กรณีไหนถูกครับ

 
yoyo
วันที่  6 ก.พ. 2552
หมายเลข  11179
อ่าน  3,197

กรณีแรก....มีบางคนพูดว่าคนที่ตายอายุยังน้อยคือคนที่มีบุญน้อยถึงได้ตาย ส่วนคนที่มีอายุยืนคือคนที่มีบุญมากจึงอายุยืน

..................................หรือว่า.....................................................

กรณีที่สอง.....บางคนก็พูดว่าคนที่ตายอายุยังน้อยถือว่ามีบุญมากเพราะได้ใช้กรรมหมดไป 1 ชาติแล้ว ส่วนคนที่อายุยืนถือว่ามีบุญน้อยเพราะว่าที่ยังไม่ตายต้องอยู่ใช้กรรม

ทั้งสองกรณีนี้กรณีไหนถูกต้องครับ ขอท่านผู้รู้ช่วยให้ความรู้ด้วย กราบขอบพระคุณล่วงหน้ามากๆ ครับ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
prachern.s
วันที่ 7 ก.พ. 2552

ตามหลักพระธรรมมีอยู่ว่า ผู้ที่ตายตั้งแต่อายุยังน้อย เพราะผลของอกุศลกรรมผู้ที่มีอายุยืนนาน เพราะผลของกุศลกรรม เพราะทุกคนยังไม่อยากตาย อยากจะมีชีวิตอยู่กับสิ่งที่ตนรักนานๆ อนึ่งการใช้กรรมในสังสารวัฏฏ์ไม่มีวันหมด เพราะกรรมที่เคยทำในอดีตมีมากมาย แต่การอบรมเจริญปัญญาจนบรรลุความเป็น

พระอรหันต์ แล้วดับขันธปรินิพพาน ชื่อว่า ดับกรรมวิบากทั้งหมดได้

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
khampan.a
วันที่ 7 ก.พ. 2552

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

บุคคลผู้ที่ยังไม่ได้ดับกิเลสจนหมดสิ้นถึงความเป็นพระอรหันต์ เมื่อจุติจิตเกิดขึ้นทำกิจเคลื่อนจากความเป็นบุคคลนี้แล้วดับไป ปฏิสนธิจิตเกิดสืบต่อทันที มีการเกิดอีกอย่างไม่ต้องสงสัย จากภพหนึ่งไปสู่อีกภพหนึ่ง และการที่จะไปเกิดเป็นอะไรนั้น ย่อมเป็นไปตามกรรม ถ้าเป็นกรรมดี ย่อมให้ผลทำให้ไปเกิดในสุคติภูมิ ถ้าเป็นกรรมชั่วย่อมให้ผลทำให้ไปเกิดในอบายภูมิ ได้รับความทุกข์ทรมาน เต็มไปด้วยความเดือดร้อนอยู่เนืองๆ หมดโอกาสที่จะได้ฟังพระธรรม สำหรับการเกิดมาเป็นมนุษย์ นั้น เป็นผลของกุศลกรรม เป็นผลของกรรมที่ดีงาม เมื่อได้เกิดมาเป้นมนุษย์แล้ว การที่จะมีอายุสั้นหรือมีอายุยาวนานแค่ไหน ไม่มีบุคคลผู้ใดสามารถรู้ล่วงหน้าได้ และประการที่สำคัญถึงแม้ว่าจะเป็นผู้มีอายุยืนนาน แต่เป็นผู้ที่ประมาท มีชีวิตอยู่ด้วยความมัวเมา ไม่เจริญกุศล ไม่ได้ศึกษาพระธรรม ไม่ได้อบรมเจริญปัญญาแล้ว ย่อมเป็นชีวิตที่ไร้ค่า ไม่เป็นไปเพื่อประโยขน์ ในทางตรงกันข้าม ถ้าเป็นผู้ที่มีชีวิตอยู่ด้วยความไม่ประมาท เห็นว่าชีวิตสั้นมาก ไม่ประมาทในการเจริญกุศลประการต่างๆ พร้อมทั้งได้ฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรม อบรมเจริญปัญญา สั่งสมความเข้าใจถูก เห็นถูกขึ้นไปตามลำดับ ด้วยแล้ว แม้จะมีชีวิตที่สั้น ก็เป็นชีวิตที่ประกอบด้วยประโยชน์ เป็นชีวิตที่มีค่า ครับ

...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
paderm
วันที่ 7 ก.พ. 2552

ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย

กรณีแรก....มีบางคนพูดว่าคนที่ตายอายุยังน้อยคือคนที่มีบุญน้อยถึงได้ตาย ส่วน

คนที่มีอายุยืนคือคนที่มีบุญมากจึงอายุยืน

ควรแยกระหว่างกุศล (บุญ) และอกุศล (บาป) คนที่อายุสั้นเป็นผลของอกุศลกรรม แต่

ไม่ได้หมายความว่าเป็นผู้มีบุญน้อยหรือไม่ได้สะสมกุศลกรรมที่ทำมาในอดีต แต่เพราะ

เหตุปัจจัยพร้อมอกุศลกรรมบางอย่างให้ผลตัดรอนให้อายุของผู้นั้นสั้น ส่วนที่อายุยืน

เป็นผลของกุศลกรรม เมื่อกรรมดีที่งดเว้นจากการฆ่าสัตว์ เป็นต้น ให้ผลย่อมทำให้สัตว์

นั้นอายุยืน แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะเป็นผู้ที่มีบุญมากหรือสะสมกุศลกรรมเอาไว้มาก

เพียงแต่มีบุญที่ทำให้อายุยืนให้ผลจึงเป็นผู้มีอายุยืน ดังนั้นสัตว์ทั้งหลายสะสมทั้งกุศล

และอกุศลมามากกมายบางกาลก็มีอายุยืน บางกาลก็มีอายุสั้นตามกรรมใดว่าจะให้ผล

แต่ผู้ที่มีบุญมากที่สะสมมาแล้วคือผู้ที่สะสมการอบรมปัญญา สะสมกุศลกรรมที่ทำกับ

พระรัตนตรัยและสะสมการฟังธรรมจนเข้าใจหนทางการดับกิเลส ดังเช่นพระปัจเจก-

พุทธเจ้าองค์หนึ่ง สะสมบุญบารมีมามากแต่เพราะกรรมที่ทำให้อายุสั้นตัดรอน ท่านจึง

ปรินิพพานแม้อายุยังน้อย แต่พระปัจเจกพุทธเจ้าก็เป็นผู้สะสมบุญมาในอดีตมากจึงได้

ตรัสรู้เป็นพระปัจเจกพุทธเจ้าพุทธเจ้าครับ ดังนั้นจึงต้องแยกระหว่างกุศลและอกุศล และดูกาลเวลาย้อนไปในอดีตด้วยครับ

เพราะฉะนั้นจึงควรกล่าวให้ถูกว่า คนที่สิ้นชีวิตตั้งแต่อายุน้อยเพราะอกุศลกรรมให้ผล

เฉพาะกรรมที่ทำให้สิ้นชีวิตตั้งแต่อายุยังน้อยครับ ส่วนกุศลอื่นๆ ที่สะสมมาก็แล้วแต่ว่า

จะสะสมอะไรมาบ้าง ส่วนคนที่อายุยืนก็เพราะกุศลกรรมที่ทำให้อายุยืนให้ผล ดังนั้นจะ

กล่าวว่ามีบุญมากไม่ได้เพราะต้องรู้ว่าบุคคลนั้นสะสมอะไรมามากในอดีตครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
paderm
วันที่ 7 ก.พ. 2552

กรณีที่สอง.....บางคนก็พูดว่าคนที่ตายอายุยังน้อยเป็นถือว่ามีบุญมากเพราะได้ใช้

กรรมหมดไป 1 ชาติแล้ว ส่วนคนที่อายุยืนถือว่ามีบุญน้อยเพราะว่าที่ยังไม่ตาย

ต้องอยู่ใช้กรรม

ในกรณเดียวกันครับ มีบุญมาก บุญน้อย ไม่ได้ดูเพียงชาติเดียวและกรรมจะไม่มีทาง

หมดไปด้วยการเกิดใหม่ ตราบใดที่ยังมีกิเลสก็ต้องรับกรรมและผลของกรรมด้วยการ

เกิดใหม่ต่อไปไม่สิ้นสุด อายุยืนหรือสั้นหากยังมีกิเลสก็ต้องเกิดใหม่และต้องได้รับผล

ของกรรมตามเหตุปัจจัยที่ได้ทำกรรมอะไรไว้มากครับ ดังนั้นคำว่าใช้กรรม จึงไมได้

หมายถึงการได้รับผลของกรรมไม่ดีเท่านั้น ยังหมายถึงการได้รับผลของกรรมดีด้วยครับสำคัญที่สุดคือการอบรมปัญญาเพื่อดับเหตุคือกิเลส เมื่อดับเหตุคือกิเลสแล้วก็ไม่ต้อง

เกิดอีก เมื่อไม่เกิดก็ไม่มีการรับผลของกรรมดีและไม่ดีครับ ขออนุโมทนา อุทิศกุศลให้สรรพสัตว์

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
Sam
วันที่ 10 ก.พ. 2552

การมีบุญมากหรือน้อย ไม่ได้ขึ้นอยู่กับความยาวนานของการดำรงอัตภาพเป็นมนุษย์

แต่ขึ้นอยู่กับว่าได้อาศัยอัตภาพมนุษย์ที่ได้แล้วนี้เพื่อประโยชน์อันยิ่งหรือไม่

บุคคลผู้มีชีวิตอยู่เพียงไม่นานแต่สามารถรู้แจ้งความเป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตาของ

ชีวิต ย่อมเป็นผู้ที่มีชีวิตที่ประเสริฐ และเป็นผู้มีบุญมากกว่าผู้ที่ดำรงชีวิตอยู่ตลอดร้อยปี

โดยไม่เข้าใจพระธรรมเลยครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ