เหตุการณ์กรรมฐานสมัยพุทธกาล
อยากทราบเรื่อง เหตุการณ์กรรมฐานสมัยพุทธกาล ที่มีภิกษุเจริญกรรมฐาน แล้วก็ฆ่าตัวเองตาย มีความเป็นมาอย่างไร
ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย
จากเหตุการณ์เรื่องที่ภิกษุบางรูปเจริญอสุภกรรมฐาน แล้วก็ฆ่าตัวเองตาย หรือให้คนอื่นฆ่า การที่ฆ่าตัวเองหรือให้ผู้อื่นฆ่านั้นไมได้เกิดจากอสุภกรรมฐาน แต่เพราะเกิดจากกรรมเป็นปัจจัย เพราะในอดีต พวกภิกษุเหล่านี้เป็นพรานเนื้อ ฆ่าสัตว์เลี้ยงชีวิต กรรมนั้นยังตามให้ผลจึงทำให้คิดฆ่าตัวเองและให้ผู้อื่นฆ่า พระพุทธเจ้าทรงทราบว่าไม่มีผู้ใดสามารถห้ามผลของกรรมได้ ซึ่งในกลุ่มภิกษุนั้นมีภิกษุปุถุชนด้วย คติย่อมไม่แน่นอนเมื่อตายไป พระองค์จึงประทานอสุภกรรมฐานเพื่อเป็นปัจจัยเมื่อภิกษุนั้นตายไปจะเกิดในสวรรค์ครับ
ดังนั้น พระองค์ทรงทราบว่า ไม่ว่าจะให้เจริญอสุภกรรมฐาน หรือไม่เจริญ ภิกษุเหล่านั้นก็ต้องตาย เพราะกรรมเป็นปัจจัยให้ผล พระองค์ทรงอาศัยความกรุณาจึงให้อสุภกรรมฐานเพื่อบังเกิดในสวรรค์ ดังข้อความในพระไตรปิฎกที่พระอานนท์เข้าใจว่าภิกษุตายเพราะอสุภกรรมเป็นปัจจัยแต่จริงๆ เพราะกรรมของภิกษุเองที่ ฆ่าสัตว์ไว้ให้ผล
พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย มหาวารวรรค เล่ม ๕ ภาค ๒ - หน้าที่ 236
อรรถกถาเวสาลีสูตร
ที่นั้น ท่านพระอานนท์ เมื่อไม่เข้าใจถึงความสิ้นชีวิตของภิกษุเหล่านั้น เพราะผลกรรม แต่เข้าใจว่าเพราะการตามประกอบในอสุภกัมมัฏฐานเป็นปัจจัย ดังนั้น อสุภกรรมฐานจึงไม่มีโทษเลย มีคุณมาก เป็นไปเพื่อดับกิเลส หากเจริญถูกต้อง แต่ที่สำคัญการที่จะอบรมปัญญาต้องมีความเข้าใจที่ถูกต้องก่อนเสมอ จากการเริ่มฟังให้เข้าใจ ซึ่งขณะนี้มีธรรมให้เข้าใจว่าเป็นธรรมไม่ใช่เราอันเป็นหนทางดับกิเลสครับ
อุทิศกุศลให้สรรพสัตว์
พุทธประวัติที่เกี่ยวข้องกับการทำกรรมฐานสัก 3 เรื่อง ครับ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
อบรมปัญญาให้เข้าใจความจริง จะเป็นประโยชน์ทั้งชาตินี้ และชาติต่อๆ ไป กุศลที่ทำได้เสมอๆ คือ การฟังพระธรรมที่พระอรหันตสัมมาสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง มีคุณค่ามหาศาลสำหรับชีวิตที่ต้องเดินทางต่อไป อีกแสนไกล และกันดาร
ขอเชิญศึกษาพระธรรม...
รวมลิงก์เมนูต่างๆ ในเว็บไซต์
การที่ได้มีโอกาสศึกษาพระธรรม ฟังพระธรรม ทำให้มีความเข้าใจตามความเป็นจริงว่า ทุกสิ่งทุกอย่าง เป็นเพียงสิ่งที่ปรากฏแล้วก็หมดไป ไม่ว่าจะเป็นทางตา ทางหูทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย ทางใจ จิตทุกขณะเกิดขึ้นแล้วก็ดับไป หมดไป ไม่มีอะไรเหลือเลยจริงๆ จากภพหนึ่งไปอีกภพหนึ่ง ดังนั้น เมื่อเป็นเช่นนี้ สิ่งที่ควรสั่งสมไปทุกภพทุกชาติ นั่นก็คือ กุศล (รวมถึงการอบรมเจริญปัญญา ในชีวิตประจำวันด้วย)
การฟังธรรม เป็นสิ่งที่เป็นประโยชน์มาก ต้องเข้าใจตั้งแต่ต้น ทุกคำที่ได้ฟัง เป็นคำที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสด้วยพระองค์เองจากการที่ได้ทรงตรัสรู้ การตั้งจิตไว้ชอบ คือ ฟังเพื่อเข้าใจความจริง เพราะเหตุว่า พระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสทุกคำ ตรัสถึงสิ่งที่มีจริง แต่ว่า ไม่มีใครรู้ความจริงของสิ่งที่มีจริง จนกว่าพระสัมมาสัมพุทธเจ้าจะทรงตรัสรู้และทรงแสดงธรรมแต่ละคำให้เราเข้าใจ
พระธรรมคำสอนของพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ยังไม่ลบเลือน ยังไม่เสื่อมสูญไป เพราะพระไตรปิฎกและอรรถกถายังครบสมบูรณ์ จึงควรที่จะได้ศึกษาในสิ่งที่ประเสริฐที่สุด คือ พระธรรม
คำว่า "พระพุทธศาสนา" คือ พระธรรมคำสอนของพระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่เป็นไปเพื่อความเข้าใจถูกเห็นถูก ไม่ได้สอนให้ใครไปทำอะไรด้วยความไม่รู้