มีความฟุ้งซ่านคิดวิตกกังวลจะแก้อย่างไร

 
audience
วันที่  21 เม.ย. 2549
หมายเลข  1107
อ่าน  6,124
บางครั้งคิดวิตกกังวลล่วงหน้าเรื่องที่ยังไม่เกิดขึ้น เช่น กังวลว่าการค้าขายจะขาดทุนหรือมีปัญหาที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้นกับการค้าของเรา วิตกกังวลจนบางครั้งมาก จนทำอะไรไม่ได้ ไม่รู้ว่าคนอื่นเป็นอย่างนี้หรือเปล่า จะแก้ไขอย่างไรดี

  ความคิดเห็นที่ 1  
 
study
วันที่ 21 เม.ย. 2549

ความวิตกกังวลล่วงหน้ากับเหตุการณ์ต่างๆ เป็นอกุศลวิตกของผู้ที่ยังละอกุศล

ยังไม่ได้ซึ่งก็เป็นธรรมดาทุกๆ คนก็มีกันทั้งนั้น บางคนมีมาก บางคนมีน้อยแล้ว

แต่การสะสม การเจริญกุศลทุกๆ ประการ ก็เป็นอีกทางหนึ่งที่จะทำให้กุศลจิต

เกิดแทนอกุศลวิตก และกุศลที่จะเป็นหนทางดับอกุศลวิตก ไม่ให้เกิดอีกเลย

ก็คือ การอบรมเจริญปัญญาขั้นสติปัฏฐาน จนบรรลุเป็นพระอริยบุคคล เป็น

ลำดับขั้นจนถึงพระอรหันต์ จึงจะไม่มีอกุศลวิตกอีกเลย

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
study
วันที่ 21 เม.ย. 2549
 
  ความคิดเห็นที่ 3  
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
anu
วันที่ 22 เม.ย. 2549

เรื่องวิตกกังวลผมเป็นมาก มากๆ ๆ จนจะเป็นโรคประสาท ที่เป็นเช่นนี้เพราะปัญหาไม่ได้ถูกแก้ไข และหรือบางครั้งไม่สามารถแก้ไขได้ ไม่ว่าจะเนื่องจากเงื่อนไขใดๆ ก็ตามแล้วที่แย่กว่านั้นก็คือ ไม่สามารถหาทางออกให้กับตนเองได้ ผมอาศัยการสนทนากับผู้ที่เราเคารพนับถือ ขอความเห็นและวิธีแก้ไขปัญหาครับ ทางแก้ที่แท้จริงมันมีนะครับ ธรรมมะของพระพุทธเจ้าเป็นเลิศในโลก แต่เราเอามาใช้ไม่ได้ทันท่วงที แล้วเราขาดปัญญาจนไม่สามารถเข้าใจธรรมมะอย่างแท้จริง ดังนั้นเราจึงไม่ได้แก้ไขปัญหาที่ต้นตอ เมื่อเป็นเช่นนั้นเราจึงทำได้แค่แก้ไขเหตุการณ์เฉพาะหน้าเท่านั้นเอง ผมเห็นใจคุณจัง แต่ผมก็ขจัดความกังวลในใจผมไม่ได้เช่นกันครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
prachern.s
วันที่ 24 เม.ย. 2549

อยากเรียนถามว่า ต้นตอ ของการวิตกกังวลคืออะไรครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
ต้นไม้
วันที่ 24 เม.ย. 2549

เรียนถามท่านวิทยากรว่า

ความวิตกกังวลเป็นกรรมของผู้นั้นด้วยใช่ไหม และถ้าจัดว่าเป็นกรรม แล้วจะมีวิบากเป็นอย่างไรคะ และขออนุโมทนาสมาชิก : anu prachern.s audience และมูลนิธิศึกษาและเผยแพร่พระพุทธศาสนา

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
study
วันที่ 24 เม.ย. 2549

ขณะที่มีความวิตกกังวล ขณะนั้นเป็นเพียงอกุศลจิตเท่านั้นไม่ได้ทำกรรมอะไรจึงไม่มีวิบาก

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
audience
วันที่ 24 เม.ย. 2549
ต้นตอของความวิตกกังวลน่าจะเป็นอวิชชา ขอท่านผู้รู้ช่วยตอบด้วยครับ
 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
study
วันที่ 25 เม.ย. 2549

โดยนัยของปฏิจจสมุบาท เพราะมีอวิชชาจึงมีสังขาร คือ ปุญญาภิสังขาร อปุญญาภิสังขาร และ อเนญชาภิสังขาร ซึ่งความวิตกกังวลเกิดร่วมกับอปุญญาภิสังขาร เมื่อดับอวิชชาได้แล้ว อปุญญาภิสังขารและความวิตกกังวลก็ดับ ฉะนั้น จึงควรกล่าวได้ว่าอกุศลทั้งปวงมีอวิชชาเป็นปัจจัย

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
audience
วันที่ 25 เม.ย. 2549

ความวิตกกังวลคงเป็นโทสะ เพราะเป็นความขุ่นใจ ไม่สบายใจ ซึ่งเป็นอกุศลประเภทหนึ่งมีอวิชชาเป็นปัจจัย ขออนุโมทนาท่านวิทยากรของมูลนิธิฯ ที่ช่วยให้ความกระจ่างตราบใดที่ยังมีอวิชชา ความวิตกกังวลก็เกิดได้เมื่อมีเหตุปัจจัยให้เกิด คงไม่มีใครยับยั้งได้ จนกว่าจะเจริญปัญญาดับอวิชชาเป็นสมุทเฉทแล้วใช่ไหมครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 11  
 
อ้อม
วันที่ 6 พ.ค. 2549
ถูกต้องแล้วคะ ขออนุโมทนา
 
  ความคิดเห็นที่ 12  
 
komgrip
วันที่ 4 เม.ย. 2550

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 13  
 
อิสระ
วันที่ 19 ก.ค. 2550
ขออนุโมทนาครับ
 
  ความคิดเห็นที่ 14  
 
wannee.s
วันที่ 19 ก.ค. 2550

ตราบใดที่เรายังเป็นปุุถุชน ความฟุ้งซ่าน วิตกกังวลทุกคนก็มีเป็นเรื่องธรรมดาของคนที่ยังมีกิเลส จะละความฟุ้งซ่านได้ ต่อเมื่อเราค่อยๆ อบรมปัญญาจนกว่าจะเป็นพระอรหันต์จึงจะละความฟุ้งซ่านได้หมด

 
  ความคิดเห็นที่ 15  
 
ไรท์แจกแล้วไง
วันที่ 21 ก.ค. 2550
ควรเข้าใจด้วยปัญญาว่าไม่ใช่เรา ไม่ใช่เราที่คิด มีแต่ความคิด ไม่มีเรา งงไหม ขณะคิดไม่เห็น ขณะเห็นยังไม่ใช่คิด เห็นเป็นอย่างไร คิดเป็นอย่างไร ควรรู้ชัด ประทัดก็แตกไปทีละอัน อย่างที่เคยเห็น แต่เห็นกับคิดแตกไปเร็วยิ่งกว่านั้น แต่ก็เป็นไปโดยลำดับ ไม่ใช่เราเลย
 
  ความคิดเห็นที่ 16  
 
JANYAPINPARD
วันที่ 24 ก.ค. 2550

อนิมิตตสมาธิ (สมาธิที่ไม่มีนิมิต) ...กรุณาอธิบายสมาธิที่ไม่มีนิมิต ตัดมาจาก web..นิมิต แปลว่า เครื่องหมาย คือ รูปเครื่องกำหนดจิต จับเป็นอารมณ์ นิมิตนี้ส่วนใหญ่เป็นเครื่องหมายของกสิณ แต่ทว่า กรรมฐานหมวดอื่นๆ ก็มีเหมือนกัน เช่น อสุภ-กรรมฐานก็มีรูปอสุภนิมิต อาหาเรปฏิกูลสัญญา ก็มีรูปอาหารเป็นนิมิต อย่างนี้ รวมความว่า นิมิตนั้นแยกออกเป็น ๒ อย่างคือ นิมิตที่เป็นเครื่องหมายกำหนด นิมิตจำเป็นที่นักปฏิบัติจำเป็นต้องกำหนดอย่างหนึ่ง นิมิตเลื่อนลอย เป็นนิมิตตัดรอนความดีที่นักปฏิบัติควรละประการหนึ่ง.. นิมิตเป็นสมมุตบัญญัติใช่หรือไม่

เจริญอนิมิตตสมาธิ..เจริญอย่างไร

 
  ความคิดเห็นที่ 17  
 
study
วันที่ 24 ก.ค. 2550

อนิมิตตสมาธิ เป็นชื่อของผลสมาบัติของพระอริยบุคคล คือ ในขณะบรรลุ ท่านรู้สังขารโดยความเป็นทุกข์ ดังข้อความในอรรถกถาดังนี้

เชิญคลิกอ่านได้ที่.......

กรรมปัจจุบัน ๔ อย่าง [อรรถกถากรรมกถา]

 
  ความคิดเห็นที่ 18  
 
opanayigo
วันที่ 10 มิ.ย. 2552

อนุโมทนาค่ะ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ