ความเป็นอนัตตา ด้วยอำนาจความเป็นทุกข์ไว้ [อนัตตลักขณสูตร]

 
เมตตา
วันที่  3 มี.ค. 2552
หมายเลข  11474
อ่าน  1,215

[เล่มที่ 18] พระสุตตันตปิฎก มัชฌิมนิกาย มูลปัณณาสก์ เล่ม ๑ ภาค ๒ หน้าที่ 314

จักษุจึงเป็นอนัตตา

ความเป็นอนัตตา ด้วยอำนาจความเป็นทุกข์ไว้ ในอนัตตลักขณสูตรนี้ว่าดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็รูปนี้เป็นอัตตา รูปนี้ก็ไม่พึงเป็นไปเพื่ออาพาธ จะพึงได้ในรูปว่า รูปของเราจงเป็นอย่างนี้ รูปของเราอย่าเป็นอย่างนั้นเลย ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็เพราะรูปเป็นอนัตตา ฉะนั้น รูปจึงเป็นไปเพื่ออาพาธ ทั้งไม่ได้ในรูปว่า ขอรูปของเราจงเป็นอย่างนี้ รูปของเราอย่าเป็นอย่างนี้เลย ดังนี้

ทรงแสดงความเป็นอนัตตา ด้วยอำนาจความไม่เที่ยง และเป็นทุกข์ทั้งสองไว้ในอรหัตตสูตรนี้ว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย รูปไม่เที่ยง รูปใดไม่เที่ยง รูปนั้นก็เป็นทุกข์ รูปใดเป็นทุกข์ รูปนั้นก็เป็นอนัตตา รูปใดเป็นอนัตตา รูปนั้นก็ไม่ใช่ของเรา เราก็ไม่เป็นรูปนั้น รูปนั้นก็ไม่ใช่อัตตาของเรา พึงเห็นรูปนั้น ด้วยปัญญาอันชอบตามเป็นจริง ดังกล่าวมานี้ เพราะเหตุไร เพราะ อนิจฺจํ และ ทุกฺขํ ปรากฏแล้ว อนัตตายังไม่ปรากฏ จริงอยู่ เมื่อภาชนะใส่ของบริโภคเป็นต้นแตกไป คนทั้งหลายก็กล่าวว่า อโห อนิจฺจํ โอ ไม่เที่ยงหนอไม่มีคนกล่าวว่า อนัตตา หรือเมื่อต่อมฝีทั้งหลายเกิดขึ้นที่ร่างกาย หรือคนถูกหนามแทง ก็กล่าวกันว่า อโห ทุกขํ โอ ทุกข์หนอ แต่ไม่มีคนกล่าวว่า อโห อนตฺตา โอ ไม่ใช่อัตตาหนอ เพราะเหตุไร เพราะชื่อว่า อนัตตลักขณะนี้ ไม่ชัด เห็นยาก รูปเที่ยงบ้าง ทุกข์บ้าง ทั้งไม่เที่ยงทั้งทุกข์ทั้งสองบ้าง รูปนี้นั้น ทรงแสดงด้วยอำนาจไม่เที่ยงเป็นทุกข์เท่านั้นในปริวัฏ ๓ แม้นี้ แม้ในเวทนาเป็นต้น ก็นัยนี้เหมือนกัน


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
suwit02
วันที่ 4 มี.ค. 2552

สาธุ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
chatchai.k
วันที่ 28 ธ.ค. 2563

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ