เข้าใจ...ลักษณะ หรือ เรื่องราว?

 
พุทธรักษา
วันที่  11 พ.ค. 2552
หมายเลข  12308
อ่าน  886

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

สนทนาธรรมที่เขาเต่า ๑ - ๔ สิงหาคม ๒๕๓๗

ท่านอาจารย์ วิบาก เป็น ปรมัตถ์เช่น "แข็ง" ที่กระทบและกำลัง รู้ "ลักษณะแข็ง" อยู่ขณะนี้คือ ผลของกรรม "กลิ่น" ที่กระทบและ กำลัง รู้ "ลักษณะของกลิ่น" อยู่ขณะนี้ก็ เป็น ผลของกรรม (เป็นต้น) กรรมบันดาล ทั้งนั้นเลย

คุณย่าสงวน "ปรมัตถ์" มีอยู่ทั้งวันแต่ เราไม่รู้เลย.!อาจารย์ชี้แนะ ก็เป็นความรู้ใหม่.

ท่านอาจารย์ ที่ว่า "แข็ง" เป็น ผลของกรรมหรือ "สี" ปรากฏ "จิตที่รู้สี" นั้นล่ะ คือ ผลของกรรม พระผู้มีพระภาค ทรงแสดง แต่ละคำๆ จนกว่า จะเป็น"ความจริง" โดยเป็นความเข้าใจของเราเอง

คุณย่าสงวน ๓๐ ปี ที่ถอดเทปมาเพิ่งจะ "เข้าใจ" วันนี้ ว่า ขณะที่ "สติระลึกรู้"คือ รู้ว่า เป็น "ลักษณะของปรมัตถ์" จริงๆ แล้วอาจารย์ยังบอกอีกว่าโอกาสเดียวกันนี้ เป็น "เกาะ" ด้วย

ท่านอาจารย์ ที่พระผู้มีพระภาคฯ ตรัสไว้ ว่า มีตนเป็นเกาะ มีธรรมเป็นเกาะคือ อย่างนี้.! ซึ่งก็หมายความว่าหาก "สติ" ไม่เกิด ไม่ระลึกก็เหมือนไม่มีที่เกาะ ขณะที่ "สติ" ระลึกรู้ "ลักษณะ" ของสภาพธรรมที่กำลังปรากฏตามปกติ ตามความเป็นจริง ก็คือ การออกจาก "คลื่นของโลภะ โทสะ โมหะ"ออกจาก ความไม่รู้ต่างๆ แล้วมา รู้ ตรง "ลักษณะของปรมัตถ์"

คุณย่าสงวน แล้วเพิ่งทราบด้วย ว่า "ปัญญา" ไม่ได้อยู่ที่ไหนแต่เป็น ขณะที่ ระลึก รู้ ตรง "ลักษณะ" ของสิ่งที่กำลังปรากฏขณะนี้ตามความเป็นจริง ก็คือ รู้ "ปรมัตถ์" นี่เอง ใช่ไหม

ท่านผู้ฟัง ฟังๆ ดู เหมือนกับ จะเข้าใจแต่ ประเดี๋ยว ก็ลืม อีกแล้ว

ท่านอาจารย์ นั่น ไม่ใช่ความเข้าใจ "ลักษณะของปรมัตถ์" แต่ เป็นความเข้าใจ "เรื่องราวของปรมัตถ์" ถ้าเข้าใจปรมัตถ์ ต้อง "เข้าใจถูก" ตรง "ลักษณะ" ขณะ "สติ" ระลึก"สติ" จะต้องมี "ลักษณะที่เป็นปรมัตถ์จริงๆ " เป็น "อารมณ์"

[เล่มที่ 30] พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย มหาวารวรรค เล่ม30 หน้าที่ 395

๙. คิลานสูตร

ว่าด้วยมีตนเป็นเกาะ

[๗๑๑] ดูก่อนอานนท์ เพราะฉะนั้นแหละ เธอทั้งหลายจง มีตนเป็นเกาะ มีตนเป็นที่พึ่ง อย่ามีสิ่งอื่นเป็นที่พึ่ง คือ จงมีธรรมเป็นเกาะ มีธรรมเป็นที่พึ่ง อย่ามีสิ่งอื่นเป็นที่พึ่ง
อยู่เถิด

[๗๑๒] ดูก่อนอานนท์ ก็ภิกษุ เป็นผู้มีตนเป็นเกาะ มีตนเป็นที่พึ่ง ไม่มีสิ่งอื่นเป็นที่พึ่ง คือ มีธรรมเป็นเกาะ มีธรรมเป็นที่พึ่ง ไม่มีสิ่งอื่นเป็นที่พึ่ง อยู่ ภิกษุในธรรมวินัยนี้

ย่อมพิจารณา เห็นกาย ในกาย อยู่ มีความเพียร มีสัมปชัญญะ มีสติ กำจัด อภิชฌา และ โทมนัส ในโลกเสีย

ย่อมพิจารณา เห็นเวทนา ในเวทนา อยู่ มีความเพียร มีสัมปชัญญะ มีสติ กำจัด อภิชฌา และ โทมนัส ในโลกเสีย

ย่อมพิจารณา เห็นจิต ในจิต อยู่ มีความเพียร มีสัมปชัญญะ มีสติ กำจัด อภิชฌา และ โทมนัส ในโลกเสีย

ย่อมพิจารณา เห็นธรรม ในธรรม อยู่ มีความเพียร มีสัมปชัญญะ มีสติ กำจัด อภิชฌา และ โทมนัส ในโลกเสีย

ดูก่อนอานนท์ ภิกษุ เป็นผู้มีตนเป็นเกาะ มีตนเป็นที่พึ่ง ไม่มีสิ่งอื่นเป็นที่พึ่ง คือ มีธรรมเป็นเกาะ มีธรรมเป็นที่พึ่ง ไม่มีสิ่งอื่นเป็นที่พึ่ง อยู่ อย่างนั้นแล

[๗๑๓] ดูก่อนอานนท์ ก็ผู้ใด ผู้หนึ่ง ในบัดนี้ ก็ดี ในเวลาที่เราล่วงไปแล้ว ก็ดี จักเป็น ผู้มีตนเป็นเกาะ มีตนเป็นที่พึ่ง ไม่มีสิ่งอื่นเป็นที่พึ่ง คือ มีธรรมเป็นเกาะ มีธรรมเป็นที่พึ่ง ไม่มีสิ่งอื่นเป็นที่พึ่ง อยู่ ภิกษุเหล่าใด เป็นผู้ใคร่ต่อ การศึกษา ภิกษุเหล่านั้น จักเป็นผู้เลิศ

จบคิลานสูตรที่ ๙

ตามปรกติ ... ขณะนี้มีอะไรกำลังปรากฎบ้างค่ะ? สภาพเห็น มี (นาม) ... สิ่งที่ถูกเห็น มี (รูป) สภาพนึกคิดถึง สิ่งที่เห็น ก็มี (นาม) ... ใช่มั้ยค่ะ.? รวมไปถึง สภาพธรรม ที่ปรากฎทางทวารอื่นๆ ด้วย แล้วแต่ว่าสติจะระลึกที่สภาพธรรมใดโดยไม่เจาะจง ตรงตาม "ลักษณะของสภาพธรรม" นั้นๆ จึงเรียกว่า เป็น "ผู้มีปรกติเจริญสติปัฏฐาน" เป็นการระลึกที่ลักษณะของสภาพธรรมนั้นจริงๆ ไม่ใช่การคิดนึก

ขออนุโมทนา ท่าน ... ผู้เอื้อเฟื้อรูปภาพ ค่ะ

ขออนุโมทนา


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
จักรกฤษณ์
วันที่ 12 พ.ค. 2552

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
suwit02
วันที่ 12 พ.ค. 2552

สาธุ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
pornpaon
วันที่ 12 พ.ค. 2552

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
orawan.c
วันที่ 13 พ.ค. 2552

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
Sam
วันที่ 14 พ.ค. 2552

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
สุภาพร
วันที่ 15 พ.ค. 2552

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
chatchai.k
วันที่ 19 ก.ค. 2563

ขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ