กุศลเจริญง่ายจริงหรือ
ขอนอบน้อมแด่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
เฉพาะกุศลขั้นทานและศีลที่ไม่ประกอบด้วยปัญญา
แม้จะพิจารณาเห็นประโยชน์และรู้โทษ
การที่จะเจริญกุศลด้วยการเห็นว่าเป็นประโยชน์หาใช่เรื่องง่ายๆ ไม่...
เหตุใด...กุศลที่สลับกับโลภะ...จึงเจริญง่ายกว่ากุศลที่สลับกับโทสะ...
ชื่อก็บอกแล้วว่า...กุศลที่ไม่ประกอบด้วยปัญญา
ขออนุโมทนาในกุศลจิตทุกๆ ท่านค่ะ
ปกติเรามีโลภะเป็นพื้นเกือบตลอดเวลาที่กุศลจิตไม่เกิด เช่น ทางตาก็อยากเห็นรูปที่
สวยงาม ฯลฯ ส่วนโทสะมีใครบ้างที่โกรธได้ทั้งวันทั้ง 24 ชั่วโมง กุศลเกิดยากแต่ขอ
ให้เกิดเถิดถึงแม้ว่าจะเป็นกุศลที่ไม่ประกอบด้วยปัญญาก็ยังดีกว่าเป็นอกุศลทั้งวันค่ะ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น พระธรรมที่พระผู้มีพระภาคทรงแสดง เป็นสิ่งที่มีจริงทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นอกุศลธรรมหรือกุศลธรรม ก็เป็นสภาพธรรมที่มีจริง เป็นธรรม ไม่ใช่เรา ไม่อยู่ในอำนาจบังคับบัญชาของใคร ปกติในชีวิตประจำวันของผู้ที่ยังมีกิเลส ยังถูกผูกมัดไว้ด้วยกิเลสประการต่างๆ จึงมีอกุศลจิตเกิดขึ้นเป็นปกติธรรมดา เกิดมากกว่ากุศลด้วย ตามความเป็นจริง อกุศลธรรม เป็นสภาพธรรมที่ไม่ดีงาม ไม่นำประโยชน์อะไรๆ มาให้ใครเลยมีแต่จะนำทุกข์มาให้ในภายหลัง ขณะที่จิตเป็นอกุศลย่อมเร่าร้อนเพราะอกุศลเจตสิกประการต่างๆ ที่เกิดร่วมด้วย ในทางตรงกันข้าม ขณะที่จิตเป็นกุศลนั้นย่อมผ่องใส ไม่ขุ่นมัว เพราะไม่มีอกุศลเจตสิกเกิดร่วมได้เลย เป็นจิตคนละประเภทกัน การมีโอกาสได้ฟังพระธรรมที่พระผู้มีพระภาคทรงแสดง เป็นปกติบ่อยๆ เนืองๆ เมื่อมีความเข้าใจที่เพิ่มขึ้นไปตามลำดับ ย่อมจะเป็นผู้เข้าใจสภาพธรรมตามความเป็นจริง เห็นโทษเห็นภัยของอกุศล และเห็นคุณค่าของกุศลธรรม ดำรงชีวิตอยู่ด้วยความไม่ประมาท ไม่ประมาททั้งในกุศลและในอกุศลแม้จะเล็กน้อย (อกุศลแม้จะเล็กน้อยก็เห็นว่าเป็นโทษ กุศลแม้เล็กน้อยก็ไม่มองข้าม) เป็นผู้เจริญกุศลประการต่างๆ ขัดเกลากิเลสในชีวิตประจำวัน ถึงแม้กุศลจิตที่ประกอบด้วยปัญญา จะเกิดน้อยหรือไม่เกิดเลย ก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นผู้ทอดธุระ ไม่ใส่ใจในการเจริญกุศลประการต่างๆ ในชีวิตประจำวัน เพราะเหตุว่าเมื่อกุศลไม่เจริญ ก็เป็นโอกาสของอกุศลที่นับวันจะพอกพูนหนาแน่นขึ้นเรื่อยๆ
การเดินทางในสังสารวัฏฏ์ยังอีกยาวไกล บุญทั้งหลายเท่านั้นที่จะเป็นที่พึ่งของสัตว์ทั้งหลาย จนกว่าจะได้รู้แจ้งอริยสัจจธรรมดับกิเลสทั้งหลายทั้งปวงได้ในที่สุด ครับ ...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...
ผู้ที่มีกำลังกุศลเจริญได้ ก็เพราะมีความรู้ความเข้าใจธรรม ที่เป็นเหตุให้
ค่อยๆ คลาย ความเห็นแก่ตัว และเห็นแก่คนอื่นมากกว่าตัวเอง กุศลย่อมเจริญขึ้น
ผู้ไม่ได้ศึกษาเข้าใจธรรมย่อมมีความเห็นแก่ตัวมากกุศลจึงเกิดยากและมากไปด้วยอกุศล
ผมยังมีอกุศลอยู่ ยังต้องขัดเกลากิเลสต่อไปเพื่อละ
ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกท่านครับ
ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย
สภาพธรรมทั้งหลายที่จะเกิดขึ้นต้องอาศัยเหตุปัจจัย กุศลธรรมก็ต้องอาศัยเหตุ
ปัจจัยเกิดขึ้นเช่นกัน มีการฟังธรรม คบสัตบุรุษและการพิจารณาโดยแยบคาย เป็นต้น
สัตว์โลกสะสมอกุศลมามาก จึงเป็นปัจจัยให้อกุศลเกิดมากกว่ากุศล แต่เพราะอาศัยเหตุปัจจัยที่เกิดกุศลตามที่กล่าวมา กุศลก็เกิดมาขึ้นแต่ก็สลับกับอกุศลที่เกิดขึ้นเป็น
ปกติในชีวิตประจำวันครับ
เหตุใด...กุศลที่สลับกับโลภะ...จึงเจริญง่ายกว่ากุศลที่สลับกับโทสะ...
ควรพิจารณาว่าโลภะเป็นสภาพธรรมที่ติดข้องต้องการ ติดในสภาพธรรมทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นกุศล อกุศล นามธรรมและรูปธรรม เว้นเพียงโลกุตตรธรรม 9 มี พระนิพพาน เป็นต้น ที่โลภะไม่ติดข้อง จะเห็นได้ว่า โลภะติดข้องในทุกอย่างในชีวิตประจำวัน เมื่อไมได้ศึกษาธรรมก็ติดข้องในรูป เสียง กลิ่น....แต่เมื่อศึกษาธรรมก็เพิ่มความติดข้อง
ในกุศลธรรมเพราะรู้ว่ากุศลธรรมเป็นสิ่งที่ดีให้ผลวิบากที่ดีก็ติดข้องในกุศล จึงทำกุศล
อาศัยโลภะเป็นปัจจัยจึงเกิดกุศลจิต กุศลจิตจึงเกิดสลับกับโลภะได้บ่อยเพราะโลภะ
ติดข้องในทุกอารมณ์เว้นโลกุตตรธรรม 9 เท่านั้น ส่วนโทสะจะเกิดกับอารมณ์ที่ไม่น่า
พอใจ โทสะไม่ใช่สภาพธรรมที่ติดข้อง จึงไมได้เกิดบ่อยเหมือนโลภะที่สามารถติด
ข้องต้องการในสิ่งต่างๆ มากมายในชีวิตประจำวันแม้แต่การทำกุศลก็ติดข้องได้ครับ
อุทิศกุศลให้สรรพสัตว์
เพราะคุ้นเคยกับอกุศลต่างๆ มากจนไม่เคยรู้เลยว่า นั่นเป็นอกุศล
เมื่อได้ยินประโยคที่ว่า
"วันๆ หนึ่ง กุศลจิตเกิดน้อยกว่าอกุศล"
และ
"โลภะติดในกุศลได้"
ดิฉันถึงได้พอเข้าใจบ้างว่า กุศลเป็นสิ่งที่เจริญได้ยากจริงๆ
กุศลที่ประกอบด้วยปัญญา จึงยิ่งยากกว่านั้นมากนัก
เพราะดิฉันแทบไม่รู้สึกตัวเลยว่า
บางวัน...ไม่มีกุศลจิตเกิดเลยแม้แต่น้อย
สารภาพว่า...ยังเป็นผู้ประมาทอยู่ทุกวันจริงๆ ค่ะ
ขออนุโมทนาคุณ Khaeota
ขออนุโมทนาในกุศลจิตและกุศลวิริยะของทุกท่านค่ะ