ผลของการกระทำผิด แล้วกล่าวคำสบถ [สาบาน]
[เล่มที่ 49] พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย เปตวัตถุ เล่ม ๒ ภาค ๒ - หน้าที่ 394
ได้ยินว่า ในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ซึ่งไม่ไกลแต่กรุงสาวัตถีมีพ่อค้าโกงคนหนึ่ง เลี้ยงชีพด้วยอเนสนากรรม มีการโกงด้วยตราชั่งเป็นต้น. เขาถือเอาฟ่อนข้าวสาลี เคล้าด้วยดินแดง ทำให้หนักกว่าเดิม ปนกับข้าวสาลีแดงแล้วขาย.
บุตรของเขาโกรธว่า คุณพ่อไม่ยอมให้เกียรติยกย่องมิตรสหายของเรา ผู้มาสู่เรือนเสียเลยได้ถือเอาเชือกหนัก ๒ เส้น ตีศีรษะมารดา. หญิงสะใภ้ของเขาลักกินเนื้อที่เก็บไว้สำหรับชนทั้งปวงแล้ว เมื่อถูกชนเหล่านั้นซักไซร้จึงให้คำสบถว่า ถ้าเรากินเนื้อนั้นจริง ก็ขอให้เราพึงเฉือนเนื้อสันหลังของตนแล้วกินทุกๆ ภพไปเถิด. ฝ่ายภริยาของเขาเมื่อชนทั้งหลายพากันขออุปกรณ์บางอย่าง ก็ตอบว่า ไม่มี เมื่อ ถูกชนเหล่านั้นรบเร้า จงได้ทำสบถด้วยมุสาวาทว่า ถ้าเรากล่าวถึงสิ่งที่มีอยู่ว่าไม่มีไซร้ ขอให้เราพึงเป็นผู้มีคูถเป็นอาหาร ในที่ ที่เกิดแล้วเถิด.
สมัยต่อมาชนทั้ง ๔ คนนั้น ทำกาละแล้ว บังเกิดเป็นเปรต ในดงไฟไหม้ ในคน ๔ คนนั้น พ่อค้าโกง ใช้มือทั้งสองข้าง กอบเอาแกลบที่ลุกโพลงด้วยผลกรรมแล้ว เกลี่ยลงบนศีรษะของตนเอง เสวยทุกข์เป็นอันมาก, บุตรของเขาก็ใช้ค้อนเหล็กตีศีรษะตนเอง เสวยทุกข์ ไม่ใช่น้อยเลย หญิงสะใภ้ของเขา ด้วยผลกรรม จึงใช้เล็บทั้งหลายที่ทั้งกว้างและยาวยิ่งนัก คมเป็นอย่างดี กรีดเนื้อแผ่นหลังของตนเองกิน เสวยทุกข์หาประมาณมิได้. พอภริยาของเขา น้อมนำข้าวสาลี ที่มีกลิ่นหอมบริสุทธิ์ดีปราศจากด่างดำเข้าไปเท่านั้น ก็กลายสำเร็จเป็นคูถ เกลื่อนกล่นด้วยหมู่หนอนนานาชนิด มีกลิ่นเหม็นและน่าเกลียดยิ่งนัก, ภริยานั้นเอามือทั้งสองข้างกอบคูถนั้นกิน เสวยทุกข์อย่างมหันต์. ฯลฯ