อวิชชาปิดบังไว้...อย่างนี้ !
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
สนทนาธรรมที่เขาเต่า ๑ - ๔ สิงหาคม ๒๕๓๗
ท่านผู้ฟัง สิ่งที่ปรากฏทางมโนทวารนี้ ก็รู้แสนจะยาก
ท่านอาจารย์ เพราะฉะนั้นปรมัตถธรรม ที่พระผู้มีพระภาคทรงแสดง ว่า แสนสั้นหมายความว่า อย่างเช่น รูปารมณ์ ที่ปรากฏทางตาปรากฏเพียง ๑๗ ขณะจิต แล้วดับ หรือ เสียง สัทธารมณ์ ที่ปรากฏทางหูปรากฏเพียง ๑๗ ขณะจิต แล้วดับ เพราะฉะนั้นทางตา ที่ดับไปแล้ว แต่ไม่ปรากฏว่าดับเพราะว่าทางใจ นึกต่อ เพราะ "อวิชชา ทำให้เราเห็นว่า สภาพธรรมติดต่อกัน อย่างนี้ โดยเข้าใจว่า เห็น อยู่ตลอด หรือ ได้ยิน อยู่ตลอดแต่ ความจริงแล้ว ขณะที่ปรมัตถธรรมกำลังปรากฏเหมือนกับฟ้าแลบนิดนึง (แสนสั้นอย่างนี้) แล้ว "โลกของความคินึก" ที่นึกต่อจาก เห็น ได้ยิน ได้กลิ่น ลิ้มรส กระทบสัมผัสก็เหมือนกับ ฟ้าแลบ อีกนิดหนึ่ง แล้วก็ยังมี "โลกของความคิดนึกทางใจ" คือ ขณะที่คิดนึกไปในเรื่องราวของสิ่งที่ปรากฏทาง ๕ ทวาร หมุนเวียนอยู่ อย่างนี้จนกระทั่ง เสมือนว่า สิ่งที่ปรากฏทาง ๕ ทวาร นี้ ไม่ดับ ความเป็นจริงนั้นสิ่งที่ปรากฏทางตานี้ จะต้องดับก่อนแล้ว เสียง ที่ปรากฏทางหู จึงจะปรากฏเป็นอารมณ์ได้แต่ เป็นเพราะ "ความคิดนึกทางใจ" เกิดต่อจากทางตา อย่างรวดเร็ว แล้วจะยังมี เสียงที่ปรากฏทางหู เกิดต่อ สลับกับทางตา เป็นอารมณ์ อีก แล้วก็ยังมี ความคิดนึกถึงเรื่องราว ของสิ่งที่ปรากฏเป็นอารมณ์ อีก เพราะสภาพธรรมเกิดดับสืบต่อกันอย่างรวดเร็ว อย่างนี้จึงไม่ประจักษ์ "การเกิดดับสืบต่อ" ของสภาพธรรม สักที "อวิชชา" ปิดบังไว้สนิทเลยเพราะฉะนั้นถ้าไม่ใช่ "วิปัสสนาญาณ"ก็ไม่ "ประจักษ์" ว่าสิ่งที่ปรากฏ ทาง ๕ ทวารคือ เห็นสี ได้ยินเสียง ได้กลิ่น รู้รส และ การกระทบสัมผัสมีการเกิดดับสืบต่อ สลับกัน อย่างรวดเร็ว ขณะนี้ ทางใจ ทางมโนทวารเกิดขึ้นมากมายตั้งเท่าไร ก็ไม่รู้ไม่รู้ สภาพของมโนทวาร
ท่านผู้ฟัง แล้ว ขณะที่คิด ก็ไม่เห็น
ท่านอาจารย์ นี่ละค่ะ สภาพของมโนทวาร ไม่ปรากฏทั้งๆ ที่มีอยู่ตลอดเวลา มีสิ่งที่ปรากฏทางตา แล้วก็ คิดไป มีเสียงที่ปรากฏทางหู แล้วก็ คิดไป ขณะที่ "จิต" รู้ สิ่งที่ปรากฏต่างๆ เหมือนฟ้าแลบ (คือ รวดเร็ว สั้นมาก) แล้ว "จิต" ที่คิดถึง สิ่งที่ปรากฏนั้นๆ ต่อก็เหมือนกับฟ้าแลบ (รวดเร็ว สั้นมาก เช่นกัน)
ท่านผู้ฟัง หมายความว่าบางทีก็เห็นทางตาซ้ำๆ แล้วก็มาได้ยินทางหูแล้วจากได้ยินทางหู ก็กลับไปเห็นทางอีก
ท่านอาจารย์ เพราะฉะนั้นจึงไม่รู้ สภาพของมโนทวาร สภาพธรรม ทางมโนทวารมีมากมายเหลือเกิน แต่เพราะ"สัญญา" ความทรงจำ ที่จำไว้ ว่า เป็นเรา เป็นเรื่องเป็นราว ต่างๆ "ความทรงจำ" นั้นเองที่ปรุงแต่งให้ "จิต" คิดนึกถึงเรื่องราวต่างๆ
... ขออนุโมทนา ...
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ผู้รู้ ... ผู้ตื่น ... ผู้เบิกบาน
.
.
วันวิสาขบูชา
ประสูติ ... ตรัสรู้ ... ปรินิพพาน
การศึกษาธรรมให้เกิดความเข้าใจ จนกว่า สติปัฏฐานจะเกิดขึ้น เป็นวิปัสสนาภาวนา นั้น เป็นประโยชน์ที่ยิ่งใหญ่. มีคุณทั้งในโลกนี้ และโลกต่อๆ ไป จนกว่า จะสิ้นสุดการเวียนว่าย
เป็นเรื่องที่ละเอียด ลึกซึ้ง ยากต่อการทำความเข้าใจ ยากยิ่งกว่าศาสตร์ใดๆ ที่ผมเคยศึกษา สิ่งที่ทำให้ศาสตร์ทางโลก ดูเหมือนยาก คือ การศึกษาสิ่งที่เป็นบัญญัติ ที่ไม่มีอยู่จริง และไม่มีที่สิ้นสุด ส่วนการศึกษาพระธรรม คือ การศึกษาสิ่งที่มีอยู่จริงในขณะนี้ ทั้งภายใน และ รอบๆ ตัวเรา
ถ้าหากพระธรรม เป็นเรื่องง่ายแล้ว คงไม่ต้องรอให้ พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสรู้ และทรงแสดงธรรมนักปราชญ์ คนไหนๆ ก็คงคิดหลักการ วิธีการ ได้ด้วยตัวเอง.
จาก ธรรมทัศนะ
... ขออนุโมทนา ...