เพราะยังไม่ประจักษ์แจ้งลักษณะของขันธ์
ถ. คำว่า “อนัตตา” นี้คล้ายเส้นผมบังภูเขา บางคนก็รู้ว่า “อนัตตา”แปลว่าอะไร หรือ “อัตตา” แปลว่าอะไร แต่ถามกันหลายๆ คนก็อธิบายแตกต่างกันหมด โดยมากกล่าวว่าอนัตตาไม่ใช่ตัวตน ทั้งๆ ที่ตัวตนก็ยังมี
สุ. อะไรเป็นตัวตน
ถ. สมมติว่า ตัวเราเป็นตัวตนอยู่ แต่พระผู้มีพระภาคตรัสว่ามีแต่เพียงขันธ์ ๕ มาประชุมกัน
สุ. เมื่อเป็นขันธ์ก็ไม่ใช่ตัวตน แต่เมื่อไม่รู้ว่าเป็นขันธ์ ก็เข้าใจว่าเป็นตัวตน
ถ. ทั้งๆ ที่รู้อย่างนี้ เวลาเห็นทางตาก็ว่าเราเป็นผู้เห็น
สุ. เพราะยังไม่ประจักษ์แจ้งลักษณะของขันธ์ว่า ขันธ์ คือสภาพธรรมที่เกิดขึ้นแล้วดับไปอย่างรวดเร็วจริงๆ จึงจำแนกเป็นอดีต เป็นอนาคต เป็นปัจจุบัน เป็นภายใน เป็นภายนอก หยาบ ละเอียด เลว ประณีต ไกล ใกล้ เมื่อประจักษ์ลักษณะของขันธ์จริงๆ ก็รู้ว่าสภาพธรรมแต่ละลักษณะที่เกิดดับนั้นเป็นรูปขันธ์ หรือเป็นเวทนาขันธ์ หรือเป็นสัญญาขันธ์ หรือเป็นสังขารขันธ์ หรือเป็นวิญญาณขันธ์ นั่นเอง
ดาวน์โหลดหนังสือ --> ปรมัตถธรรมสังเขป