อย่างไรจึงเรียกว่ามีความเป็นกัลยาณมิตร
ใครๆ ก็รู้ว่าควรจะคบเพื่อนที่ดี ....แต่ที่ไม่รู้คือ "อะไรคือดี"
พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นกัลยาณมิตรสูงสุด
เพราะทรงชี้ทาง ให้สัตว์โลกทั้งหลายให้ประพฤติปฎิบัติตามพระธรรมที่ทรงตรัสรู้เพื่อหลุดพ้นจากทุกข์ ได้จริง.
เชิญคลิกอ่านเพิ่มเติมได้ที่.....
กัลยาณมิตร...บรรณาการที่ประเสริฐที่สุด
ขออนุโมทนาค่ะ
ใบพ้อพันห่อหุ้ม กฤษณา หอมระรวยรสพา เพริศด้วย คือคนเสพเสน่หา นักปราชญ์ ความสุขซาบฤาม้วย ดุจไม้กลิ่นหอม
ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย
กัลยาณมิตรคือบุคคลที่ประกอบด้วยธรรมงามและแนะนำให้บุคคลอื่นตั้งอยู่ในธรรม งาม มีปัญญา เป็นต้น ดังนั้นกัลยาณมิตรจึงไม่ใช่เพื่อนที่ตามใจเรา เพื่อนที่ให้ความสุข ทางใจกับเราแต่เป็นเพื่อนที่แนะนำให้เราตั้งอยู่ในกุศลธรรมและให้ออกจากกุศลธรรม ภิกษุเป็นที่รักใคร่ พอใจ เป็นที่เคารพ
ควรสรรเสริญ ฉลาดพูด อดทนต่อถ้อยคำ พูด ถ้อยคำลึกซึ้ง ไม่ชักนำในทางที่ไม่ดี ฐานะเหล่านี้ มีอยู่ในภิกษุใด ภิกษุนั้นเป็นมิตรแท้ มุ่งอนุเคราะห์ แต่สิ่งที่เป็นประโยชน์ ผู้ประสงค์จะคบมิตร ควร คบมิตรเช่นนั้น แม้จะถูกขับไล่.
จบ ทุติยสขาสูตรที่ ๖
ดังนั้นการจะรู้ว่าใครเป็นกัลยาณมิตรหรือไม่เป็นกัลยาณมิตรก็ต้องเป็นปัญญาเท่านั้น เพราะอสัตบุรุษย่อมไม่รู้ว่าใครเป็นสัตบุรุษหรืออสัตบุรุษ แต่สัตบุรุษย่อมรู้ว่าใครเป็น สัตบุรุษใครเป็นอสัตบุรุษ
เชิญคลิกอ่านที่นี่ครับ....
การรู้ว่าใครเป็นคนดีและไม่ดี [จูฬปุณณสูตร]
แต่สำคัญคือเริ่มที่เราเองก่อนเป็นกัลยาณมิตรที่ดีด้วยการศึกษาธรรมให้เข้าใจ พระธรรม เจริญกุศลทุกประการ เห็นโทษแม้อกุศลมีประมาณน้อย เมื่อฟังพระธรรม ปัญญาเจริญมากขึ้น ก็ย่อมเป็นมิตรดีเพราะเจริญในกุศลธรรม กาย วาจาที่แสดงออกมาย่อมไม่เป็นภัยกับบุคคลอื่นและย่อมแนะนำในสิ่งที่ถูกต้องเพราะมีความเข้าใจพระ- ธรรม แนะนำให้ออกจากกุศลและให้ตั้งอยู่ในกุศลธรรมครับ ขณะนี้ก็มีมิตรดีแล้วคือ พระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าและกัลยาณมิตรผู้ที่เข้าใจพระธรรมครับ ไม่ควร ประมาทในชีวิต
ขออนุโมทนาครับ
อุทิศกุศลให้เสรรพสัตว์