ขอคำปรึกษาเรื่องพระที่ทำนายดวงชะตาค่ะ

 
luping
วันที่  1 มี.ค. 2552
หมายเลข  11398
อ่าน  1,384

ปรกติแล้วดิฉันสนใจอ่านหนังสือธรรมะ แต่เรื่องที่ขอคำปรึกษานี้ไม่ทราบว่าจะเกี่ยวกับเรื่องธรรมะหรือไม่ค่ะ ดิฉันเกิดความไม่สบายใจกับเรื่องการทำนายดวงชะตาจากพระรูปหนึ่ง จึงขอความกรุณาทุกท่านช่วยแนะนำให้ด้วย

เนื่องจากช่วง1ปีที่ผ่านมา ดิฉันมีชีวิตที่ไม่ค่อยราบรื่น ทั้งเรื่องงาน และความเจ็บไข้ ช่วงนั้นจิตใจฟุ้งซ่าน และบังเอิญได้อ่านเว็บๆ หนึ่งกล่าวถึงเรื่องการเปลี่ยนชื่อ จึงได้เข้าไปตั้งกระทู้สอบถาม ซึ่งก็มีบุคคลหลายๆ ท่านเข้ามาตอบกระทู้ ดิฉันได้ส่งอีเมลไปถามรายละเอียดเพิ่มเติมกับบุคคลท่านหนึ่ง มาทราบภายหลังว่าท่านเป็นพระ (จากในอีเมล์ที่ท่านตอบกลับมา และท่านเป็นพระที่เชี่ยวชาญเรื่องโหราศาตร์--ทราบจากที่ดิฉันลอง search ชื่อของท่านในกูเกิ้ล) ซึ่งดิฉันได้แจ้งเรื่องวันเดือนปีและเวลาเกิดให้ท่านทราบเพื่อให้ท่านช่วยตรวจสอบดวงชะตา ท่านได้ตรวจดวงชะตาและตอบกลับทางอีเมลว่า ดวงชะตาดิฉันมีแนวโน้มจะป่วยเป็นโรคร้ายแรง เช่น มะเร็ง และมีเกณฑ์อายุสั้น ซึ่งทำให้ดิฉันไม่สบายใจมาก และท่านได้แนะนำให้เปลี่ยนชื่อ โดยท่านก็บอกชื่อหลายๆ ชื่อมาให้ดิฉันโดยไม่ได้คิดค่าใช้จ่ายใดๆ

สิ่งที่ดิฉันอยากขอคำปรึกษาคือ

ก. ดิฉันควรเปลี่ยนชื่อหรือไม่คะ ชื่อมีผลกับชีวิต และสุขภาพหรือไม่

ข. การทำนายดวงชะตาของพระที่เชี่ยวชาญเรื่องโหราศาสตร์เชื่อถือได้หรือไม่คะ

ค. ดิฉันควรทำอย่างไรให้รอดพ้นจากความเจ็บป่วย และอายุสั้นตามที่พระท่านทำนายหรือมีวิธีสร้างบุญเพื่อลดทอนวิบากกรรมตรงนี้หรือไม่คะ

ตอนนี้ดิฉันก็เพิ่มความระมัดระวังเรื่องการรับประทานอาหาร และออกกำลังกายทุกวัน แต่ในใจก็อดคิดเรื่องคำทำนายตรงนี้ไม่ได้ค่ะ ไม่รู้จะปรึกษาใครดี

ขอบคุณทุกท่านค่ะ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
prachern.s
วันที่ 2 มี.ค. 2552
ก. ตามหลักพระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า ชื่อ เป็นเพียงคำบัญญัติ ไม่มีผลต่อชีวิตและสุขภาพเลยข. เชื่อถือไม่ได้ เพราะเป็นเรื่องการคาดเดาทั้งนั้น ไม่ได้รู้จริง ไม่ควรใส่ใจค. การดูแลสุขภาพที่ดี คือการรับประทานอาหารที่เป็นประโยชน์และถูกสุขลักษณะ การหมั่นออกกำลังกาย การพักผ่อนให้เพียงพอ เพียงเท่านี้ก็เป็นพื้นฐานที่ทำให้ห่างไกลจากโรคภัยไข้เจ็บได้ระดับหนึ่ง และถ้าจะดียิ่งขึ้นไปกว่านั้น ก็คือ การให้อาหารใจ ด้วยการศึกษาพระธรรมคำสอนให้เข้าใจ อบรมเจริญปัญญา และเจริญกุศลทุกประการจะทำให้ชีวิตมีสาระ และมีความสุขมากขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ครับ
 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
จำแนกไว้ดีจ๊ะ
วันที่ 2 มี.ค. 2552
ข้อ ค ไปตรวจสุขภาพซิครับ เรื่องง่ายๆ โดยเฉพาะโรคมะเร็งต้องตรวจที่สถาบันมะเร็ง

แห่งชาติ ต้องจองคิวด้วยครับ

ทุกคนต้องแก่ ต้องป่วย

รูปร่างกาย ไม่ใช่ตน ไม่ใช่เรา
 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
วันชัย๒๕๐๔
วันที่ 2 มี.ค. 2552
คำถามเช่นนี้ยังมีอีกมากครับ เพราะปุถุชนเช่นเราย่อมเต็มไปด้วยอวิชชา ความไม่รู้มากมาย ท่านได้พบสถานที่ให้ความรู้ความจริงของชีวิตที่ถูกต้องตามคำสอนของพระพุทธองค์แห่งนี้แล้ว หากได้ศึกษาพระธรรมคำสอนให้เข้าใจ คำถามต่างๆ ที่มีจะน้อยลงเรื่อยๆ ครับ เมื่อเข้าใจชีวิตตามความเป็นจริงมากขึ้น ความทุกข์ความกังวลต่างๆ ย่อมน้อยลง เพราะมั่นคงในพระธรรมมากขึ้นนั่นเองครับ
 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
booms
วันที่ 2 มี.ค. 2552

ผู้ที่จะมั่นคง ยึด นับถือพระรัตนตรัยเป็นสรณะ เป็นที่พึ่งที่ประเสริฐสุด ควรเป็นผู้

ที่มีปัญญา มีความรู้ถูก เข้าใจถูก ในพระสัจธรรมอย่างแนบแน่น... โดยไม่ศรัทธา ไม่เชื่อถือ ในมงคลตื่นข่าวทั้งหลาย

ไม่ศรัทธา ไม่เชื่อถือ ในคำสอนของลัทธิอื่นที่นอกคำสอนของพระสัมมา

สัมพุทธเจ้า.....

จึงจะได้ชื่อว่า ยึดถือ นับถือ พระรัตนตรัยเป็นสรณะอย่างแท้จริง......

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
saifon.p
วันที่ 2 มี.ค. 2552

ขอให้มั่นคงเรื่องกรรมนะคะ หากไม่ได้สร้างเหตุมาในสังสารวัฎ ไม่ว่าโรคอะไรก็ไม่เป็น แต่หากมีเหตุ อย่างไรก็ต้องเกิด ท่านอาจารย์เคยพูดว่า "ทุกข์เพราะชื่อว่ามะเร็ง" น่าคิดนะคะ...

ไปพบแพทย์เช็ดร่างกายจะได้สบายใจ คิดมากคิดบ่อย....เครียด...ไม่มีคำตอบ

ความเครียดก็เป็นสาเหตุหนึ่งของโรคร้ายค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
suwit02
วันที่ 3 มี.ค. 2552

ขอเชิญอ่านหนังสือ

มีชีวิตอยู่ด้วยปัญญา

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
luping
วันที่ 3 มี.ค. 2552

ในเรื่องการตรวจสุขภาพ ดิฉันก็มีการตรวจเช็คเป็นประจำอยู่แล้วค่ะ ก็เป็นปกติดี แต่ที่สร้างความไม่สบายใจก็คือเรื่องคำทำนาย จึงได้เข้ามาตั้งกระทู้ถามค่ะ ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาตอบนะคะ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
paderm
วันที่ 3 มี.ค. 2552

ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย

สัตว์ทั้งหลายมีกรรมเป็นของๆ ตน ดวงดาวจะทำไรได้ การให้ผลของกุศลหรืออกุศล

นั้นขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย แต่ไม่ใช่เพราะชื่อหรือดวงดาวแต่ขึ้นอยู่กับการประกอบกรรมดี

หรือไม่ดี ยกตัวอย่างเช่น ในเรื่องของปโยคะอันเป็นปัจจัยหนึ่งที่จะทำให้ผลของกุศล

หรืออกุศลกรรมให้ผล เมื่อประกอบความดีเนืองๆ (ปโยคสมบัติ) ก็ย่อมเป็นปัจจัยให้ผล

ของกุศลกรรมให้ผลแทนที่ผลของอกุศลกรรมจะให้ผล ในทางตรงกันข้ามหากว่าเป็น

ผู้ประกอบอกุศลกรรมเนืองๆ ย่อมมีโอกาสเป็นปัจจัยให้ผลของอกุศลกรรมให้ผลได้แทน

ที่จะเป็นกุศลกรรมให้ผลครับ

ดังนั้นสิ่งที่สำคัญคือทุกอย่างต้องเป็นไปตามเหตุ ปัจจัยตามที่กล่าวมา ประโยชน์

ของการเข้าใจพระธรรมก็คือ การเจริญกุศลมากขึ้นและอบรมปัญญาเพื่อความเข้าใจที่

ถูกต้องครับ กุศลธรรมและปัญญาเป็นที่พึ่งที่แท้จริงครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
paderm
วันที่ 3 มี.ค. 2552

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย เอกนิบาตชาดก เล่ม ๓ ภาค ๒-หน้าที่ 373

นามสิทธิชาดก
ว่าด้วยชื่อไม่เป็นของสำคัญ

ธรรมดาคนเราถึงจะชื่อว่าชีวก แม้จะชื่อ อชีวก คงตายเท่ากัน ถึงจะชื่อ ธนปาลี แม้จะชื่อ อธนปาลี ก็เป็นทุคคตะ (คนยากจน) ได้ทั้งนั้น ถึงจะชื่อปันถกะ แม้จะชื่ออปันถกะ ก็หลงทางได้เหมือนกัน ชื่อเป็นเพียงบัญญัติสำหรับเรียกกัน ความสำเร็จเพราะชื่อมิได้มีเลย ความสำเร็จมีได้เพราะการกระทำเท่านั้น พอกันทีเรื่องชื่อสำหรับกระผม กระผมขอใช้ชื่อเดิมนั่นแหละต่อไป พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย เอกนิบาตชาดก เล่ม ๓ ภาค ๒ - หน้าที่ 49

๙. นักขัตตชาดก

ว่าด้วยประโยชน์คือฤกษ์

[๔๙] " ประโยชน์ได้ล่วงเลยคนโง่เขลา ผู้มัวคอยฤกษ์อยู่ ประโยชน์เป็นฤกษ์ ของประโยชน์ดวงดาวจักทำอะไรได้."

อุทิศกุศลให้สรรพสัตว์

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
suwit02
วันที่ 3 มี.ค. 2552

ประโยชน์เป็นฤกษ์ของประโยชน์ดวงดาวจักทำอะไรได้

สาธุ

ที่นี่น่ารื่นรมย์

 
  ความคิดเห็นที่ 11  
 
khampan.a
วันที่ 4 มี.ค. 2552

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ธรรมดาของแต่ละบุคคล ย่อมมีชื่อเพื่อหมายให้รู้ว่าเป็นใคร การที่จะเป็นคนดีหรือไม่ดี พร้อมทั้งการได้รับผลที่ดีน่าปรารถนา น่าใคร่น่าพอใจ หรือ ได้รับผลที่ไม่ดี ไม่น่าปรารถนาไม่น่าใคร่ไม่น่าพอใจ นั้น ไม่ได้อยู่ที่ชื่อ แต่ขึ้นอยู่กับกรรม คือ การกระทำ และไม่มีใครทำอะไรให้ได้เลย ถึงแม้ว่าจะมีชื่ออย่างไรก็ตาม เมื่อประกอบกรรมชั่ว ทำแต่อกุศลกรรม เมื่อเหตุปัจจัยพร้อม ผลที่จะเกิดขึ้นย่อมไม่ดีอย่างแน่นอน ในทางตรงกันข้าม ถ้าเป็นผู้ไม่ประมาทในการเจริญกุศลประการต่างๆ ประพฤติสุจริตทั้งทางกายทางวาจา และทางใจ พร้อมทั้งศึกษาพระธรรม ฟังพระธรรม อบรมเจริญปัญญาในชีวิตประจำวัน เพื่อความเข้าใจถูกเห็นถูกยิ่งขึ้น ผลก็ต้องดี เพราะเหตุย่อมสมควรแก่ผลอย่างไรก็ตาม เมื่อได้เกิดมาเป็นมนุษย์แล้ว มีโอกาสได้ฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรม สะสมความเข้าใจถูกเห็นถูกขึ้นไปตามลำดับ ย่อมเป็นชีวิตที่มีค่า เพราะเป็นโอกาสที่หาได้ยากเป็นอย่างยิ่ง และกุศลธรรมทั้งหลายทั้งปวง ก็จะเจริญขึ้นไปตามลำดับด้วย เมื่อได้เข้าใจธรรมเพิ่มขึ้น ครับ ...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...
 
  ความคิดเห็นที่ 12  
 
opanayigo
วันที่ 20 มี.ค. 2552

กรรมคือ คำตอบของชีวิต (หาอ่านได้ที่มูลนิธิฯค่ะ)

ธัมมะ คือ ความเข้าใจ

เมื่อเข้าใจ เหตุและผล ก็เข้าใจทุกสิ่ง

ขออนุโมทนานะคะ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ