ประสงค์จะเป็นพระพุทธเจ้า ผิดหรือไม่
หากเราตั้งความประสงค์จะเป็นพระพุทธเจ้า เช่นนี้จะผิดหรือไม่
ความคิดว่า อยากเป็นพระพุทธเจ้า ทุกคนอาจจะมีความคิดอย่างนี้ได้ในบางกาลแต่จริงๆ แล้วไม่ใช่แค่ความคิดอยากเท่านั้น เป็นเรื่องใหญ่มากจริงๆ ไม่ใช่ธรรมดาเพราะเป็นอัธยาศัยใหญ่ของผู้ที่มีปัญญามากเท่านั้น ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ เอาแค่ง่ายๆ ก่อนคือ ชีวิตประจำวันทำทุกอย่างไม่ใช่เพื่อตนเอง แต่ทำเพื่อผู้อื่น เพื่อส่วนรวมเพื่อธรรมะ สละได้ทุกอย่าง ไม่เห็นแก่ตัว อันนี้เป็นเบื้องต้น แต่ถ้าต้องการรายละเอียดขอเชิญศึกษาจากจริยาปิฎก ซึ่งเป็นจริยาวัตรของพระโพธิสัตว์ก่อนเป็นพระพุทธเจ้า คือบำเพ็ญบารมี ๓๐ ทรรศ มหาบริจาค ๕อย่าง เป็นต้น ขอเชิญอ่านข้อความบางตอนจากจริยาปิฎกเรื่องฉันทะครับ
[เล่มที่ 74] พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย จริยาปิฎก เล่ม ๙ ภาค ๓ - หน้าที่ 583
.... บทว่า ฉนฺทตา คือพอใจในกุศลด้วยความใคร่ที่จะทำ. จริงอยู่ความปรารถนาย่อมสำเร็จแก่ผู้ประกอบด้วยธรรมตามที่กล่าวแล้ว มีความพอใจมาก มีความปรารถนามาก มีความใคร่เพื่อจะทำมาก เพื่อประโยชน์แก่ธรรมอันทำให้เป็นพระพุทธเจ้าเท่านั้น. ไม่สำเร็จแก่คนนอกนี้. ต่อไปนี้เป็นความเปรียบเทียบ เพราะความเป็นผู้มีฉันทะใหญ่. พึง ทราบความที่ฉันทะเป็นความใหญ่หลวง ในบทว่า ฉนฺทตา นี้ โดยนัยมีอาทิดังต่อไปนี้ :- บุคคลฟังมาว่า ผู้ใดสามารถข้ามท้องจักรวาลนี้ทั้งสิ้นอันมีน้ำท่วมนองเป็นอันเดียวกัน ด้วยกำลังแขนของตนเท่านั้นแล้วจะถึงฝั่งได้ผู้นั้นย่อมถึงความเป็นพระพุทธเจ้า แล้วไม่ย่อท้อเพราะทำได้ยาก กลับพอใจว่า เราจักข้ามถึงฝั่งได้. ไม่แสดงอาการสยิ้วหน้าในกาลนั้นเลย อนึ่ง บุคคลฟังมาว่า ผู้ใดเหยียบจักรวาลนี้ทั้งสิ้นอันเต็มไปด้วยถ่านเพลิงปราศจากเปลวไฟ ปราศจากควันไฟด้วยเท้าทั้งสองสามารถก้าวเลยไปถึงฝั่งได้. ผู้นั้นย่อมถึงความเป็นพระพุทธเจ้า. แล้วไม่ย่อท้อเพราะทำได้ยากกลับพอใจว่า เราจักก้าวเลยไปถึงฝั่งได้. เขาไม่แสดงอาการสยิ้วหน้าในการนั้นเลย. อนึ่ง บุคคลฟังมาว่า ผู้ใดสามารถทะลุจักรวาลทั้งสิ้นปกคลุมด้วยพุ่มไม้ไผ่หนาทึบ รกรุงรังไปด้วยป่าหนามและเถาวัลย์ แล้วก้าวเลยไปถึงฝั่งได้ ฯลฯ เขาไม่แสดงอาการสยิ้วหน้าในการนั้นเลย. อนึ่ง บุคคลฟังมาว่า ผู้ใดที่หมกไหม้ในนรกตลอดอสงไขยแสนกัป จะพึงบรรลุความเป็น พระพุทธเจ้าแล้วไม่ย่อท้อเพราะได้ยากกลับพอใจว่า เราจักหมกไหม้ในนรกนั้น แล้วบรรลุความเป็นพระพุทธเจ้า. เขาไม่แสดงอาการสยิ้วหน้าในการนั้นเลย....
ขอนอบน้อมพระสัมพุทธเจ้า ผู้ทรงสละนิพพานสุข อันมีในที่ใกล้พระหัตถ์ เมื่อครั้งยังเป็นพระสุเมธโพธิสัตว์ ทรงบำเพ็ญบารมีอันกระทำได้ยาก ทรงยอมเวียนว่ายในสังสารวัฎฎ์ ตลอดกาลนาน แสนนาน เพียงเพื่อช่วยให้สัตว์ทั้งหลายได้บรรลุธรรมพ้นจากทุกข์
ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย
คิดได้ครับ แต่ต้องอบรมเหตุให้ถึงความเป็นพระพุทธเจ้า ธรรมเกิดจากเหตุปัจจัยครับ ขออนุโมทนาอาจารย์ประเชิญ ยกตัวอย่างในชีวิตประจำวันได้ดีครับ และขออนุโมทนา ในกุศลจิตของทุกท่านครับ
อุทิศกุศลให้สรรพสัตว์
ศึกษาธรรมใหม่ๆ มีเป้าหมาย คือ นิพพาน แต่พอศึกษาไปเรื่อยๆ เห็นความยากในการสะสมปัญญา เป้าหมายก็ลดลงไปเรื่อยๆ ล่าสุดคิดว่าแค่เกิดสติปัฏฐานยังคิดว่ายาก ตอนนี้ขอแค่ฟังธรรมให้เข้าใจก็พอใจแล้ว
ผู้ที่จะบำเพ็ญบารมีเป็นพระพุทธเจ้า ต้องเป็นผู้ที่อดทน เสียสละทุกอย่าง ทำสิ่งที่ทำ ได้ยากเพื่อคนอื่น ต้องเป็นปัญญาจริงๆ เช่น ในอดีตชาติ พระพุทธเจ้าเคยเกิดเป็น พระเวสสันดร บริจาคทรัพย์สมบัติ บุตร ภรรยา หรือในชาติที่เป็นพระเจ้าสีวิราชบริจาค ดวงตา หรือตอนที่เกิดเป็นกระต่าย บริจาคชีวิต เนื้อเลือดร่างกายเป็นทาน ฯลฯ ค่ะ
อธิษฐานแล้วเหมือนกันค่ะ
อยากขอคำแนะนำบ้างค่ะ
ขออนุโมทนาด้วยนะคะ
เริ่มต้นด้วยการฟังพระธรรมให้เข้าใจ เป็นคนดี ทำความดีทุกอย่างครับ
ขอนอบน้อมแด่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ขออนุญาตคัดลอกความคิดเห็นที่ 2 ค่ะ
ขอนอบน้อมพระสัมพุทธเจ้า ผู้ทรงสละนิพพานสุข อันมีในที่ใกล้พระหัตถ์ เมื่อครั้งยังเป็นพระสุเมธโพธิสัตว์ ทรงบำเพ็ญบารมีอันกระทำได้ยาก ทรงยอมเวียนว่ายในสังสารวัฎฎ์ ตลอดกาลนาน แสนนาน เพียงเพื่อช่วยให้สัตว์ทั้งหลายได้บรรลุธรรมพ้นจากทุกข์ .....
ขออนุโมทนา K suwit02 ค่ะ
ขออนุโมทนาในกุศลจิตทุกๆ ท่านค่ะ
ผมคัดลอกมาจากคำแปลของคาถาสรรเสริญพระพุทธคุณในคัมภีร์ อภิธานัปปทีปิกา แปลโดย คุณ spob สมาชิกในเวบนี้ ครับ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
อบรมปัญญาให้เข้าใจความจริง จะเป็นประโยชน์ทั้งชาตินี้ และชาติต่อๆ ไป กุศลที่ทำได้เสมอๆ คือ การฟังพระธรรมที่พระอรหันตสัมมาสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง มีคุณค่ามหาศาลสำหรับชีวิตที่ต้องเดินทางต่อไป อีกแสนไกล และกันดาร
ขอเชิญศึกษาพระธรรม...
รวมลิงก์เมนูต่างๆ ในเว็บไซต์