เรื่องสวดพระธรรมด้วยทำนอง [จุลวรรค]
[เล่มที่ 9] พระวินัยปิฎก จุลวรรค เล่ม ๗ ภาค ๒ - หน้าที่ ๘
เรื่องสวดพระธรรมด้วยทำนอง
[๒๐] สมัยต่อมา พระฉัพพัคคีย์สวดพระธรรมด้วยทำนองยาวคล้ายเพลงขับ ชาวบ้านเพ่งโทษ ติเตียน โพนทะนาว่า พระสมณะเชื้อสายพระศากยบุตรเหล่านั้น สวดพระธรรมด้วยทำนองยาวคล้ายเพลงขับ เหมือนพวกเราขับ ภิกษุทั้งหลายได้ยินพวกนั้นเพ่งโทษ ติเตียน โพนทะนาอยู่ บรรดาที่เป็นผู้มักน้อยต่างก็เพ่งโทษ ติเตียน โพนทะนาว่าไฉนพระฉัพพัคคีย์จึงได้สวดพระธรรมด้วยทำนองยาวคล้ายเพลงขับ แล้วกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า.
พระผู้มีพระภาคเจ้า ทรงสอบถามภิกษุทั้งหลายว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ข่าวว่า จริงหรือ.
ภิกษุทั้งหลายกราบทูลว่า จริง พระพุทธเจ้าข้า.
พระผู้มีพระภาคพุทธเจ้าทรงติเตียน ครั้นแล้วทรงทำธรรมีกถารับสั่งกะภิกษุทั้งหลายว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุสวดพระธรรมด้วยทำนองยาวคล้ายเพลงขับ มีโทษ ๕ ประการนี้ คือ:-
๑.ตนยินดีในเสียงนั้น
๒.คนอื่นก็ยินดีในเสียงนั้น
๓.ชาวบ้านติเตียน
๔.สมาธิของผู้พอใจการทำเสียงย่อมเสียไป
๕.ภิกษุชั้นหลังจะถือเป็นเยี่ยงอย่าง.
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย โทษ ๕ ประการนี้แล ของภิกษุผู้สวดพระธรรมด้วยทำนองยาวคล้ายเพลงขับ.
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุไม่พึงสวดพระธรรมด้วยทำนองยาวคล้ายเพลงขับ รูปใดสวด ต้องอาบัติทุกกฏ.
สาธุ
และก็มีพระนักเทศน์ เทศน์เป็นทำนองร้องเพลงก็ผิดวินัยและต้องอาบัติกันหมด แล้วพระเหล่านั้นไม่รักษาพระธรรมวินัย อย่างนี้ชาวอุบาสก อุบาสิกา จะทำอย่างไร ในเมื่อพระในสมัยนี้ทำผิดพระธรรมวินัยทุกรูปแบบกันทั่วแผ่นดิน เช่นรับเงิน รับทอง ชักชวนให้ตักบาตรด้วยข้าวสารอาหารแห้ง สวดมนต์ไม่รู้คำแปล เรียนทางโลก ยินดีรับใช้โยม ปลุกเสก เลขยันต์ ใช้วิชาเดรัจฉานวิชา ปลุกเสกวัตถุให้เป็นของขลัง ทำน้ำมนต์ พ่นน้ำมัน ก่อสร้างที่เรียกกันว่าเป็น ถาวรวัตถุในพระศาสนา แบบผิดวินัย โดยเฉพาะการปั้นรูปเหมือนจำลองแทนตัวพระพุทธเจ้าวางจำหน่ายกันทั่วประเทศ ชักชวนกันนำเงินไปทำบุญผ้าป่า กฐินให้พระยินดีในการรับเงินทอง และพระที่มีตำแหน่งก็รับเงินเดือน ฆาราวาส อย่างเราๆ ท่านๆ จะต้องทำอย่างไรในการช่วยดูแลพระศาสนาให้ดำรงอยู่นานถึง 5000 ปี เพราะคณะสงฆ์ และหน่วยงานที่ดูแล ทอดธุระหมดแล้ว ไม่ใช่ ไม่ดูแลอย่างทั่วถึง ขอถามท่านผู้รู้ด้วยค่ะว่าจะทำอย่างไรกันดีค่ะ เพราะตอนนี้กำลังต้องการรณรงค์ให้ชาวพุทธได้ศึกษาพระศาสนาให้เกิดปัญญา เพราะจะได้ตรวจสอบพระทั้งหลายที่ทำผิดวินัย และก็จะได้เตือนท่านได้ เป็นการช่วยรักษาพระศาสนาอีกทางหนึ่งค่ะ