พระศาสดาผจญกับการแก้แค้น
small
วันที่ 19 พ.ค. 2552
หมายเลข 12416
อ่าน 1,300
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท เล่ม ๑ ภาค ๒ ตอน ๑ - หน้าที่ 285
พระศาสดาผจญกับการแก้แค้น พระนางมาคันทิยา ไม่อาจเพื่อจะทำอะไรๆ แก่หญิงเหล่านั้นได้ก็ดำริว่า "เราจักทำกรรมที่ควรทำแก่พระสมณโคดมให้ได้" จึงให้ค่าจ้างแก่ชาวเมืองแล้วกล่าวว่า " พวกเจ้าพร้อมด้วยพวกผู้ชายที่เป็นทาสและกรรมกร จงด่า บริภาษ พระสมณโคดมผู้เข้าไปสู่ภายในพระนครเที่ยวอยู่ ให้หนีไป." พวกมิจฉาทิฏฐิผู้ไม่เลื่อมใสในรัตนะ ๓ ก็ติดตามพระศาสดาผู้เสด็จไปสู่ภายในพระนคร ด่าอยู่ บริภาษอยู่ด้วยวัตถุสำหรับด่า ๑๐ อย่างว่า ๑. "เจ้าเป็นโจร ๒. เจ้าเป็นพาล ๓. เจ้าเป็นบ้า ๔. เจ้าเป็นอูฐ ๕. เจ้าเป็นวัว ๖. เจ้าเป็นลา ๗. เจ้าเป็นสัตว์นรก ๘. เจ้าเป็นสัตว์ดิรัจฉาน ๙. สุคติของเจ้าไม่มี ๑๐.เจ้าหวังได้ทุคติอย่างเดียว."
พระศาสดาผจญกับการแก้แค้น พระนางมาคันทิยา ไม่อาจเพื่อจะทำอะไรๆ แก่หญิงเหล่านั้นได้ก็ดำริว่า "เราจักทำกรรมที่ควรทำแก่พระสมณโคดมให้ได้" จึงให้ค่าจ้างแก่ชาวเมืองแล้วกล่าวว่า " พวกเจ้าพร้อมด้วยพวกผู้ชายที่เป็นทาสและกรรมกร จงด่า บริภาษ พระสมณโคดมผู้เข้าไปสู่ภายในพระนครเที่ยวอยู่ ให้หนีไป." พวกมิจฉาทิฏฐิผู้ไม่เลื่อมใสในรัตนะ ๓ ก็ติดตามพระศาสดาผู้เสด็จไปสู่ภายในพระนคร ด่าอยู่ บริภาษอยู่ด้วยวัตถุสำหรับด่า ๑๐ อย่างว่า ๑. "เจ้าเป็นโจร ๒. เจ้าเป็นพาล ๓. เจ้าเป็นบ้า ๔. เจ้าเป็นอูฐ ๕. เจ้าเป็นวัว ๖. เจ้าเป็นลา ๗. เจ้าเป็นสัตว์นรก ๘. เจ้าเป็นสัตว์ดิรัจฉาน ๙. สุคติของเจ้าไม่มี ๑๐.เจ้าหวังได้ทุคติอย่างเดียว."
ความคิดเห็นที่ 1
small
วันที่ 19 พ.ค. 2552
ท่านพระอานนท์ฟังคำนั้นแล้ว ได้กราบทูลคำนี้กะพระศาสดาว่า"ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ชาวเมืองเหล่านี้ ย่อมด่า ย่อมบริภาษพวกเรา,พวกเราจะไปในที่อื่นจากที่นี้." พระศาสดาตรัสถามว่า " เราจะไปที่ไหน อานนท์." พระอานนท์กราบทูลว่า " ไปเมืองอื่น พระเจ้าข้า." พระศาสดา. เมื่อพวกมนุษย์ในเมืองนั้นด่าอยู่, เราจักไปในที่ไหนกันอีกเล่า? อานนท์. พระอานนท์. ไปสู่เมืองอื่น แม้จากเมืองนั้น พระเจ้าข้า. พระศาสดา. เมื่อพวกมนุษย์ในเมืองนั้นด่าอยู่, เราจักไปในที่ไหนกันเล่า? พระอานนท์. ไปเมืองอื่นจากเมืองนั้น พระเจ้าข้า. พระศาสดา. อานนท์ การทำอย่างนี้ไม่ควร; อธิกรณ์เกิดขึ้นในที่ใด, เมื่ออธิกรณ์นั้นสงบระงับแล้วในที่นั้นแล จึงควรไปในที่อื่น;อานนท์ ก็พวกเหล่านั้น ใครเล่า? ด่า. พระอานนท์. ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ พวกเหล่านั้นทุกคนจนกระทั่งพวกทาสและกรรมกร ด่า. พระศาสดา ตรัสว่า " อานนท์ เราเป็นเช่นกับช้างซึ่งตัวก้าวลงสู่สงคราม, ก็การอดทนลูกศรอันมาจาก ๔ ทิศ ย่อมเป็นภาระของช้างซึ่งก้าวลงสู่สงความฉันใด ชื่อว่าการอดทนต่อถ้อยคำอันคนทุศีลเป็นอันมากกล่าวแล้ว ก็เป็นภาระของเราฉันนั้นเหมือนกัน" ดังนี้แล้ว
ความคิดเห็นที่ 2
small
วันที่ 19 พ.ค. 2552
เมื่อทรงปรารภพระองค์แสดงธรรมภาษิตคาถา ๓ เหล่านี้ในนาควรรคว่า "เราจักอดกลั้นถ้อยคำล่วงเกิน ดังช้างอดทน ลูกศร ซึ่งตกไปจากแล่งในสงคราม, เพราะคนเป็น อันมาก เป็นผู้ทุศีล, ราชบุรุษทั้งหลาย ย่อมนำ พาหนะที่ฝึกแล้วไปสู่ที่ประชุม, พระราชาย่อมเสด็จ ขึ้นพาหนะที่ฝึกแล้ว; ในหมู่มนุษย์ผู้ใดอดกลั้นถ้อยคำ ล่วงเกินได้, ผู้นั้นชื่อว่าฝึก (ตน) แล้ว เป็นผู้ ประเสริฐสุด. ม้าอัสดรที่ฝึกแล้วเป็นสัตว์ประเสริฐ, ม้าอาชาไนย ม้าสินธพที่ฝึกแล้ว เป็นสัตว์ประเสริฐ, พระยาช้างชาติกุญชรที่ฝึกแล้ว ก็เป็นสัตว์ประเสริฐ, (แต่) ผู้ฝึกตนเองได้แล้ว ประเสริฐ