เสน่ห์อินเดีย 7 ใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์

 
kanchana.c
วันที่  1 มี.ค. 2552
หมายเลข  11396
อ่าน  1,505

ใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์

สรุปแล้ว วันนี้ทั้งวันก็ยังไม่ได้แวะไปกราบต้นพระศรีมหาโพธิ์เลย ผิดกับความตั้งใจว่า จะไปกราบทุกวันที่พักอยู่ที่โรงแรมนิกโก้โลตัสที่สามารถเดินไปได้ จึงชวนกันว่าหลังอาหารเย็นแล้วจะไปที่พระเจดีย์ คราวนี้มีคุณวรรณีร่วมเดินไปด้วย ไฟฟ้าข้างทางไม่ค่อยสว่าง แต่มีไฟฉายเล็กๆ พอส่องไม่ให้ไปเหยียบกับระเบิดที่อาจมีผู้วางไว้ริมถนนตรงไหนก็ได้ เวลาสองทุ่มกว่า ทางเข้าพระเจดีย์ว่างเว้นจากผู้คน ไม่พลุกพล่านเหมือนเวลาอื่น มีผู้หญิงอุ้มลูกขอทานนั่งอยู่คนเดียว คุณวรรณีจึงแจกขนมให้ เพราะเห็นว่าไม่มีขอทานคนอื่นเลย ที่ไหนได้ พอคุณวรรณีแจกขนมเท่านั้น ไม่รู้ว่าขอทานทั้งเด็ก ทั้งผู้ชายพิการแอบอยู่มุมไหน วิ่งมารุมล้อมคุณวรรณีแน่นไปหมด คราวนี้ได้เห็นกับตาว่า คนถูกรุมนั้นเป็นอย่างไร เราเองก็ตกใจไม่รู้จะทำอย่างไร พอดีมีตำรวจแขกถือไม้กระบองมาไล่พวกนี้ให้แตกกระจายไป จึงเรียกคุณวรรณีให้มาเดินตรงกลาง คิดว่าหน้าตาเค็มๆ ของเราคงจะปกป้องคุ้มครองได้ แต่ก็ยังมีบางคนติดตามมาขออีก จึงรีบเดินเข้าพระเจดีย์ เพราะเขาห้ามคนขอทานในเครื่องแบบเข้าไปข้างใน แต่ก็เห็นขอทานนอกเครื่องแบบประปราย

เมื่อถึงบริเวณพระเจดีย์แล้วก็รู้สึกปลอดภัย คุณวรรณีเอาผ้ามาปูให้กราบพระเจดีย์ ดีเหมือนกัน เกิดมาไม่เคยมีคนปรนนิบัติอย่างนี้ ขออนุโมทนาค่ะ เราลืมเรื่องสำคัญอย่างผ้าปูกราบที่คุณแอ๊วเคยแจกให้มาหลายผืน คิดแต่เรื่องเสื้อผ้าสำหรับตัวเอง เรื่องบุญกุศลมักจะลืมอย่างนี้เสมอ แม้จะมีคนไม่หนาแน่นเท่าวันก่อน แต่ก็ยังหาที่นั่งเหมาะๆ ไม่ได้ เมื่อกราบที่พระแท่นวัชรอาสน์ใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์แล้ว ก็ได้อธิษฐานว่า ขอให้ข้าพเจ้ามีส่วนในการรู้ทั่วถึงพระธรรมที่พระองค์ตรัสรู้ด้วยเถิด ขอมากไปหรือเปล่าก็ไม่รู้ ขอให้เริ่มเข้าใจบ้างก็ได้ค่ะ

ในที่สุดก็ได้ไปนั่งแทรกแม่ชีที่คิดว่าเป็นคนไทยกำลังนั่งสมาธิอยู่ พวกเรานั่งนิ่งๆ ใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์ อุปาทานไปหรือเปล่าก็ไม่ทราบ รู้สึกว่าเหมือนมีพุทธานุภาพปกคลุมอยู่ทั่วบริเวณ ทำให้สงบเย็น อากาศก็กำลังสบาย แม้ผู้คนจะเดินสวดสรรเสริญพระรัตนตรัยประทักษิณผ่านไปมากมาย บางคณะก็แห่ผ้าเหลืองหรือธงฉัพพัณณรังสีของชาวศรีลังกาที่จะไปคลุมแท่นวัชรอาสน์ก็ตาม แต่ในความพลุกพล่านนั้นก็ทำให้เกิดปีติที่เห็นศรัทธาของชาวพุทธจากทั่วโลกมีต่อพระศาสดาองค์เดียวกัน นั่งเงียบๆ กันพักใหญ่ คุณวรรณีตาไวมาก เห็นใบโพธิ์ร่วงอยู่ข้างหน้า วิ่งไปเก็บได้ ๑ ใบ เราก็อยากได้เหมือนกัน คิดว่าพรุ่งนี้จะมานั่งรอใหม่ เมื่อดีใจที่ได้ใบโพธิ์แล้วคราวนี้ก็ไม่เงียบ เริ่มจากคุยแบบกระซิบ แล้วดังขึ้นๆ จนแม่ชีที่อยู่ข้างๆ ลืมตามามองจึงคิดว่าเราก็ควรเดินประทักษิณแล้วกลับโรงแรมได้แล้ว

ถามคุณวรรณีว่ามาอินเดียกี่ครั้งแล้ว เธอบอกว่า “๑๐ ครั้ง” เราเลยแซวว่า “อย่างนี้คุณวรรณีคงขึ้นสวรรค์หลายครั้งนะ” เธอบอกว่า “อาจตกนรกก็ได้” เรา “อ้าว ทำไมล่ะ” เธอ “ก็ยังเป็นปุถุชน มีโอกาสตกนรกได้ทุกเมื่อ ดูอย่างพระนางมัลลิกา มเหสีของพระเจ้าปเสนทิโกศล พระนางทำบุญมากมายยากที่บุคคลทั่วไปจะทำได้ ยังตกนรกเพราะก่อนตายนึกถึงกรรมอันลามกที่เคยทำไว้” คุณวรรณีเข้าใจธรรมดีจริงๆ สมกับศึกษามาหลายสิบปี และเป็นลูกศิษย์ก้นมูลนิธิฯ ของท่านอาจารย์ เมื่อเดินกลับ วีรกรรมของคุณวรรณียังคงอยู่ มีพวกเด็กขอทานเดินตามมาขออีก๒ คน เราบอกให้เดินเฉยๆ ทำท่าคุยกันไปเรื่อยๆ อย่าไปมอง พอเขาเห็นเราไม่สนใจก็จะไปขอคนอื่นเอง แต่เธอผู้มีเมตตาก็ไม่เชื่อ ยังไปคุยกับเด็กว่า ถ้าเดินตามไปโรงแรมจะให้ คราวนี้เด็กก็เดินตามร้องขอไปด้วยตลอดทาง จาก ๒ เป็น ๔ เราต้องขอร้องว่าอย่าเพิ่งให้นะ ให้ถึงป้อมยามโรงแรมก่อน เดี๋ยววิ่งตามมามากๆ แล้ว คนแก่อย่างเราจะวิ่งหนีไปไม่ทัน เมื่อถึงป้อมยาม เด็กที่ตามมาบอกว่า “๑๐ ดอลลาร์” ดูซิ ขนาดเด็กนะนี่ ขึ้นราคาค่าเดินตามมาเฉยเลย เมื่อได้แจกเงินสมใจ (ของคุณวรรณี เราไม่แจกเช่นเคย) แล้ว เข้าประตูโรงแรม ยามก็มายืนสวัสดีด้วย ก็ต้องแจกยามด้วย แจกคนเดียว ยามบอกว่า มีข้างในอีกคน

อยู่อินเดีย รู้สึกว่า เงินเป็นยิ่งกว่าพระเจ้า คือ เป็นบิดาของพระเจ้าทุกคนอยากได้เงิน ทำความเคารพเราก็เพราะอยากได้เงิน เฝ้ารองเท้าก็อยากเงินเรียกเราว่า “มหาราชา มหารานี” ก็เพราะอยากได้เงินของเรา ตัวเราก็อยากได้เงินเหมือนกัน แต่ไม่ใช่จากการขอ หรือด้วยการทำทุจริต เรารู้ว่า การได้เงินหรือได้ลาภนั้น ไม่ได้ด้วยความอยาก แต่ได้เพราะมีเหตุ คือ บุญที่ทำไว้แล้ว ไม่ว่าจะเป็นทาน ศีล เป็นต้น แต่เมื่อบุญที่ทำไว้แล้วนั้นให้ผลเท่าที่มีอยู่ในปัจจุบัน ก็น่าจะพอใจแล้ว เพราะ "ความไม่พอใจจนเป็นคนเข็ญ พอแล้วเป็นเศรษฐีมหาศาล จนทั้งนอกจนทั้งในไม่ได้การ จงคิดอ่านแก้จนเป็นคนพอ” (จากหนังสือ “อุทานธรรม” ของพระศาสนโสภณ (แจ่ม จตฺตสลฺลเถร) วัดมกุฎกษัตริยาราม)


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
opanayigo
วันที่ 2 มี.ค. 2552

ตามมาอีกแล้ว คิดแต่เรื่องเสื้อผ้าสำหรับตัวเอง เรื่องบุญกุศลมักจะลืมอย่างนี้เสมอ วลีนี้อ่านแล้วเข้าไปในใจเลยค่ะ

ขออนุโมทนาเป็นอย่างยิ่งค่ะ :)

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
namarupa
วันที่ 2 มี.ค. 2552

ตามมาด้วย......

เรื่องขอทานที่อินเดียเนี่ยตัวเองก็เข็ดไปอีกนาน เพราะเกือบโดนเหยียบตายทั้งเป็น ไม่รู้มากันจากไหน เห็นเด็กๆ แล้วสงสารก็อยากให้ แต่ต้องคิดหน้าคิดหลังให้ดีๆ ก่อนให้ไม่อย่างนั้นอาจจะบาดเจ็บจากการถูกเหยียบจากเด็กๆ เป็นร้อยโดยไม่มีโอกาสได้ตั้งตัว ตัวเองก็มีเรื่องขำๆ ที่อยากจะเล่าให้เพื่อนๆ ทางบ้านได้อ่าน แต่เอาไว้ทีหลังละกันค่ะ ให้มีเวลานั่งหน้าจอคอมนานๆ ก่อน พี่แดงขาจะพิมพ์เป็นหนังสือมั้ยคะเนี่ย?

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
suwit02
วันที่ 2 มี.ค. 2552

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
JANYAPINPARD
วันที่ 2 มี.ค. 2552

ขออนุโมทนาคะ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
saifon.p
วันที่ 2 มี.ค. 2552

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
choonj
วันที่ 3 มี.ค. 2552

อ่านแล้วก็ขออนุโมทนาคุณวรรณีที่มั่นคงในการให้ ไม่ว่าจะถูกตื้ออย่างไร ยอเป็นมหารานี รุม อ้อนวอน ก็ยังให้ เป็นการเจริญทานที่มีกำลัง เครื่องขัดขวางที่จะไม่ให้มีมากมายแต่ก็ไม่สามารถหยุดคุณวรรณีได้ ครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
เมตตา
วันที่ 3 มี.ค. 2552

เมื่อกราบที่พระแท่นวัชรอาสน์ใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์แล้ว ก็ได้อธิษฐานว่า ขอให้ข้าพเจ้ามีส่วนในการรู้ทั่วถึงพระธรรมที่พระองค์ตรัสรู้ด้วยเถิด ขอมากไปหรือเปล่าก็ไม่รู้ ขอให้เริ่มเข้าใจบ้างก็ได้ค่ะเมตตาเองก็ขอเหมือนกันค่ะพี่แดง โลภก็ต้องมีสลับกันไปบ้างน่ะพี่ แต่เมื่อยังมีความตั้งใจมั่นที่จะฟังพระธรรมให้เกิดความเข้าใจถูกเห็นถูก อกุศลเป็นปัจจัยให้เกิดกุศลน่ะพี่แดง

ขออนุโมทนาในกุศลจิตของพี่แดงค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
petcharath
วันที่ 4 มี.ค. 2552

ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกท่านด้วยค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
pornchai.s
วันที่ 4 มี.ค. 2552

อนุโมทนา ครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
pornpaon
วันที่ 8 มี.ค. 2552

อ่านทีไรก็ได้รับคำเตือนสติสั้นๆ แต่มีความหมายแยบคายอย่างยิ่งทุกทีไป

ขออนุโมทนาคุณป้าแดงค่ะ

ขออนุโมทนาในกุศลจิตและกุศลวิริยะของทุกท่านค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 11  
 
wirat.k
วันที่ 8 มี.ค. 2552

“ความไม่พอใจจนเป็นคนเข็ญ พอแล้วเป็นเศรษฐีมหาศาล จนทั้งนอกจนทั้งในไม่ได้การ จงคิดอ่านแก้จนเป็นคนพอ” จากหนังสือ “อุทานธรรม” ของพระศาสนโสภณ (แจ่ม จตฺตสลฺลเถร) วัดมกุฎกษัตริยาราม

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 12  
 
chatchai.k
วันที่ 13 พ.ย. 2563

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ