ฝั่งนี้...ฝั่งโน้น
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
พระธรรม ที่พระผู้มีพระภาค ตรัสไว้ดีแล้ว อันได้แก่ โลกุตตรธรรม ๙ ประการ นั้นเป็นธรรม ที่ละเอียดอ่อน สุขุม ลุ่มลึกยากที่จะหยั่งถึงได้ ผู้ที่มีความปรารถนาที่จะ เข้าถึงพระธรรม ต้องสนใจศึกษาและประพฤติปฏิบัติตาม อย่างจริงจัง มีความพากเพียร บากบั่น มั่นคงเสมอต้น เสมอปลาย และไม่ละทิ้ง เสียในระหว่างทาง เมื่อยังไม่เห็น "ผล"
เพราะว่า การที่จะ มีศรัทธา และ ตั้งมั่นอยู่ในพระธรรมตราบเท่าที่ "ผล" ยังไม่ปรากฏ คือ ยังเข้าไม่ถึงธรรม ยากมาก ที่จะมีความมั่นคง หากศรัทธานั้นขาดปัญญา ขาดการพิจารณาเห็นโทษของกิเลส แม้เพียงเล็กน้อย กิเลสน้อยนั้น เสมอด้วยภูผา ควรอย่างยิ่งที่จะเห็นโทษ และละคลายกิเลสนั้นๆ ด้วยความไม่ประมาท
เพราะเหตุว่า คนเป็นจำนวนมาก ยังลุ่มหลง มัวเมาอยู่ใน โลกียธรรม อันเป็น ธรรมฝั่งนี้ เป็นการยากมากในการจะก้าวไปสู่ โลกุตตรธรรม อันเป็นธรรมฝั่งโน้น สมจริงดังที่พระผู้มีพระภาคตรัสไว้ในสคารวสูตร อังคุตตรนิกาย ทสกนิบาต ข้อ ๑๑๗ ข้อความตอนหนึ่งที่ว่า ในโลกมนุษย์นี้ ผู้ไปถึงฝั่ง มีประมาณน้อย ส่วนหมู่สัตว์ นอกนี้ เลาะไปตามฝั่ง ทั้งนั้น ส่วนชนเหล่าใด เป็นผู้ประพฤติ ตามธรรม ในธรรม อันพระตถาคต ตรัสไว้แล้วโดยชอบ ชนเหล่านั้น จักข้ามพ้น จากวัฏฏะ อันเป็นบ่วงมาร ที่ข้ามพ้นได้แสนยาก แล้วจักถึง ฝั่งโน้น คือ พระนิพพาน
โลกุตตรธรรม อันเป็น ฝั่งโน้น มีแต่เฉพาะ ใน พระธรรมวินัย ของพระตถาคตศาสดา เท่านั้น จึงนับว่า เป็นลาภ ของพวกเรา ที่มีโอกาส สามารถละจากฝั่งนี้ข้ามไปฝั่งโน้นได้ในสักวันหนึ่ง ถ้าหากไม่ประมาท
ด้วยเมตตาและปรารถนาดี "คณะสหายธรรม"
ข้อความบางตอนจาก "คุยกันวันพุธ" เล่มที่ ๑๙" ฝั่งนี้ - ฝั่งโน้น" โดย คณะสหายธรรม
.
ขออนุโมทนา