พระมหาโมคคัลลานะบอกเหตุแห่งการยิ้ม - กากเปรต
[เล่มที่ 41] พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท เล่ม ๑ ภาค ๒ ตอน ๒ หน้าที่ 233
พระมหาโมคคัลลานะบอกเหตุแห่งการยิ้ม
พระเถระ กล่าวว่า "ผู้มีอายุ ผมเห็นอหิเปรตตนหนึ่ง จึงได้ทำการยิ้มแย้มให้ปรากฏ อัตภาพของเปรตนั้นเห็นปานนี้ ศีรษะของมันเหมือนศีรษะมนุษย์ อัตภาพที่เหลือของมัน เหมือนของงู นั่นชื่ออหิเปรต โดยประมาณ ๒๕ โยชน์ เปลวไฟตั้งขึ้นจากศีรษะของมัน ลามไปจนถึงหาง ตั้งขึ้นจากหางถึงศีรษะ ตั้งขึ้นในท่ามกลาง ลามไปถึงข้างทั้งสอง ตั้งขึ้นแต่ข้างทั้งสองรวมลงในท่ามกลาง" ได้ยินว่าอัตภาพของเปรตทั้งสอง นั่นแล ประมาณ ๒๕ โยชน์ ของเปรตที่เหลือประมาณ ๓ คาวุต ของอหิเปรตนี้นั่นแล และของกากเปรต ประมาณ ๒๕ โยชน์ บรรดาเปรตทั้งสองนั้น อหิเปรต เป็นดังนี้ก่อน "ท่านผู้เจริญ ในกาลแห่งพระพุทธเจ้าพระนามว่ากัสสป พวกภิกษุมากรูป เข้าไปสู่บ้านเพื่อบิณฑบาต พวกมนุษย์ เห็นพระเถระทั้งหลายแล้ว รักใคร่ นิมนต์ให้นั่งที่โรงฉัน ล้างเท้าทาด้วยน้ำมัน ให้ดื่มข้าวยาคู ถวายของควรเคี้ยว รอคอยบิณฑบาตกาลนั่งฟังธรรมอยู่ ในกาลจบธรรมกถา พวกมนุษย์รับบาตร ของพระเถระทั้งหลายแล้ว ให้เต็มด้วยโภชนะมีรสเลิศต่างๆ ในเรือนของตนๆ แล้วนำมา
ในครั้งนั้น ข้าพเจ้าเป็นกา จับอยู่ที่หลังคาแห่งโรงฉัน เห็นโภชนะ นั้นแล้วได้คาบเอาคำข้าว ๓ คำเต็มปาก ๓ ครั้ง จากบาตรอันมนุษย์ผู้หนึ่งถือไว้ แต่ภัตนั้น ยังหาเป็นของสงฆ์ไม่ มิใช่เป็นภัต ที่เขากำหนดถวายแก่สงฆ์ เป็นภัตอันเหลือจากที่ภิกษุทั้งหลายฉัน อันพวกมนุษย์พึงนำไปสู่เรือนของตน บริโภคก็ไม่ใช่ เป็นเพียงภัตที่เขานำมาเฉพาะสงฆ์อย่างเดียวเท่านั้น ข้าพเจ้า คาบเอาคำข้าว ๓ คำจากบาตรนั้น กรรมเพียงเท่านี้เป็นบุรพกรรมของข้าพเจ้า, ข้าพเจ้านั้นทำกาละแล้ว ไหม้ในอเวจี เพราะวิบากแห่งกรรมนั้น ในบัดนี้ เกิดเป็นกากเปรตเสวยทุกข์นี้ ที่ภูเขาคิชฌกูฏ ด้วยผลกรรมที่เหลือในเพราะกรรม นั้น"
เรื่องกากเปรต มีเท่านี้