โลภ คือ เครื่องกั้นไม่ให้รู้สักที

 
เมตตา
วันที่  21 เม.ย. 2552
หมายเลข  12014
อ่าน  1,146

สิ่งที่มีจริงที่กำลังปรากฎอยู่ในขณะนี้ ยังไม่รู้ตามความเป็นจริง ต้องฟังให้เข้าใจสิ่งที่มีจริงๆ จนกว่าจะรู้ว่าสิ่งที่มีจริงๆ นั้นเป็นเพียงสภาพธรรม ไม่ใช่ตัวตน สัตว์ บุคคล

ไม่สามารถบังคับบัญชาได้แต่เกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย สภาพธรรมทั้งหลายเป็นอนัตตา

นี่คือประโยชน์ของการฟังพระธรรมให้มั่นคงจริงๆ แต่ความอยากที่จะรู้เร็วๆ อยากเข้าใจ อยากให้สติเกิด ความอยากจึงเป็นเครื่องกั้น เพราะขณะที่ต้องการขณะนั้นเป็นโลภ เป็นอกุศลจิต เพราะฉะนั้นไม่ต้องอยากอะไร สภาพธรรมเกิดดับเร็วมากยากที่จะเข้าใจ จึงต้องเพียงฟังเพื่อให้เข้าใจสิ่งที่มีอยู่จริงๆ ในขณะนี้ ถ้าต้องการอะไรมากไปกว่านี้ก็ผิดแล้ว โลภ ความอยากจึงเป็นเครื่องกั้นไม่ให้รู้สักที........ จึงควรที่จะ

ฟังแล้ว ก็ต้องเริ่มต้นใหม่อยู่เรื่อยๆ .............

ขออนุโมทนาค่ะ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
suwit02
วันที่ 21 เม.ย. 2552

สาธุ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
Komsan
วันที่ 21 เม.ย. 2552
ขออนุโมทนาครับ
 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
นายเรืองศิลป์
วันที่ 21 เม.ย. 2552

เมื่อฟังพระธรรมแล้วไม่เข้าใจ ควรรู้ความจริงว่าก็ยังไม่เข้าใจ ให้เพียรพิจารณาฟังต่อ

ไป ด้วยเจตนาเพื่อการเจริญมหากุศลคือการฟังพระธรรม

ขณะฟังนั้นให้รู้ว่าเป็นจิตได้ยิน จิตคิดพิจารณาไตร่ตรอง พร้อมด้วยสภาพธรรม

ฝ่ายกุศลอื่นๆ ประกอบ ไม่ใช่เราเลย เมื่อสภาพธรรมมีการปรุงแต่งเพียงพอ ก็จะมีความ

เข้าใจได้ไปทีละขั้นๆ นั่นคือสภาพธรรมคือปัญญาทำหน้าที่ ไม่ใช่ตัวเราเช่นกัน

ที่ยังไม่เข้าใจ แล้วคิดว่าเป็นตัวเรายังไม่เข้าใจ ตัวเราอยากเข้าใจ ทันทีที่คิดว่าเป็นตัว

เรา และอยากเข้าใจ ก็เป็นอกุศลธรรมกั้นความรู้ความเข้าใจไม่ให้เกิดขึ้นครับ

ขออนุโมทนาทุกท่านครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
orawan.c
วันที่ 22 เม.ย. 2552

สังขารขันธ์เนียนมาก และปรุงแต่งอยู่ทุกขณะ

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
ajarnkruo
วันที่ 22 เม.ย. 2552

เพียงฟังให้เข้าใจขึ้นเรื่อยๆ ว่า " ธรรมะเป็นธรรมะ "โลภะก็เป็นธรรมะ แต่พอไม่รู้ว่าโลภะเป็นธรรมะ...ก็เลยวุ่นวายหลงทำตามอำนาจของโลภะ เช่น อยากจะทำนี่ให้รู้นั่น ...อยากจะทำนั่นให้รู้โน่นถ้ายังไม่รู้จักโลภะ ก็จะต้องถูกโลภะหลอกลวงอยู่ร่ำไปแต่อกุศลที่น่ากลัวกว่าอกุศลใดๆ ก็คือ อวิชชา (ความไม่รู้) ความเข้าใจพระธรรมเท่านั้น...ที่จะทำให้รู้จักธรรมะทั้งปวงตามความเป็นจริงขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
paderm
วันที่ 22 เม.ย. 2552

ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย

ท่านอาจารย์สุจินต์.....
หลายคนก็คงจะคิดว่า เมื่อไหร่จะรู้ลักษณะของนามธรรมซักที

นะคะ ฉวยโอกาสอีกแล้วค่ะ เห็นไหมคะ ไม่รู้เลยว่าถูกฉวยโอกาสตลอดเวลา เมื่อไหร่

เห็นโลภะ เมื่อนั้นจะค่อยๆ รู้จักธัมมะค่ะ ซึ่งเหมือนเพื่อนสนิทนะคะ ข้อที่สำคัญที่สุด

ถ้าไปฉวยโอกาสตอนสุดท้ายใกล้จะจากโลกนี้ไป ก็แล้วแต่ว่าถ้าขณะนั้นจิตเศร้าหมอง

เป็นอกุศลนะคะ ไม่มีทางที่จะทำให้จิตที่เป็นปฏิสนธิขณะแรกต่อจากจุติจิต เกิดใน

มนุษย์หรือสวรรค์ได้เลย อุทิศกุศลให้สรรพสัตว์

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
vikrom
วันที่ 30 เม.ย. 2552

โลภเกิด ก็ระลึกรู้........

ไม่เข้าใจเกิด ก็ระลึกรู้.........

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
pornpaon
วันที่ 30 เม.ย. 2552

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
เมตตา
วันที่ 1 พ.ค. 2552

เมื่อไหร่เห็นโลภะ เมื่อนั้นจะค่อยๆ รู้จักธัมมะค่ะ ซึ่งเหมือนเพื่อนสนิทนะคะ

"โลภ" เนียนมากจริงๆ เหมือนเพื่อนสนิทที่แฝงตัวอยู่ใกล้ๆ ไม่ยอมห่าง

ขออนุโมทนาค่ะ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ