พระธรรมที่ทรงแสดง...เกื้อกูลอย่างไรต่อการเจริญสติ

 
พุทธรักษา
วันที่  1 เม.ย. 2552
หมายเลข  11861
อ่าน  1,109

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ท่านผู้ฟัง อาจจะสงสัย ว่า พระธรรม ที่พระผู้มีพระภาค ได้ทรงแสดงไว้ จะมีประโยชน์ เกื้อกูล อย่างไรบ้างต่อ การเจริญสติปัฏฐาน เพราะว่า เรื่องการอบรมเจริญสติปัฏฐานเป็นการระลึกรู้ ลักษณะ ของสภาพธรรม ตามความเป็นจริงของชีวิตในแต่ละภพ ในแต่ละชาติ

ก่อนที่ท่านผู้ฟัง จะบรรลุธรรม ถึงความเป็นพระอรหันต์ เช่น พระอรหันต์ทั้งหลาย ที่ปรากฏอยู่ในพระไตรปิฏก ท่านย่อมไม่ทราบเลย ว่าชีวิตของท่าน จะวนเวียนไปอย่างไร ลักษณะใด แล้วมี "สภาวะ" ที่จะเป็นอุบาสกบ้าง อุบาสิกาบ้าง ภิกษุบ้าง ภิกษุณีบ้าง ฯลฯในชาติหนึ่ง ชาติใด "ลักษณะ" อย่างใด

เพราะฉะนั้น ชีวิตต่างๆ ที่มีปรากฏอยู่ในพระไตรปิฎก ทั้งหมดก็แสดงให้เห็นถึง "สภาพธรรม" ตามความเป็นจริง ของแต่ละบุคคล ซึ่ง บางท่าน ก็ได้อบรมเจริญปัญญา มาจนกระทั่งสามารถที่จะดับกิเลสเป็นสมุจเฉทถึงความเป็นพระอรหันต์ เมื่อได้ฟังพระธรรม แต่บางท่าน ก็ยังไม่สามรถที่จะบรรลุได้

ท่านอาจจะเป็น ผู้ที่มีความเห็นผิด ในครั้งที่ได้พบกับพระผู้มีพระภาค ดังที่มีปรากฏอยู่ ในพระไตรปิฏก หรือ สำหรับผู้ที่ได้พบกับพระผู้มีพระภาค แล้วมีความเห็นถูก แต่ก็ยังไม่สามารถที่จะบรรลุคุณธรรมถึงความเป็นพระอรหันต์ในชาตินั้นได้ท่าน ก็จะมีภพชาติ ที่ต่างๆ กันไปตามเหตุ ตามปัจจัย หรือ ท่าน อาจจะไม่มีปรากฏอยู่ ในพระไตรปิฎกเหมือนชีวิตของบุคคลซึ่งได้พบกับพระผู้มีพระภาคซึ่งมีปรากฏอยู่ ในพระไตรปิฎก เพราะฉะนั้น ในขณะนี้ ในปัจจุบันนี้ท่านก็ยังคงอยู่ในสังสารวัฏฏ์ ซึ่งเป็นอีกภพหนึ่ง ชาติหนึ่งแล้วแต่เหตุปัจจัย ว่า ท่านจะเป็นบุคคลใด

เรื่องของชีวิตต่างๆ ที่ท่านได้รับฟัง จากพระไตรปิฎกท่านจะเห็นได้ว่า แม้ในขณะที่ท่านกำลังรับฟังอยู่นี้ พระผู้มีพระภาค ก็ทรง "เน้น" เรื่องของการอบรมเจริญสติปัฏฐานไม่ใช่ เรื่องสมาธิ เพราะว่า ถ้าเป็น เรื่องสมาธิ ก็จะไม่มีการศึกษาในเรื่องของ "สภาพธรรม" ต่างๆ ที่ "ปรากฏ" เช่น เรื่องของการสังคายนา และ เรื่องการนอบน้อมต่อสงฆ์ เป็นต้น

แต่ ผู้ที่เข้าใจแล้ว ให้ทราบได้เลย ว่าไม่ว่าจะเป็นข้อความตอนใด ทั้งหมดในพระไตรปิฎก หรือแม้แต่ ขณะที่กำลังฟัง คือ ขณะนี้ก็สามารถที่จะระลึกรู้ ลักษณะของสภาพธรรมที่กำลังปรากฏ ตามความเป็นจริง ทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย และ ทางใจ มีการรู้เรื่อง มีความรู้สึก เป็นทุกข์ เป็นสุข ต่างๆ หรือ มีความรู้สึก อทุกขมสุข คือ ไม่ทุกข์ ไม่สุข และทั้งหมด ก็เป็น "สภาพธรรม" ที่กำลังปรากฏ ตามความเป็นจริง

แนวทางเจริญวิปัสสนาครั้งที่ ๖๐๒ บรรยาย โดย อาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ถอดเทป โดย คุณย่าสงวน สุจริตกุล

ขออนุโมทนา


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
orawan.c
วันที่ 2 เม.ย. 2552

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
suwit02
วันที่ 2 เม.ย. 2552

แม้แต่ ขณะที่กำลังฟัง คือ ขณะนี้ก็สามารถที่จะระลึกรู้ ลักษณะของสภาพธรรมที่กำลังปรากฏ ตามความเป็นจริง

สาธุ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
เบน
วันที่ 2 เม.ย. 2552

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
choonj
วันที่ 2 เม.ย. 2552

ด้วยพระมหาเมตตากรุณาคุณ รู้ว่าสัตว์โลกมี่การสั่งสมต่างๆ กันไปหลากหลายจึงทรงแสดงธรรม เกื่อกูลสัตว์โลกตลอด ๔๕ พรรษา ครอบคลุมไม่ว่าจะสั่งสมอะไรมาถ้าตั้งใจศึกษาอยางละเอียดแล้ว ก็จะสามารถรู้สภาพธรรมตามความเป็นจริงได้ ดังนั้น เวลากราบพระรัตนตรัยก็อย่าลืมระลึกถีงเมตตาคุณด้วย ครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
hadezz
วันที่ 2 เม.ย. 2552

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
นายเรืองศิลป์
วันที่ 2 เม.ย. 2552

"หรือแม้แต่ ขณะที่กำลังฟัง คือ....ขณะนี้ก็สามารถที่จะระลึกรู้ ลักษณะของสภาพธรรมที่กำลังปรากฏ ตามความเป็นจริง ทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย และ ทางใจ"

กราบอนุโมทนา...สาธุ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
saifon.p
วันที่ 3 เม.ย. 2552

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
sukchit
วันที่ 25 เม.ย. 2552
ขออนุโมทนาครับ
 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
nida
วันที่ 26 เม.ย. 2552
ขออนุโมทนาครับ
 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
chatchai.k
วันที่ 19 ก.ค. 2563

ขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ