ตนแลเป็นที่พึ่งของตน [เรื่องมารดาของพระกุมารกัสสปเถระ]
[เล่มที่ 42] พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท เล่ม ๑ ภาค ๒ ตอน ๓ - หน้าที่ 208
ทำที่พึ่งแก่ตนเองแล จึงตรัสว่า "ภิกษุทั้งหลาย เพราะบุคคลอาศัยคนอื่น ไม่สามารถเพื่อจะมีสวรรค์หรือมรรคเป็นที่ไปในเบื้องหน้าได้ ฉะนั้นตนนั่นแหละเป็นที่พึ่งของตน คนอื่นจะทำอะไรได้" ดังนี้แล้ว ตรัสพระคาถานี้ว่า:-
๔. อตฺตา หิ อตฺตโน นาโถ โก หิ นาโถ ปโร สิยา อตฺตนา หิ สุทนฺเตน นาถํ ลภติ ทุลฺลภํ "ตนแลเป็นที่พึ่งของตน. บุคคลอื่นใครเล่า พึงเป็นที่พึ่งได้ เพราะบุคคล มีตนฝึกฝนดีแล้ว ย่อมได้พึ่ง ที่บุคคลได้โดยยาก"
แก้อรรถ บรรดาบทเหล่านั้น
บทว่า นาโถ คือเป็นที่พำนัก พระผู้มีพระภาคเจ้า ตรัสคำนี้ไว้ว่า "บุคคลตั้งอยู่ในตน คือสมบูรณ์แล้วด้วยตน สามารถจะทำกุศลแล้วถึงสวรรค์ หรือเพื่อยังมรรคให้เจริญ หรือทำให้แจ้งซึ่งผลได้, เพราะเหตุนั้นแหละ ตนแลพึงเป็นที่พึ่งของตน. คนอื่นใครเล่า? พึงเป็นที่พึ่งของใครได้. เพราะบุคคลมีตนฝึกดีแล้ว คือมีความเสพผิดออกแล้ว ย่อมได้ที่พึ่งซึ่งบุคคลได้โดยยาก กล่าวคือพระอรหัตตผล
ก็คำว่า "นาถํ ลภติ ทุลฺลภํ" นี้ พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสหมายเอาพระอรหัต
ในเวลาจบเทศนา ชนเป็นอันมาก บรรลุอริยผลทั้งหลาย มีโสดาปัตติผลเป็นต้น ดังนี้แล
เรื่องมารดาของพระกุมารกัสสปเถระ จบ
ผมเข้าใจความหมายของคำว่า ตนเป็นที่พึ่งของตน แต่ไม่เข้าใจที่มาของหัวข้อนี้ว่า เกี่ยวข้องกับมารดาของพระกุมารกัสสปเถระ ขอความกรุณาครูบาอาจารย์ หรือท่านผู้รู้ช่วยกรุณาเมตตาอธิบายให้กระจ่างด้วยครับ
ขอบพระคุณ
ตามเรื่องในอรรถกถาคาถาธรรมบท ก่อนที่พระพุทธองค์จะตรัสพระคาถา ทรงปรารภมารดาของพระกุมารกัสสปเถระ ดังนั้น ชื่อเรื่องจึงเป็นเช่นนั้น ครับ
"ตนแลเป็นที่พึ่งของตน บุคคลอื่นใครเล่า พึงเป็นที่พึ่งได้ เพราะบุคคล มีตนฝึกฝนดีแล้ว ย่อมได้พึ่ง ที่บุคคลได้โดยยาก"
พระธรรมที่ได้ยินได้ฟังมาคิดเอาเองไม่ได้จริงๆ ละเอียด ลึกซึ้ง ควรพิจารณาไตร่ตรองให้เข้าใจจริงๆ
ขออนุโมทนาค่ะ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น