เมื่อได้ศึกษา...เรื่องของสภาพธรรม
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
สำหรับเรื่องของ การเจริญสติปัฏฐาน ในชีวิตประจำวันหวังว่าท่านผู้ฟัง คงจะไม่ใจร้อน ยิ่งเห็น "อกุศลธรรม" ว่า มีมากมาย และ ละเอียด อย่างไรก็ยิ่งทราบว่า การอบรมเจริญสติปัฏฐาน เป็นเรื่องละเอียด และเป็นเรื่องที่จะต้องขัดเกลา อกุศลธรรม ทั้งหลาย ให้เบาบางลงไป เท่าที่ "สติ" จะระลึกรู้ ได้
ท่านผู้ฟัง จะเห็นได้ ว่า ความคิด ของแต่ละท่าน ต่างกันแม้ท่านผู้ฟัง จะมีจำนวนมากสักเท่าไรก็ตามชื่ออะไรบ้างก็ตาม ทั้งหมดเป็นเพียง "นามธรรม" และ"รูปธรรม" ซึ่ง เกิดขึ้น และ เป็นไป เพราะเหตุปัจจัย
สภาพ ของ โลภะ เป็น โลภะ
สภาพ ของ โทสะ เป็น โทสะ
สภาพ ของ ปัญญา เป็น ปัญญา
สภาพ ของ กุศล เป็น กุศล
สภาพ ของ อกุศล เป็น อกุศล
บางขณะ เป็น กุศลธรรม
บางขณะ เป็น อกุศลธรรม
ทั้งหมด เป็น สภาพธรรม ที่เกิดดับ แต่ละขณะๆ ซึ่งเกิดขั้น แล้วดับไป ตามเหตุตามปัจจัย ทั้งสิ้น เพราะฉะนั้น "ชื่อ" ไม่สำคัญเท่ากับ "ลักษณะ"
"ลักษณะของสภาพธรรม" ที่เกิดขึ้น แต่ละขณะๆ แต่ละประเภทๆ ที่เป็น กุศลบ้าง เป็น อกุศลบ้าง ฯลฯ หมายความ ว่า เป็น "สภาพของจิต" ที่เกิดขึ้นและเป็นไป ตามเหตุตามปัจจัย ในขณะนั้นๆ
เพราะฉะนั้นเมื่อได้ศึกษา เรื่องของ "สภาพธรรม" แล้วก็จะทราบว่า สิ่งที่เคยยึดถือ ว่า เป็นตัวตน สัตว์ บุคคล ทั้งหมดนั้น เป็นแต่เพียง "ธรรม" แต่ละประเภทๆ ซึ่งเกิดขึ้น เพราะเหตุปัจจัย ทั้งสิ้น
แนวทางเจริญวิปัสสนาครั้งที่ ๖๐๒ บรรยาย โดย อาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ถอดเทป โดย คุณย่าสงวน สุจริตกุล
ขออนุโมทนา
ในแต่ละวันจิตที่เกิดหลัง เห็น ได้ยิน ได้กลิ่น ลิ้มรส สัมผัส เป็นวิบาก ที่นี้ก็จะตามติดๆ มาทันที่คือ คิดนึก เป็นจิต กุศลหรืออกุศล เป็นเรื่องของสภาพธรรมที่เกิดสลับกันไปในวันๆ ตั้งแต่เกิดจนตาย เราผู้ศึกษาธรรม มีสติระลึกรู้เท่าทันสภาพธรรมเหล่านี้และรู้ว่าเป็นเพียงรูปหรือนาม โดยไม่เห็นเป็นบัญญัติ สัตว์ บุคคล ตัวตน ก็จะได้ประโยชน์ในการศึกษาคือสติเจริญ เป็นการระลึกรู้สภาพธรรมตามความเป็นจริง ครับ