เสน่ห์อินเดีย 6 พิพิธภัณฑ์ที่พุทธคยา
พิพิธภัณฑ์ที่พุทธคยา
กลับจากเที่ยวชมเมืองคยาแล้ว ถึงโรงแรมประมาณ ๑๖.๑๕ น. มีเวลาพอที่จะแวะชมพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ ที่ตั้งอยู่หน้าโรงแรมนิกโก้ โลตัส เมื่อเช้าจะแวะแล้วปรากฏว่า เขาเปิด ๑๐ โมง และปิดห้าโมงเย็น ค่าเข้าคนละ ๒ รูปี ไปกัน ๓ คน ส่งเงิน๑๐ รูปีให้ (เป็นเงินอินเดียชนิดเดียวที่มี) เขาบอกว่าขายไม่ได้ เราคิดว่าราคาคนต่างชาติอีกราคาหนึ่ง แต่เขาบอกว่าไม่มีเงินทอน พอบอกว่าไม่เป็นไร ไม่ต้องทอน ก็ได้ตั๋วมา ภายในพิพิธภัณฑ์ เป็นพระพุทธรูปและเทวรูปที่ขุดพบในบริเวณนี้มากมายหลายชิ้น
ทั้งในตัวอาคารและภายนอก แต่ละชิ้นมีอายุหลายพันปี มีศิลปะสวยงาม น่าเสียดายมาก ถ้าไม่ได้เข้าไปชม มีชิ้นหนึ่งเป็นแท่งสี่เหลี่ยม แกะสลักเป็นพระพุทธรูปปางต่างๆ สวยงามมากทั้ง ๔ ด้าน เมื่อดูดีๆ แล้ว แท่งสี่เหลี่ยมนั้น คือ ศิวลึงค์ เห็นแล้วก็อดไม่ได้ที่จะเกิดโทสะ ความไม่พอใจที่เกิดจากความคิดนึกต่อการเห็นสิ่งที่ปรากฏทางตา แล้วสัญญาความจำก็สร้างเรื่องให้คิดถึงความไม่เหมาะควร ถ้าไม่รู้ว่าแท่งสี่เหลี่ยมนั้นคืออะไร ก็คงไม่เกิดโทสะ เกิดแต่โลภะอย่างเดียวว่า พุทธรูปปางต่างๆ นั้นสวยงามมาก แต่ทั้งหมดนั้นก็คือกิเลส ที่เกิดจากอวิชชา ความไม่รู้ทั้งสิ้น ไม่รู้ลักษณะของการคิดนึก การเห็น และสิ่งที่ปรากฏทางตา ว่าเป็นเพียงสภาพธรรมอย่างหนึ่งที่ล้วนแต่เกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย
ตามมาอ่านค่ะ จากวรรคตอนด้านล่างนี้
ขออนุโมทนาเป็นอย่างยิ่งค่ะ
"ความไม่พอใจที่เกิดจากความคิดนึกต่อการเห็นสิ่งที่ปรากฏทางตา แล้วสัญญาความจำก็สร้างเรื่องให้คิดถึงความไม่เหมาะควร
แต่ทั้งหมดนั้นก็คือกิเลส ที่เกิดจากอวิชชา ความไม่รู้ทั้งสิ้น ไม่รู้ลักษณะของการคิดนึก การเห็น และสิ่งที่ปรากฏทางตา ว่าเป็นเพียงสภาพธรรมอย่างหนึ่งที่ล้วนแต่เกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย"
เพราะหลงลืมสติ เพราะคิดนึกด้วยความเป็นเรา จึงเดือดร้อนเพราะกิเลสประทุษร้าย (ตัวเองก็มีเหตุปัจจัยให้เกิดโทสะ อย่างที่ไม่ต้องการให้เป็นอย่างนั้นเลยซึ่งก็บังคับไม่ได้) เพราะ "ไม่รู้" ว่าเป็นธัมมะไม่ใช่เรา T T
ขออนุโมทนาความกล้าหาญที่เขียนคำว่าศิวลึงค์มาให้อ่าน แต่เป็นที่น่าสงสัยนะทำไมมีพระพุทธรูปปางต่างๆ แกะสลักอยู่ ฮินดูเขาถือว่าพระพุทธเจ้าของเราเป็นพระเจ้าองค์ที่เก้าของเขา ครับ