การขอพร
นางวิสาขามิคารมาตาทูลขอประทานพร ๘ ประการต่อพระผู้มีพระภาค พรที่ขอ คือขอให้ได้โอกาสที่จะได้ทำกุศล สหายธรรมทุกๆ ท่าน ท่านเคยขอพรในโอกาส
พิเศษเช่น ในวันเกิด วันขึ้นปีใหม่บ้างไหมค่ะ? พรที่ท่านขอคืออะไรค่ะ? ท่านขอ
จะได้โอกาสที่จะได้ทำกุศลเหมือนท่านวิสาขามิคารมาตา หรือขอหวังที่จะได้รับพรขอให้ได้ลาภ ยศ สรรเสริญค่ะ ขอเชิญร่วมสนทนาค่ะ
ข้าพเจ้า ขอมีโอกาส ได้ศึกษาพระสัทธรรม ทุกๆ ชาติ ที่ได้เกิดในสุคติภูมิ.
แต่ก่อนเคยคิดว่าปัญญาที่เฉียบแหลม เป็นสิ่งที่ติดตัวเราไปในทุกที่ ไม่มีใครสามารถ ลัก หรือทำอะไรใดๆ แก่เราไม่ได้ ได้ยินมาว่า มีปัญญาเหมือนมีทรัพย์อยู่นับแสน ไปไหนมาไหนก็สามารถเอา ตัวรอดได้ ในยามคับขัน ขอบอกว่าเป็นความคิดแบบเก่าๆ อยู่มาก แต่ตอนนี้ได้มี มุมมองความคิดเพิ่มมาอีกคึอเรื่องของคุณธรรม นอกจากมีปัญญาแล้วต้องมีคุณธรรม หรือกุศลรู้สึกว่าจะห่างไกลกันเกินไปหรือเปล่าก็ไม่รู้น่ะ แต่ก็พยายามไม่ละความเพียร เท่าที่จะทำได้
ขออนุโมทนาเจ้าของกระทู้ที่ได้ให้สมาชิกได้มีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็น แม้ปัญญาอันน้อยนิดที่พึงแสดงถึงเจตจำนงค์ของดิฉันบ้าง แม้ในบางขณะที่ดิฉันได้เห็น ได้ยินเรื่องราวต่างๆ ในข้อความที่ได้อ่านได้ฟังได้ศึกษามาจากในเว็ปนี้ตั้งแต่ ได้สมัครเป็นสมาชิกในบ้านธัมมะ จึงได้รู้ว่าปัญญาและคุณธรรม ต้องสั่งสมกันมานาน หลายภพหลายชาติอยู่น่ะ และยินดีที่ได้ติดตามอ่าน ฟัง ศึกษา ทุกกระทู้ทุกความ เห็นของทุกท่าน
ขออนุโมทนาในกุศลจิตทุกท่านค่ะ
ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย
ขออนุโมทนาในกุศลผู้ตั้งกระทู้และคุณ hadezz ที่มีความเข้าใจถูกขึ้น ปัญญาเป็นเรื่องการอบรมและอาศัยระยะเวลานาน ซึ่งมีคำพูดหนึ่งในพระไตรปิฎกที่ชวนให้คิดได้ดีคือ
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย จริยาปิฎก เล่ม ๙ ภาค ๓ - หน้าที่ 605
การไม่เริ่มยังประเสริฐกว่าการเริ่มไม่ดี. ดังนั้นการไม่เริ่มในหนทางที่ผิดประเสริฐกว่าการเริ่มด้วยความเห็นผิด เริ่มด้วย เห็นถูกประเสริฐกว่าการไม่เริ่มและเริ่มด้วยหนทางผิด ซึ่งการเปลี่ยนจากความเห็นผิด มาเป็นเริ่มมีความเห็นถูกขึ้นก็ด้วยอาศัยการฟังพระธรรมอบรมปัญญานั่นเอง ซึ่งขณะที่ กำลังเข้าใจ ปัญญาเจริญขึ้นก็ชื่อว่าให้พรตัวเองที่ประเสริฐที่สุดครับ ขออนุโมทนา
เชิญคลิกอ่านเพิ่มเติมที่นี่ครับ ...
ทุกท่านคิดจะให้พรตัวเองหรือยัง?
อุทิศกุศลให้สรรพสัตว์
เวลาเข้าวัดอยู่ต่อหน้าพระธาตุหรือไปสถานที่ของชาวพุทธ ก็กราบลงแล้วก็พูดว่า ขอให้เห็นสภาพธรรมตามความเป็นจริง
ผมเพิ่งจะเข้าใจเดี๋ยวนี้เองว่า การขอพร หรือ การขอให้ได้ในสิ่งที่ประเสริฐนั้น จริงๆ แล้ว การขอนั้น ทำไม่ได้ แต่พรจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อเราได้ทำในสิ่งที่ดีเป็นกุศล ซึ่งหากขอกันได้ ให้กันได้ เราคงมานั่งขอกัน ง่ายกว่าทำเองเยอะเลย
จริงๆ แล้ว การขอพร คือ การขอโอกาสเพื่อทำความดีทำกุศล
การขอพรจากผู้อื่น คือ การขอให้ท่านให้โอกาสเราทำความดี เพื่อที่จะได้ในสิ่งที่ดี
สิ่งที่ประเสริฐ
ขอพรจากคุณพ่อคุณแม่ คือ การขอโอกาสจากท่านเพื่อให้เราได้ปรนนิบัติรับใช้ ทำความดีต่อท่าน ขอโอกาสนำสิ่งที่ดีมาสู่ท่าน เพื่อให้พรอันประเสริฐจากความกตัญญูบังเกิดแก่เรา
ขอพรจากผู้ที่มีคุณธรรม ก็เพื่อขอให้ท่านให้โอกาสแก่เรา ได้ทำความดีต่อท่านเช่นกัน แต่ที่สำคัญคือการขอโอกาสให้ท่านได้ชี้นำทางแห่งปัญญา เพื่อที่เราจะได้ประพฤติปฎิบัติอันเป็นทางแห่งความหลุดพ้น ซึ่งเป็นพรอันประเสริฐที่สุด
ดั่งที่ท่านอาจารย์สุจิตน์ท่านได้ให้พรอันประเสริฐ คือ โอกาสที่จะได้รับฟังธรรมะจากท่านอาจารย์ ทั้งคอยชี้แนะ ชี้นำให้เราได้เข้าใจ ให้เราได้เกิดปัญญา นั้นเอง
และที่สำคัญที่สุด การขอพรให้แก่ตัวเอง คือ ให้โอกาสตัวเองในการทำความดี ทำกุศล เพื่อให้พรบังเกิดแก่เรา หากเราไม่ให้โอกาสตัวเอง ก็เท่ากับไม่รับพรให้แก่ตัวเองนะครับ
ขอกราบขอบพระคุณท่านอาจารย์สุจินต์และคณะวิทยากร รวมทั้งท่านผู้เกี่ยวข้องในการเผยแพร่ธรรมะทุกท่าน ที่ให้พรอันประเสริฐและยิ่งใหญ่นี้ครับ
การมีโอกาสได้พบ สัตบุรุษ ได้มีโอกาสเข้าไปนั่งใกล้กัลยาณมิตร ได้สอบถามทำให้
เป็นผู้มีความเห็นตรง เป็นพรอันประเสิรฐ ขออนุโมทนา สาธุ สาธุ สาธุ
พร คือโอกาสอันใดที่จักเป็นไป ในการเจริญกุศลทุกประการ ในการอบรมเจริญความเห็นถูกความเข้าใจถูกในพระสัทธรรม ขอพรอันนั้น ข้าพเจ้าอย่าได้พลาดเลย ตลอดภพนี้และในสัมปรายภพ จนกว่าจักถึงความสิ้นไปแห่งทุกข์นั้น เทอญ
ขออนุโมทนา