โสตาปัตติยังคะ ๔ ไม่เกี่ยวกับสถานที่
ถ. ขณะไหนที่มีสติ ก็มีแต่ทุกข์ที่ปรากฏ แต่ไม่ได้แยกรูปนาม ทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย ทางใจ เพราะการแยกนั้น แยกกันมาเยอะแยะแล้ว แต่แยกกันตามปริยัติ ดิฉันมีการศึกษาน้อย เพียงแต่ปฏิบัตินิดๆ หน่อยๆ ที่สำนักปฏิบัติ เกิดความรู้มาอย่างนั้นก็เรียนให้ทราบ จะว่ารู้ตามอริยสัจจ์ หรือรู้ตามอะไรก็แล้ว แต่จะเข้าใจเถอะค่ะ แต่รู้อย่างนั้นจริงๆ
สุ พอใจในความรู้อย่างนี้แล้วหรือยัง
ถ. ยังอยู่ในระหว่างการศึกษา จะว่าพอใจก็ไม่ได้
สุ ที่กล่าวว่า...ไปสำนักงานปฏิบัติเพื่อความรู้ความเข้าใจในหนทางปฏิบัติ แต่ถ้าไปแล้วไม่รู้ไม่ เข้าใจสภาพธรรม การไปจะมีประโยชน์ไหม
ถ. ก็มี ตามธรรมดาเราอยู่บ้านอกุศลเกิดมาก เมื่อเราไปสำนักปฏิบัติได้พบกัลยาณมิตรที่ดี พบสถานที่ที่สงบเงียบ กุศลจิตก็เกิดมาก อันนี้ดิฉันถือว่ามีประโยชน์
สุ โสตาปัตติยังคะ องค์ธรรมของการบรรลุโสดาบันมี ๔ คือ ...คบสัปบุรุษ ๑ ฟังธรรมจากท่าน ๑ พิจารณาธรรมที่ได้ฟังด้วยความถูกต้อง ๑ ปฏิบัติธรรมสมควรแก่ธรรม ๑ ...ไม่เกี่ยวกับสถานที่เลย
ฉะนั้น ในเรื่องของสำนักปฏิบัตินั้น ควรย้อนกลับไปพิจารณาสำนักของพระผู้มีพระภาค เพื่อเปรียบเทียบให้เห็นว่า สำนักปฏิบัติในสมัยนี้เหมือนกับสำนักของพระผู้มีพระภาคหรือไม่ สำนักของพระผู้มีพระภาคในอดีตกาลนั้น พระภิกษุทั้งหลายบิณฑบาต สนทนาธรรม ทำกิจต่างๆ ตามพระวินัยบัญญัติ พระผู้มีพระภาคทรงสรรเสริญกุศลทั้งปวง แต่ผู้ที่ไปสู่สำนักปฏิบัติในสมัยนี้ ปฏิบัติเช่นเดียวกับพุทธบริษัทในครั้งนั้น หรือเกินกว่า หรือต่างกัน ถ้าเหตุคือการปฏิบัติต่างกัน ผลจะเหมือนกันได้ไหม อุบาสกและอุบาสิกาในครั้งพุทธกาล เช่น ท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐีท่านก็ไปพระเชตวันมหาวิหารที่ท่านได้สร้างไว้ แต่ท่านเหล่านั้นก็ไม่ได้เข้าใจผิดว่า จะต้องบรรลุมรรคผลเฉพาะในสถานที่เหล่านั้น เพราะท่านเหล่านั้นบรรลุมรรคผลนิพพาน ณ สถานที่ต่างๆ กันตามชีวิตประจำวันจริงๆ ของแต่ละท่าน
ดาวน์โหลดหนังสือ --> ปรมัตถธรรมสังเขป