เห็นกายในกาย...?
ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย
สนทนาธรรมกับชาวกัมพูชาโดย อาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์
กายในกาย เป็นอย่างไร
ต้องทราบก่อน ว่า ทุกอย่างเป็นธรรม กาย ก็เป็นธรรม ขณะสัมผัส ที่กาย กระทบอ่อน หรือ แข็งลักษณะที่ อ่อน หรือ แข็ง เป็นธาตุ ซึ่งไม่มีใคร สามารถเปลี่ยนลักษณะนั้นได้
เมื่อปัญญา รู้ลักษณะของ อ่อน หรือ แข็ง ที่กายและที่อื่น ว่า แท้จริงแล้ว ก็เป็นธาตุชนิดเดียวกัน ปัญญา ที่เจริญขึ้น จนคมกล้านั้น ก็จะประจักษ์ ว่าธาตุนั้น เกิดขึ้น แล้วก็ดับไปทันทีซึ่ง ก็จะสามารถที่ทำให้ ละคลาย การยึดถือ ธาตุนั้น ว่า เป็นตัวตน
นี่คือ การ เห็นกายในกาย คือ เห็นว่ากายนี้ ไม่ใช่เรา ไม่ใช่ตัวตน
กาย หมายถึง การประชุมของอะไร
กาย หมายถึง สภาพธรรม ที่ประชุมรวมกัน จึงทำให้มี ตา หู จมูก ลิ้น และ กาย หรือ ส่วนต่างๆ เช่น ผม ขน เล็บ ฟัน หนัง ฯลฯ
กาย คำที่ ๒ หมายถึงอะไร
ถ้ารู้ว่า ทุกคน มีตา หู จมูก ลิ้น กาย และ กาย ที่จะรู้นั้น รู้เมื่อไร
ก็จะทราบว่า ที่กายทั้งตัว ตั้งแต่ศรีษะตลอดเท้ามีลักษณะ อ่อน หรือ แข็ง เมื่อกระทบสัมผัสตรงไหน ก็จะปรากฏ เฉพาะตรงนั้น เพราะว่า มีกายปสาทรูป ถ้าไม่มี กายปสาทรูป ก็ไม่สามารถที่จะรู้ลักษณะ อ่อน หรือ แข็ง ได้เลย
เพราะฉะนั้นถ้าแยกสภาพธรรมที่ปรากฏ ออกเป็น ๖ โลก คือ โลกในวินัยของพระอริยเจ้าซึ่ง มีตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ จะเข้าใจได้ถูกต้อง ว่า รูป ตั้งแต่ศรีษะตลอดเท้านั้น ปรากฏ เฉพาะตรงที่กระทบสัมผัส เท่านั้น เกิดขึ้น กระทบ ปรากฏ แล้วก็ดับไปทันที นี่จึงเป็นการ เห็นกายในกาย โดยไม่ต้อง มีการติดคำศัพท์ ว่า กายคำแรก หรือ คำที่ ๒ หมายความว่าอะไร
แต่ ให้เข้าใจจริงๆ ว่าชั่วขณะที่ จิตเห็น จิตได้ยิน จิตได้กลิ่น จิตลิ้มรส ต่างกับขณะที่ จิต กำลังกระทบแข็ง ซึ่งขณะนี้ ทุกคนกำลังกระทบแข็ง แต่เมื่อยังมี อัตตสัญญา ก็ยังมี ตัวของเรา มีนิ้วมือของเรา ฯลฯ ที่กระทบสิ่งหนึ่งสิ่งใด ที่มีลักษณะแข็ง
แต่ เมื่อรู้ความจริง ว่า เป็นธรรม ไม่ใช่ตัวเรา และ สติ ระลึกรู้ ตรงลักษณะแข็ง ที่ปรากฏ. เพราะมี กายปสาทรูปขณะนั้น ก็จะรู้ได้ว่า รูปแข็ง ต้องเกิด ถ้ารูปแข็ง ไม่เกิดขึ้น ก็ไม่มีรูปแข็ง ที่ปรากฏรูปแข็ง ที่เกิดขึ้นนั้น ปรากฏ แล้วดับไปทันที ฉะนั้น จึงไม่ใช่ตัวตนของเรา ไม่ใช่เรา
ขออนุโมทนา
ขออุทิศกุศลแด่สรรพสัตว์