ได้ยินแล้วคิด_17
ขอนอบน้อมแด่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ได้ยิน ท่าน อ สุจินต์ เคยแสดง
" มโนทวารปรากฏ "
ได้ยินแล้วคิด
" มโนทวารปรากฏ " หมายถึงอะไร......
ขณะใด ...จึงชื่อว่า " มโนทวารปรากฏ "
ขออนุโมทนาในกุศลจิตทุกๆ ท่านค่ะ
ขณะที่ได้ยินแล้วคิด...................ขณะนั้น "มโนทวาร" ปรากฎแล้วค่ะ
เพียงแต่ไม่ได้ปรากฎกับสติ.........เพราะสติไม่เกิด
สภาพธรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นทาง ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ
ที่จะรู้ว่าเป็นธรรมะ ไม่ใช่เรา ก็ต่อเมื่อสภาพธรรมนั้น
ปรากฏลักษณะกับสติสัมปชัญญะที่เกิดขึ้น
สติฯ จึงระลึกรู้ตรงลักษณะที่ปรากฏในขณะนั้น
สำหรับผู้ที่เป็นปุถุชน...ถ้าสติสัมปชัญญะไม่เกิด
ขณะนั้นก็ยึดถือสภาพธรรมที่เกิด-ดับเพราะเหตุปัจจัย
ว่าเป็น "เรา" ไม่ว่าจะทางทวารใดก็ตาม
ขณะนี้เสมือนกับว่าเห็นตลอด
บางทีก็มีได้ยิน...มีกระทบสัมผัส ...แต่ก็ยังรู้สึกเสมือนว่าพร้อมกัน
ความจริงแล้ว...มีมโนทวารวิถีจิตเกิดสลับกับวิถีจิตทางปัญจทวาร...นับไม่ถ้วนแต่ยากที่วิถีจิตทางมโนทวารจะปรากฏเพราะอวิชชาไม่สามารถจะเห็นการเกิด-ดับสืบต่อของสภาพธรรมประการต่างๆ ได้
อุปมาเหมือน นกที่บินมาเกาะกิ่งไม้
ก็ปรากฏเงาของนกที่กิ่งไม้ ...ทันที
เงาของนกมาเมื่อไร?
เช่นกันกับในขณะนี้
การเกิด-ดับสืบต่ออย่างรวดเร็วของสภาพธรรมทางทวารต่างๆ ทีละทวาร
ก็ลวงให้เข้าใจผิดว่า ..มีเห็น...มีได้ยิน...กระทบสัมผัสอยู่เกือบตลอดเหมือนเที่ยง แต่ความจริงไม่เที่ยง เพราะเกิดแล้วดับทันที
แล้วหลังจากนั้นก็มี "คิด" ทางใจด้วยแล้ว "คิด" ตอนไหน?
จะเห็นได้ว่า...เราถูกลวงไม่ให้รู้ตัวว่า
...คิดแล้ว...หลังเห็น
...คิดแล้ว...ได้ยิน...
...คิดแล้ว...หลังกระทบสัมผัส ฯลฯ
คิด...โดยไม่รู้ว่าตัวว่าคิดแล้วและก็ไม่รู้ตัวอีกว่าที่ "คิด" แล้ว ไม่ใช่ตัวตนอย่างไรหนทางเดียว คือ อบรมเจริญปัญญาให้เข้าใจพระธรรมตามความเป็นจริงครับ
ขออนุโมทนาครับ
เคยได้ยินมาว่า คำว่า " มโนทวารปรากฏ " ไม่ธรรมดาครับ
เพราะโดยปกติมโนทวารไม่ปรากฏ มีแต่ปัญจทวารปรากฏ ปัญจทวารจึงปิดบังมโนทวาร มโนทวารจึงไม่ปรากฏ แต่เมื่อวิปัสสนาญาณเกิดขึ้น
มโนทวารจึงปรากฏ เพราะปัญญาครับ
ขอนอบน้อมแด่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
กราบอนุโมทนา อ PRACHERN.S นะคะ
เพราะเคยได้ยินท่านอ. สุจินต์แสดงหลายครั้ง
แต่ก็ไม่กระจ่างว่าจะต้องเป็นวิปัสสนาญาณ หรือไม่
ขออนุโมทนาในกุศลจิตทุกๆ ท่านค่ะ
ขอบคุณ และขออนุโมทนาทั้งท่านเจ้าของกระทู้และท่านผู้ตอบ
ผู้อนุโมทนาและในกุศลจิตทุกท่านค่ะ
สภาพธรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นทาง ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ
ที่จะรู้ว่าเป็นธรรมะ ไม่ใช่เรา ก็ต่อเมื่อสภาพธรรมนั้น
ปรากฏลักษณะกับสติสัมปชัญญะที่เกิดขึ้น
สติฯ จึงระลึกรู้ตรงลักษณะที่ปรากฏในขณะนั้น
สำหรับผู้ที่เป็นปุถุชน...ถ้าสติสัมปชัญญะไม่เกิด
ขณะนั้นก็ยึดถือสภาพธรรมที่เกิด-ดับเพราะเหตุปัจจัย
ว่าเป็น "เรา" ไม่ว่าจะทางทวารใดก็ตาม
ขณะนี้เสมือนกับว่าเห็นตลอด
บางทีก็มีได้ยิน...มีกระทบสัมผัส ...แต่ก็ยังรู้สึกเสมือนว่าพร้อมกัน
ความจริงแล้ว...มีมโนทวารวิถีจิตเกิดสลับกับวิถีจิตทางปัญจทวาร...นับไม่ถ้วนแต่ยากที่วิถีจิตทางมโนทวารจะปรากฏเพราะอวิชชาไม่สามารถจะเห็นการเกิด-ดับสืบต่อของสภาพธรรมประการต่างๆ ได้
อุปมาเหมือน นกที่บินมาเกาะกิ่งไม้
ก็ปรากฏเงาของนกที่กิ่งไม้ ...ทันที
เงาของนกมาเมื่อไร?
เช่นกันกับในขณะนี้
การเกิด-ดับสืบต่ออย่างรวดเร็วของสภาพธรรมทางทวารต่างๆ ทีละทวาร
ก็ลวงให้เข้าใจผิดว่า ..มีเห็น...มีได้ยิน...กระทบสัมผัสอยู่เกือบตลอดเหมือนเที่ยง แต่ความจริงไม่เที่ยง เพราะเกิดแล้วดับทันที
แล้วหลังจากนั้นก็มี "คิด" ทางใจด้วยแล้ว "คิด" ตอนไหน?
จะเห็นได้ว่า...เราถูกลวงไม่ให้รู้ตัวว่า
...คิดแล้ว...หลังเห็น
...คิดแล้ว...ได้ยิน...
...คิดแล้ว...หลังกระทบสัมผัส ฯลฯ
คิด...โดยไม่รู้ว่าตัวว่าคิดแล้วและก็ไม่รู้ตัวอีกว่าที่ "คิด" แล้ว ไม่ใช่ตัวตนอย่างไรหนทางเดียว คือ อบรมเจริญปัญญาให้เข้าใจพระธรรมตามความเป็นจริงครับ
ขออนุโมทนาครับ
ขอบพระคุณค่ะขออนุโมทนา.
เคยได้ยินมาว่า คำว่า " มโนทวารปรากฏ " ไม่ธรรมดาครับ
เพราะโดยปกติมโนทวารไม่ปรากฏ มีแต่ปัญจทวารปรากฏ ปัญจทวารจึงปิดบังมโนทวาร มโนทวารจึงไม่ปรากฏ แต่เมื่อวิปัสสนาญาณเกิดขึ้น
มโนทวารจึงปรากฏ เพราะปัญญาครับ
มโนทวารปรากฏ...ไม่ธรรมดาเพราะต้องเป็นปัญญาระดับ "วิปัสสนาญาณ"
ลึกซึ้ง...จึงเห็นยากอย่างนี้เอง.!
ขอขอบพระคุณและขออนุโมทนาใน "ธรรมทาน" ค่ะ (เพราะว่าไม่เคยเข้าใจมาก่อนเลยค่ะ)
ท่านเคยอธิบายไว้ในกระทู้นี้l
l
l
v
ปัญจทวาร ปิดบังมโนทวาร
.
.
.
ว่า...
ในชีวิตประจำวัน โดยมาก การรับรู้อารมณ์ และ ความรู้สึก ที่มีประจำก็คือ ทางทวารทั้งห้า คือ เห็น ได้ยิน ได้กลิ่น เป็นต้น สลับกันไป ไม่ทราบ....ว่ามี วิถีจิตทางมโนทวาร....รับรู้อารมณ์ต่อ.
ฉะนั้น
สำหรับผู้ที่ไม่ได้อบรมปัญญา ย่อมจะมีความรู้...เพียง ทางทวารทั้งห้าและ แยกไม่ได้ว่า...ปัญจทวาร หรือ มโนทวาร
สำหรับผู้ที่มี วิปัสสนาญาณ มโนทวารย่อมปรากฎ แยกการรู้อารมณ์ ทางปัญจทวาร และ มโนทวาร จึงไม่ถูกปัญจทวารปิดบัง