ลักษณะ ๘ ประการของธรรม..

 
คุณย่า
วันที่  19 พ.ค. 2552
หมายเลข  12417
อ่าน  1,509

สนทนาพื้นฐานพระอภิธรรม ที่มูลนิธิฯ
วันอาทิตย์ที่ ๒๕ ม.ค. ๒๕๕๒

อร. เมื่อ..ตอนฟังธรรม ก็ไม่ทราบว่า ปกติมีแต่อกุศลและความไม่ดีงาม แต่เมื่อฟังธรรม ก็ทราบว่า อกุศลอย่างน้อยก็คือ ความไม่รู้ความจริงมีมาก ก็เลยต้องฟังให้เข้าใจว่า ความจริงที่จริงๆ คืออย่างไร ปกติ..ฟัง ทราบว่า มีความไม่รู้ และมีความติดข้อง เมื่อไม่รู้ และมีความติดข้อง เมื่อไม่รู้ก็ติดข้อง เพราะว่าในการศึกษานี้ ก็คือฟัง เพื่อให้เข้าใจว่า ไม่รู้คืออย่างไรและเมื่อรู้ ก็จะละความไม่รู้นั้นได้ หมายความว่า เมื่อเข้าใจแล้ว จากความไม่รู้นี้ก็จะเปลี่ยนเป็นความรู้ได้

อ.จ. ตก..ใจไหมค่ะ มีความไม่ดีเยอะ หรือว่าดีที่รู้ เข้าใจถูกต้อง เพราะอาจจะเข้าใจว่าดีมาก แต่ละวันๆ แต่ถ้ารู้ตามความเป็นจริง ว่าระหว่างความไม่ดี คือ อกุศลกับความดี คือ กุศล ในวันหนึ่งๆ อะไรมากกว่ากัน แล้วก็รู้ตามความเป็นจริง ก็อาจหาญที่จะรู้ว่า ไม่ใช่เราเลยค่ะ แต่ว่าสภาพธรรม ไม่ว่าจะเป็น กุศล หรืออกุศล ก็เกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย เพราะว่าเมื่อมีปัจจัยของอกุศลมาก อกุศลก็ต้องเกิด แต่ถ้าสะสมเหตุปัจจัยที่จะให้กุศลเกิดขึ้นบ่อยๆ กุศลก็มีมากขึ้น ซึ่งทั้งหมดก็เป็นธรรม ไม่อยู่ในอำนาจ บังคับบัญชาของใคร..

อร. คือ..เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว คุณลุงนิภัทร์ ได้กล่าวถึงพระธรรมของพระผู้มีพระภาคฯ ซึ่งมี ๘ ลักษณะ ขอให้ขยายว่า เราจะต้องใช้เวลานานมาก ที่จะทำให้เราได้เข้าใจธรรม

ลักษณะที่ ๑ คือลึกซึ้ง

ลักษณะที่ ๒ คือเห็นได้ยาก

ลักษณะที่ ๓ คือตรัสรู้ตามได้ยาก

ลักษณะที่ ๔ คือสงบ

ลักษณะที่ ๕ คือประณีต

ลักษณะที ๖ คือคิดเอาเองไม่ได้

ลักษณะที่ ๗ คือละเอียด

ลักษณะที่ ๘ คือเป็นธรรมอันบัณฑิตพึงรู้ได้

เมื่อ..คุณลุงนิภัทร์ นำมากล่าวนี้ ก็ทำให้เห็นได้ว่า มีลักษณะ ที่รู้ตามได้ยากอย่างนี้ ลึกซึ้งอย่างนี้ จึงทำให้ผู้ฟังต้องค่อยๆ อบรม เป็นจริกาลภาวนา ฟังบ่อยๆ เนืองๆ เพื่อให้เข้าใจ ยกตัวอย่างท่าน อ.จ. ไม่เคยบอกให้ไปจำชื่อเลย แต่ธรรมมีลักษณะแต่ละลักษณะ และให้เข้าใจลักษณะ แต่ผู้ฟังก็ไปใส่ใจแต่ในชื่อ จึงรู้สึกว่า การศึกษาจะยังไม่ตรง จึงทำให้เสมือนไม่เจอธรรมเลย.. จึง..ขอเรียนให้ท่าน อ.จ. ขยายข้อความเหล่านี้ เพื่อให้รู้ว่าจะต้องอดทน มีความเพียร ที่จะต้องฟังบ่อยๆ เนื่องๆ

อ.จ. ทั้ง..หมด ๘ ลักษณะ อยู่ที่เห็น ที่กำลังเห็น เดี๋ยวนี้หรือเปล่าค่ะ ก็รู้ได้เลย ว่าจะลึกซึ้งแค่ไหน เพราะยังไม่รู้ว่า ขณะนี้เป็นธรรมซึ่งเกิดเพราะเหตุปัจจัย แล้วก็ดับไป ไม่ต้องไปแสวงหาที่อื่นเลย พูด..ถึงธรรม ก็คือเดี๋ยวนี้เอง แล้วลึกซึ้ง เพราะว่าความจริงเป็นอย่างนี้.....


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
hadezz
วันที่ 20 พ.ค. 2552

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
suwit02
วันที่ 20 พ.ค. 2552

สาธุ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
จักรกฤษณ์
วันที่ 21 พ.ค. 2552

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
khampan.a
วันที่ 21 พ.ค. 2552
ขออนุโมทนาครับ
 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
nida
วันที่ 24 พ.ค. 2552

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
chatchai.k
วันที่ 24 ก.ค. 2563

ขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ