กรรม ๔ ประเภท [สังขิตตสูตร]

 
pornpaon
วันที่  29 เม.ย. 2552
หมายเลข  12103
อ่าน  1,371

พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย จตุกนิบาต เล่ม ๒ - หน้าที่ 582

กรรมวรรคที่ ๔

๑. สังขิตตสูตร ว่าด้วยกรรม ๔ ประเภท [๒๓๒] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย กรรม ๔ ประเภทนี้ เราทำให้แจ้งด้วยปัญญาอันยิ่งด้วยตนเองแล้ว จึงประกาศให้ทราบ กรรม ๔ ประเภทเป็นไฉนคือ กรรมดำ มีวิบากดำก็มี กรรมขาว มีวิบากขาวก็มี กรรมทั้งดำกรรมดำ มีวิบากดำก็มี กรรมขาว มีวิบากขาวก็มี กรรมทั้งดำทั้งขาว มีวิบากทั้งดำทั้งขาวก็มี กรรมไม่ดำไม่ขาว มีวิบากไม่ดำไม่ขาว เป็นไปเพื่อสิ้นกรรมก็มี นี้แล กรรม ๔ ประเภท เราทำให้แจ้งด้วยปัญญาอันยิ่งด้วยตนเองแล้ว จึงประกาศให้ทราบ. จบสังขิตตสูตรที่ ๑ อรรถกถาสังขิตตสูตร พึงทราบวินิจฉัยในสังขิตตสูตรที่ ๑ แห่งวรรคที่ ๔ ตั้งต่อไปนี้ :- บทว่า กณฺหํ ได้แก่ กรรมดำ คือ อกุศลกรรมบถ ๑๐. บทว่ากณฺหวิปากํ ได้แก่ มีวิบากดำ เพราะให้เกิดในอบาย. บทว่า สุกฺกํ ได้แก่กรรมขาว คือ กุศลกรรมบถ ๑๐. บทว่า สุกฺกวิปากํ ได้แก่ มีวิบากขาวเพราะให้เกิดในสวรรค์. บทว่า กณฺหํ สุกฺกํ ได้แก่ กรรมคละกัน. บทว่ากณฺหสุกฺกวิปากํ ได้แก่ มีวิบากทั้งสุขและทุกข์. จริงอยู่ บุคคลทำกรรมคละกันแล้ว เกิดในกำเนิดเดียรัจฉานด้วยอกุศลในฐานะเป็นมงคลหัตถีเป็นต้นเสวยสุขในปัจจุบันด้วยกุศล . บุคคลเกิดแม้ในราชตระกูลด้วยกุศล ย่อมเสวย-ทุกข์ในปัจจุบันด้วยอกุศล. บทว่า อกณฺหํ อสุกฺกํ ท่านประสงค์เอามรรค-ญาณ ๔ อันทำกรรมให้สิ้นไป. จริงอยู่ กรรมนั้นผิว่าเป็นกรรมดำ ก็พึงให้วิบากดำ ผิว่าเป็นกรรมขาว พึงให้วิบากขาว แต่ที่ไม่ดำ ไม่ขาว เพราะไม่ให้วิบากทั้งสอง ดังกล่าวมานี้เป็นใจความในข้อนี้. จบอรรถกถาสังขิตตสูตรที่ ๑


เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ