สีหนาทที่ไม่ก่อให้เกิดความกลัวมีหรือไม่
พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย ขันธวารวรรค เล่ม ๓ - หน้าที่ 173
อุปมาพระพุทธเจ้ากับพญาราชสีห์ เมื่อนั้น แม้ถึงเทวดาทั้งหลาย ผู้มีอายุยืน มีวรรณะงาม มียศ ก็กลัว ถึงความสะดุ้งว่า ท่านผู้เจริญทั้งหลาย ได้ยินว่า พวกเราไม่เที่ยง ฯลฯ บทว่า สีหนาทํ นทติ ความว่า อันดับแรก ไกรสรราชสีห์จะบันลือ (สีหนาท) ที่ไม่ก่อให้เกิดความน่ากลัว ๒ ครั้ง ฯลฯ หมู่สัตว์ที่อยู่ภายในพื้นที่ ๓ โยชน์ ได้ยินเสียงบันลืออย่างก้องกระหึ่มนั้นของไกรสรราชสีห์นั้นแล้วก็จะไม่สามารถจะยืนอยู่ในที่เดิมได้ ...
ทรงหมุนล้อธรรมโดยนัยเป็นต้นว่า
"ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ส่วนสุดโต่งทั้งสองเหล่านี้อันบรรพชิตไม่ควรเสพ" พึงทราบว่าเหมือนเวลาที่ราชสีห์บันลือสีหนาท ฉะนั้น.สีหนาทที่ไม่ก่อให้เกิดความกลัวมีหรือไม่ ได้แก่อะไร?
ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย
จากข้อความที่ได้ยกมาคือสีหสูตรนั้น พระพุทธเจ้าทรงแสดงธรรม เปรียบพระองค์ ดั่งเช่น ราชสีห์ ราชสีห์เมื่อจะออกล่าเหยื่อ ย่อมเปล่งสีหนาทคือเปล่งเสียงร้อง สัตว์ ทั้งหลายเมื่อได้ยินก็ย่อมตกใจกลัว ฉันใด เมื่อพระพุทธเจ้าได้ทรงแสดงธรรมว่า รูปไม่เที่ยง ... ..วิญญาณไม่เที่ยง สภาพธรรมที่มีในขณะนี้ไม่เที่ยง เกิดขึ้นและดับไป เป็นต้น เทวดาผู้มีอายุยืนได้ฟังแล้วจึงเกิดความกลัว ว่าแม้เราที่สำคัญว่าเที่ยง ยั่งยืน ก็ไม่เที่ยงเลย
ซึ่งข้อความในอรรถกถาได้อธิบายไว้ว่า ความกลัวของเทวดาที่เกิดขึ้นนั้นคือความ-กลัวที่เป็นปัญญา ระดับวิปัสสนาญาณคือ ภยญาณ ไม่ใช่ความกลัวที่เป็นโทสะหรือเป็นอกุศลครับ ดังนั้นเมื่อพระพุทธเจ้าทรงแสดงความเป็นจริงของสภาพธรรมที่ไม่-เที่ยง เป็นต้น คือการเปล่งสีหนาทของพระองค์ เทวดาย่อมเกิดปัญญา เห็นธรรมที่เกิดขึ้นและดับไปโดยความเป็นภัย เป็นของน่ากลัว ซึ่งเป็นปัญญาครับ
ดังนั้นสีหนาทคือพระธรรมที่พระองค์แสดงตามความเป็นจริงของสภาพธรรม คือ ไม่เที่ยง เป็นต้น บางคนฟังแล้วก็เฉยๆ บางคนฟังแล้วก็กลัวด้วยอกุศล เป็นโทสะ แต่ผู้มีปัญญา เมื่อฟังแล้วปัญญาเกิดจนถึงระดับวิปัสสนญาณเห็นว่าสภาพธรรมที่เกิดขึ้นและดับไปเป็นภัยเป็นของน่ากลัวครับ ดังนั้นจึงต่างกันที่ปัญญา ซึ่งในสูตรนี้แสดงว่าเห็นสภาพธรรมที่ไม่เที่ยงโดยความเป็นของน่ากลัวอันเกิดจากปัญญาครับ อุทิศกุศลให้สรรพสัตว์
เคยฟังท่านอาจารย์สุจินต์ในไฟล์หนึ่ง ได้ความว่า ท่านพระสารีบุตร บรรลือสีหนาทว่า ท่านเป็นดั่งผ้าเช็ดธุลี (รบกวนหาพระสูตรประกอบทีค่ะ)
ผู้มีปัญญาย่อมเกรงกลัวในอกุศล อันมี โลภะ โทสะ และโมหะ เป็นมูล เราได้ยินการบรรลือสีหนาทแล้วว่า
" สังขารธรรมทั้งหลาย ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา "
ควรหรือไม่ที่จะเกรงกลัว ... ... และเกรงกลัวแล้วหรือยัง
ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกท่านครับ