นิมิต อนุพยัญชนะ.
มีคำถามมาขอเรียนถามท่านวิทยากร ดังนี้ครับ
เท่าที่พอจะมีโอกาสได้ฟังมา จะได้รับฟังคำบรรยาย "การติดในนิมิต อนุพยัญชนะ" ในสิ่งที่ปรากฏทางตาบ่อยๆ และจากการที่ได้ค้นคว้าข้อมูลในกระทู้เดิม ก็ได้พบข้อความที่ควรแก่การศึกษามากมาย จากทั้งในพระไตรปิฎกและความเห็นของท่านผู้แสดงธรรมว่า การติดในนิมิตของสิ่งที่ปรากฏทางตา ด้วยอำนาจฉันทราคะ คือ เห็นว่าเป็นสัณฐานชาย/หญิง ส่วนการติดในอนุพยัญชนะ คือ เห็นว่ามืองาม เท้างาม ตางาม ฯลฯ เหล่านี้ (ถ้าสรุปผิด กรุณาแก้ไขให้ด้วยครับ)
ทีนี้ มีข้อสงสัย คือว่า ถ้าเป็นการติดในนิมิต อนุพยัญชนะ ในสิ่งที่ปรากฏทางหู จมูก ลิ้น กาย จะเป็นไปโดยนัยเดียวกันกับการติดในนิมิต อนุพยัญชนะในสิ่งที่ปรากฏทางตาหรือไม่ อย่างไรครับ การติดในนิมิตของเสียงที่ปรากฏทางหู จะเป็นการเห็นว่าเสียงนั้นเป็นชาย/หญิง/สัตว์/วัตถุต่างๆ ส่วนการติดในอนุพยัญชนะของเสียงนั้น จะเป็นการเห็นว่าเสียงนั้นไพเราะ น่ารักน่าใคร่ เสียงสวย เสียงดี อย่างนี้หรือไม่ครับ
ขอความกรุณาท่านวิทยากรช่วยอธิบายให้เข้าใจด้วย ครับ
ขอขอบพระคุณและขออนุโมทนาในคำตอบครับ
ถูกต้องครับ ถ้าเข้าใจการติดนิมิต อนุพยัญชนะ ทางทวารตา ทางทวารอื่นๆ ก็มีลักษณะเดียวกัน คือ ติดด้วยอำนาจของโลภะ
ส่วนหยาบ เป็นนิมิต
รายละเอียด เป็นอนุพยัญชนะ เป็นที่ตั้งของกิเลส.
จิตของปุถุชนรู้นิมิต อนุพยัญชนะ เป็นกุศลก็ได้ เป็นอกุศลก็ได้ แต่พระอรหันต์ท่านก็รู้นิมิต อนุพยัญชนะ เหมือนกัน แต่ท่านไม่มีความยินดีติดข้อง จิตของท่านเป็นกิริยา ถ้าสติปัฏฐานเกิด สามารถรู้อาการของธาตุรู้ คือปรมัตถ์ ในขณะนั้นได้ จึงจะค่อยๆ ละความเป็นเรา ต้องอาศัยการอบรมเจริญปัญญาอย่างเดียว จึงจะละความติดข้องได้ค่ะ
อนุพยัญชนะ เป็นที่ตั้งของกิเลส
ธรรมเตือนใจดี
อนุโมทนาค่ะ
ขณะที่เห็น ขณะนั้น รูปารมณ์ ปรากฏ พร้อม "นิมิต" แต่ รูปารมณ์ มีจริง มี "ลักษณะ" เพราะว่า รูปารมณ์ เป็น "ปรมัตถธรรม"