ลักษณะห้ามภัต [มหาวิภังค์]

 
JANYAPINPARD
วันที่  19 มี.ค. 2552
หมายเลข  11687
อ่าน  1,903

[เล่มที่ 4] พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ ทุติยภาค เล่ม ๒ - หน้าที่ ๕๐๑

ลักษณะห้ามภัต ที่ชื่อว่า ห้ามภัตแล้วคือ

กำลังฉันอาหารอยู่ ๑

ทายกนำโภชนะมาถวายอีก ๑

ทายกอยู่ในหัตถบาส ๑

ทายกน้อมถวาย ๑

ภิกษุห้ามเสีย ๑

[เล่มที่ 4] พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ ทุติยภาค เล่ม ๒ - หน้าที่ ๕๐๔

เพราะบรรดาองค์ ๕ นั้น ด้วยองค์ว่า อสนํ ปญฺญายติ นี้ ภิกษุผู้ฉันค้างอยู่ จึงเป็นอันเรียกว่า ผู้ห้ามภัต ส่วนภิกษุใด ชื่อว่าผู้ฉันค้างอยู่,โภชนะบางอย่างภิกษุนั้นฉันแล้ว บางอย่างยังไม่ได้ฉัน และเพราะหมายเอาโภชนะที่เธอฉันแล้ว จึงถึงการนับว่า ผู้ฉันเสร็จ

เพราะฉะนั้น ด้วยคำว่า ภุตฺตาวี เราจึงไม่เห็นความสำเร็จประโยชน์อะไรแผนกหนึ่ง. ก็คำว่า ภุตฺตาวี นี้ บัณฑิตพึงทราบว่า พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสแล้ว โดยความเป็นบทบริวารแห่งบทว่า ปวาริตะ และโดยความเป็นพยัญชนะสละสลวย ดุจคำว่า ๒ คืนเป็นต้น ในคำว่า ๒ - ๓ คืน. . .๖ คำ ๕ คำ. . .เป็นต้น ในองค์ว่า อสนํ ปญฺญายติ เป็นต้น มีวินิจฉัยดังนี้.

การฉันค้างปรากฏ อธิบายว่า ถ้าบุคคลผู้กำลังฉันนี้อยู่

องค์ว่า โภชนํ ปญฺญายติ ได้แก่ โภชนะเพียงพอแก่การห้ามปรากฏอยู่. อธิบายว่า ถ้าโภชนะมีข้าวสุก เป็นต้นอย่างใดอย่างหนึ่ง ที่จะพึงห้ามมีอยู่.

องค์ว่า หตฺถปาเส ฐิโต มีความว่า หากทายกถือเอาโภชนะเพียงพอแก่การห้ามอยู่ในโอกาสประมาณ ๒ ศอกคืบ

องค์ว่า อภิหรติ มีความว่า ถ้าทายกนั้น น้อมภัตนั้นถวายแก่ภิกษุนั้น ด้วยกาย

องค์ว่า ปฏิกฺเขโป ปญฺญายติ คือการห้ามปรากฏ อธิบายว่าถ้าภิกษุนั้นปฎิเสธโภชนะที่เขาน้อมถวายนั้น ด้วยกายก็ดี ด้วยวาจาก็ดี ภิกษุย่อมเป็นผู้ชื่อว่าห้ามภัตแล้ว ด้วยอำนาจแห่งองค์ ๕ ด้วยประการอย่างนี้แล


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
chatchai.k
วันที่ 9 ก.ค. 2563

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ