีจิต ตั้งมั่น ๑

ชักนำ ให้เกิดปัญญา ๑

ชักนำ ให้ยินดี ในการหลุดพ้นจากกิเลส ๑

ชักนำ ให้เกิดความรู้ถึงผลดี ของการละกิเลส ๑

กถาวัตถุ ๑๐ ประการนี้ เมื่อนำมาสนทนากัน ย่อมก่อให้เกิดกุศลธรรม มากขึ้นทั้งทางกาย วาจา และ ใจ

ขออนุโมทนา

ขออุทิศกุศลแด่สรรพสัตว์


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
pornpaon
วันที่ 26 ม.ค. 2552
ขออนุโมทนาค่ะ
 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
suwit02
วันที่ 27 ม.ค. 2552

สาธุ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
wannee.s
วันที่ 27 ม.ค. 2552

คำพูดที่ทำให้คนฟังเกิดกุศลจิต พูดให้เห็นโทษของสังสารวัฏฏ์ คำพูดนั้นควรพูดค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
คุณ
วันที่ 27 ม.ค. 2552
ขออนุโมทนาค่ะ
 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
khampan.a
วันที่ 27 ม.ค. 2552

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ในชีวิตประจำวัน การดำเนินชีวิตของแต่ละบุคคล จำเป็นที่จะต้องพูด ต้องมีการติดต่อสื่อสารกัน เป็นเรื่องปกติ ไม่ใช่ว่าจะไม่พูดเลย ในการพูดนั้นย่อมมีเรื่องทีจะต้องพูด สำหรับผู้ได้ฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรม อบรมเจริญปัญญาเป็นปกติ มีความเข้าใจค่อยๆ เพิ่มขึ้น เจริญขึ้นไปตามลำดับ จิตใจน้อมไปในกุศลธรรม ก็ย่อมจะเป็นผู้คำนึงถึงอยู่เสมอว่าสิ่งใดควรพูด (และควรพูดในเวลาใดด้วย) สิ่งใดไม่ควรพูด โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเป็นเรื่องที่ไม่เกิดประโยชน์ เป็นกถาหรือถ้อยคำที่ขัดขวางทางสวรรค์ หรือ ทางนิพพาน เป็นถ้อยคำที่ไม่เป็นไปเพื่อความเจริญขึ้นของปัญญาด้วยแล้ว ก็ไม่ควรที่จะพูด แต่จะพูดเฉพาะในสิ่งที่เป็นประโยชน์ เป็นไปเพื่อความเจริญขึ้นของกุศลธรรมทั้งหลาย เท่านั้น พระธรรมที่พระผู้มีพระภาคทรงแสดง จึงเป็นเครื่องเตือนอย่างดียิ่งในชีวิตประจำวัน และบุคคลผู้ที่เป็นแบบอย่างที่ดีที่สุด ประเสริฐที่สุดในการพูดนั้น ย่อมไม่มีใครเสมอกับพระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ครับ

ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
opanayigo
วันที่ 27 ม.ค. 2552
อนุโมทนาค่ะ
 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
natnicha
วันที่ 1 ก.พ. 2552

รบกวนช่วยขยายความข้อความข้างต้นที่กล่าวว่า

"ชักนำ ไม่ให้คลุกคลี กับหมู่คณะ ๑"

ขอบคุณค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
paderm
วันที่ 1 ก.พ. 2552

ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย

ความคลุกคลี มี ๕ ประการคือ

คลุกคลีอันเกิดจากการเห็น เช่น เมื่อได้เห็นรูปอันสวยงามก็เกิดความยินดีพอใจใน สิ่งนั้น เมื่อกิเลสเกิดขึ้นก็ชื่อว่าคลุกคลี คลุกคลีอันเกิดจากการได้ยิน เช่น เมื่อได้ยินถึงเรื่องราวของบุคคลใด บุคคลหนึ่งก็ เกิดความยินดีพอใจในบุคคลนั้นแม้เพียงได้ยินก็ชื่อว่าคลุกคลีเพราะกิเลสเกิดขึ้น คลุกคลีอันเกิดจากการสนทนาปราศัย คลุกคลีอันเกิดจากการแลกเปลี่ยนสิ่งของ เช่น เมื่อมีการให้ของซึ่งกันและกันก็เกิด ความสนิมสนม เกิดความยินดีพอใจก็ชื่อว่าคลุกคลี คลุกคลีอันเกิดจากการสัมผัสกาย ดังนั้น การชักนำไม่ให้คลุกคลีคือการกล่าวถ้อยคำที่ไม่ให้ยินดีในการเห็น การได้ยิน สนทนาปราศัย เป็นต้น กล่าวคำพูดในการเกลียดกันอกุศลเห็นโทษของความคลุกคลีด้วยกิเลสอันนำมาซึ่งความเสื่อมของกุศลธรรมทั้งหลาย ซึ่งการคลุกคลีอันเกิดจากการยินดีในหมู่คณะด้วยการสนทนาปราศัยหรือการเห็น เป็นต้น ย่อมนำมาซึ่งอกุศลธรรมมากมาย การชักนำไม่ให้คลุกคลีในหมู่คณะคือการกล่าวถ้อยคำให้เห็นโทษของการคลุกคลีว่านำมาซึ่งอกุศลธรรมมากมายครับ แต่ว่าผู้มีปัญญาสามารถดับกิเลสแล้ว แม้อยู่กับคนหมู่มากก็ไม่ชื่อว่าคลุกคลีเลย

ขออนุโมทนาครับ

เชิญคลิกอ่านข้อความเพิ่มเติมในเรื่อง ความคลุกคลี ได้โดยตรงจากพระไตรปิฎกที่นี่

[เล่มที่ 44] พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อุทาน เล่ม ๑ ภาค ๓ - หน้าที่ 404

อุทิศกุศลให้สรรพสัตว์

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
natnicha
วันที่ 2 ก.พ. 2552

ขอบคุณและขออนุโมทนาสำหรับคำอธิบายค่ะ ทำให้เข้าใจมากยิ่งขึ้น

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
wannee.s
วันที่ 3 ก.พ. 2552

ถึงจะอยู่กับคนหมู่มาก แต่จิตเป็นกุศล ขณะนั้นก็ชื่อว่าไม่คลุกคลี แต่ถ้าอยู่คนเดียวจิตเป็นอกุศลก็ชื่อว่าคลุกคลีค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 11  
 
Komsan
วันที่ 5 ก.พ. 2552
ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกท่านครับ
 
  ความคิดเห็นที่ 12  
 
sukchit
วันที่ 13 ก.พ. 2552

เป็นลาภของกระผมแล้วที่ได้อ่าน

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 13  
 
pamali
วันที่ 21 มิ.ย. 2553

กราบอนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 14  
 
chatchai.k
วันที่ 19 ก.ค. 2563

ขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ