เส้นทางพุทธดำเนินก่อนปรินิพพาน...๓
จากนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสกับพระอานนท์ว่า เราจักข้ามไปฝั่งโน้น แห่งแม่น้ำหิรัญวดี เมื่อถึง สาลวัน อันเป็นที่แวะพักแห่งพวกมัลลกษัตริย์ เมืองกุสินารา มีรับสั่งให้พระอานนท์จัดที่ประทับ ระหว่างไม้สาละคู่ หันศรีษะไปทางทิศอุดรแล้วตรัสว่า เราเหนื่อยแล้ว จักนอน แล้วทรงบรรทม อนุฏฐานไสยา (นอนแล้วไม่ลุกขึ้นอีก)
ครั้งนั้น ไม้สาละคู่เผล็ดดอกบานสะพรั่ง นอกฤดูกาลร่วงหล่นโปรยปรายลงยังพระสรีระของพระตถาคตเพื่อบูชาดอกมณฑารพ จรุณแห่งจันทร์อันเป็นทิพย์ ก็ตกลงมาจากอากาศ เพื่อบูชาพระตถาคตสังคีตอันเป็นทิพย์ ก็บรรเลงเป็นไปในอากาศเพื่อบูชาพระพุทธองค์
พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสกับพระอานนท์ว่า ดูก่อนอานนท์ ตถาคตจะได้ชื่อว่า บริษัทนอบน้อมด้วยสิ่งสักการะประมาณเท่านี้ ก็หามิได้เพราะสิ่งเหล่านี้ คือ อามิสบูชา ส่วนผู้ใด ไม่ว่าเป็นภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกาที่เป็นผู้ประพฤติธรรมสมควรแก่ธรรมประพฤติตามธรรมอยู่ผู้นั้นชื่อว่าได้สักการะ เคารพ และบูชาตถาคต ด้วย ธรรมบูชาซึ่งเป็นการบูชาอันยอดเยี่ยม
ครั้งนั้น พระอุปวาณะ ยืนถวายงานพัด อยู่ต่อเบื้องพระพักตร์พระพุทธองค์มีรับสั่งให้หลีกไป พระอานนท์สงสัย ทูลถามถึงเหตุที่ตรัสเช่นนั้น พระพุทธองค์ตอบว่าเพื่อเปิดโอกาสแก่เทพยดาได้เข้ามาเฝ้าโดยใกล้ชิด
พระอานนท์ทูลถามว่า ในปัจจุบัน ภิกษุจากทิศต่างๆ จะพากันมาเฝ้าเพื่อพบเห็นพระองค์ต่อเมื่อพระองค์ล่วงไปแล้ว พวกข้าพระองค์จักมีสิ่งใดสำหรับเป็นที่ควรเห็นเพื่อระลึกถึงพระองค์ พระเจ้าข้า
พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า สังเวชนียสถาน ๔ แห่ง คือสถานที่ตถาคต ประสูติ ๑สถานที่ตถาคต ตรัสรู้อนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณ ๑สถานที่ตถาคต ยังพระธรรมจักรให้เป็นไป ๑ สถานที่ตถาคต ปรินิพพาน ๑ สังเวชนียสถาน ๔ แห่งนี้แหละ เป็นที่ควรเห็นควรระลึก ของบริษัท ๔ ผู้มีศรัทธาในพระศาสนาชนเหล่าใด จาริกไปยังสถานที่เหล่านี้ ด้วยจิตเลื่อมใสครั้นทำกาละ จักเข้าถึงสุคติโลกสวรรค์เป็นแน่แท้
พระพุทธองค์ตรัสกับพระอานนท์ต่อไปว่ามีบุคคลที่ควรแก่การสร้างสถูปไว้บูชา ๔ จำพวกชื่อว่า ถูปารหบุคคล ๔ คือ
พระตถาคตอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ๑
พระปัจเจกพุทธเจ้า ๑
พระสาวกของพระตถาคต ๑
พระเจ้าจักพรรดิ์ ๑
พระอานนท์ทูลถามอีกว่า ข้าพระองค์จะปฏิบัติต่อพระสรีระของพระองค์อย่างไร
พระศาสดาตรัสตอบว่า พวกเธออย่าขวนขวาย ในเรื่องสรีระของเราเลยจงสืบต่อประโยชน์ตน เป็นผู้ไม่ประมาท เป็นผู้มีตนส่งไปแล้วอยู่เถิดบรรดากษัตริย์ พราหมณ์ คฤหบดีผู้เลื่อมใสในตถาคต มีอยู่ชนเหล่านั้น จักกระทำการบูชาสรีระของตถาคตเอง.
เนื่องจากพระอานนท์ ยังเป็นเสขบุคคล มิอาจหักห้ามความโศกเศร้าไว้ได้ จึงออกไปยืนร้องไห้อยู่ภายนอกรำพึงว่า อีกไม่นานพระศาสดาก็จักปรินิพพานเสียแล้ว พระศาสดา เมื่อไม่เห็นพระอานนท์ จึงมีรับสั่งให้หา แล้วตรัสว่า เธออย่าโศกเศร้าร่ำไรไปเลย สิ่งใดเกิดแล้ว มีแล้ว ปัจจัยปรุงแต่งแล้วย่อมมีความดับไป เป็นธรรมดา อานนท์ เธอเป็นอุปัฏฐากตถาคต ด้วยกายกรรม วจีกรรม มโนกรรม อันประกอบด้วยเมตตา เป็นประโยชน์เกื้อกูล เป็นความสุขไม่มีสอง หาประมาณมิได้มาช้านาน เธอได้กระทำบุญไว้แล้ว เธอจงประกอบความเพียรเถิด เธอจักเป็นผู้ไม่มีอาสวะโดยพลัน
ครั้นแล้ว พระพุทธองค์ตรัสสรรเสริญพระอานนท์ แก่พระภิกษุทั้งหลายว่า อานนท์เป็นบัณฑิต รู้จักกาล รู้จักบุคคล และตรัสความอัศจรรย์ ๔ ประการ ที่มีอยู่ในพระอานนท์ คือไม่ว่าผู้ใด เมื่อได้เข้าใกล้อานนท์ย่อมยินดีทั้งที่ได้เห็น ได้ฟังธรรม พอใจในธรรมและไม่อิ่มในธรรม ที่อานนท์แสดง
จากนั้น รับสั่งให้พระอานนท์แจ้งข่าวแก่พวกมัลลกษัตริย์ว่า พระศาสดาจักปรินิพพาน ในปัจฉิมยามแห่งราตรีนี้ เพื่อประทานโอกาสแก่เหล่ามัลลกษัตริย์ ได้เข้าเฝ้าก่อนปรินิพพานกษัตริย์เหล่านั้นจะได้ไม่ร้อนใจว่าพระศาสดามาปรินิพพานในเขตคามของพวกตน แต่กลับไม่ได้เฝ้า
เมื่อพวกเจ้ามัลลกษัตริย์ ทราบข่าวจากพระอานนท์ ต่างโศกเศร้า เสียใจ รีบพากันมาเฝ้าพระพุทธองค์พระอานนท์ได้จัดให้เข้าถวายบังคมตามลำดับสกุลเสร็จสิ้น ภายในยามแรกแห่งราตรีนั้น
สาธุ
แม้พระศาสดาเสด็จปรินิพพานนานแล้ว แต่ธรรมจักรที่ทรงประกาศไว้ยังเป็นไปอยู่พระบรมสารีริกธาตุก็ยังปรากฏและในวันจันทร์ที่ 16 นี้ ท่านอาจารย์และสหายธรรมหลายท่านก็จะเดินทางไปที่อินเดียเพื่อถวายสักการะแด่ พระบรมสารีริกธาตุและสังเวชนียสถาน ด้วยอามิสบูชาและธรรมบูชา
ผมขอกราบอนุโมทนาท่านอาจารย์และสหายธรรมทุกท่าน
ขอให้เดินทางไป-กลับโดยสวัสดิภาพและขอให้ได้
เจริญกุศลธรรมทั้งหลายเต็มบริบูรณ์ตามที่ได้ตั้งใจไว้ครับ
สังเวชนียสถาน ๔ แห่ง คือสถานที่ตถาคต ประสูติ ๑ สถานที่ตถาคต ตรัสรู้อนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณ ๑ สถานที่ตถาคต ยังพระธรรมจักรให้เป็นไป ๑ สถานที่ตถาคต ปรินิพพาน ๑ สังเวชนียสถาน ๔ แห่งนี้แหละ เป็นที่ควรเห็นควรระลึก ของบริษัท ๔ ผู้มีศรัทธาในพระศาสนาชนเหล่าใด จาริกไปยังสถานที่เหล่านี้ ด้วยจิตเลื่อมใสครั้นทำกาละ จักเข้าถึงสุคติโลกสวรรค์
พระอานนท์ทูลถามว่า ในปัจจุบัน ภิกษุจากทิศต่างๆ จะพากันมาเฝ้าเพื่อพบเห็นพระองค์ต่อเมื่อพระองค์ล่วงไปแล้ว พวกข้าพระองค์จักมีสิ่งใดสำหรับเป็นที่ควรเห็นเพื่อระลึกถึงพระองค์ พระเจ้าข้า
พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า สังเวชนียสถาน ๔ แห่ง คือ สถานที่ตถาคต ประสูติ ๑ สถานที่ตถาคต ตรัสรู้อนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณ ๑ สถานที่ตถาคต ยังพระธรรมจักรให้เป็นไป ๑ สถานที่ตถาคต ปรินิพพาน ๑
สังเวชนียสถาน ๔ แห่งนี้แหละ เป็นที่ควรเห็นควรระลึก ของบริษัท ๔ ผู้มีศรัทธาในพระศาสนาชนเหล่าใด จาริกไปยังสถานที่เหล่านี้ ด้วยจิตเลื่อมใสครั้นทำกาละ จักเข้าถึงสุคติโลกสวรรค์เป็นแน่แท้
ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกท่านค่ะ