การเจริญสมถภาวนาไม่ใช่การดับกิเลสเป็นสมุจเฉท
การเจริญสมถภาวนาไม่ใช่การดับกิเลสเป็นสมุจเฉท เพราะไม่ใช่การประจักษ์ลักษณะของสภาพธรรม ตามปกติตามความเป็นจริง เมื่อฌานจิตไม่เสื่อมและฌานวิถีจิตเกิดก่อนจุติจิตเป็นกัมมปัจจัยให้ฌานวิบากจิต ปฏิสนธิในพรหมภูมิขั้นต่างๆ แต่เมื่อหมดอายุของพรหมภูมินั้นๆ แล้ว ก็ต้องกลับมาสู่ความเป็นอย่างนี้อีก คือ ยินดีพอใจ ติดข้องในตัวตน ในรูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ
การเคยเจริญสมถภาวนาสะสมมาบ้างในชาติก่อนๆ ในสังสารวัฏฏ์อาจจะทำให้บางท่านมีลางสังหรณ์ เป็นต้น ส่วนผู้ที่ทำสมาธิแล้วเห็นสิ่งต่างๆ เห็นเหตุการณ์ต่างๆ นั้น เมื่อไม่ใช่การอบรมเจริญสมถภาวนาด้วยมหากุศลญาณสัมปยุตตจิตที่สงบ แนบแน่น มั่นคงในอารมณ์ตามลำดับ จนเป็นฌานจิตขั้นต่างๆ ซึ่งย่อมจะเป็นไปได้ยากยิ่งนั้น ก็ไม่ใช่คุณวิเศษที่เป็นอุตริมนุสสธรรม คือธรรมที่ยิ่งกว่าปกติของมนุษย์ทั้งหลาย
ฉะนั้น เมื่อทำสมาธิแล้วเห็นสิ่งต่างๆ บ้าง เห็นเหตุการณ์ต่างๆ เป็นต้นนั้น จึงเป็นผลเล็กๆ น้อยๆ ผิดบ้าง ถูกบ้าง ของสมาธิ ซึ่งไม่ใช่การเจริญสมถภาวนา
ดาวน์โหลดหนังสือ --> ปรมัตถธรรมสังเขป
คือขอกล่าวเรื่องส่วนตัวนิดนึงครับ เมื่อก่อนผมมีความรู้แปลกๆ ที่หาคำตอบไม่ได้คือมีความรู้สึกจะทำอะไรเหมือนกับมาทำซ้ำๆ และไปในสถานที่ๆ ไม่เคยไปมาก่อน แต่มีความรู้สึกเหมือนเคยไปมาแล้วแต่จำไม่ได้ และบางครั้งการพูดจาบางคำพูดออกไปในใจ ก็ดำริว่า เอ๊ะเราพูดซ้ำอีกแล้ว ไม่ทราบเกิดจากอะไรเป็นเหตุ ไม่ได้อุตรินะครับถ้าท่านใดมีความเข้าใจในเรื่องดังกล่าวจะอธิบายก็ขออนุโมทนาครับ
ขออนุโมทนา