ปัญญาของผู้ที่ไม่ใช่ติเหตุกบุคคล
ขอเรียนถามเกี่ยวกับปัญญาของผู้ที่ปฏิสนธิในภูมิมนุษย์ โดยไม่มีอโมหเหตุ (ปัญญาเจตสิก) เกิดในปฏิสนธิกาลครับว่า
๑. เมื่อเจริญสมถภาวนา จะบรรลุอุปปจารสมาธิ หรืออัปปนาสมาธิได้หรือไม่
๒. เมื่อเจริญวิปัสสนาภาวนา จะเกิดสติปัฏฐาน หรือปัญญาขั้นวิปัสสนาญาณได้หรือไม่
๓. สำหรับกัลยาณปุถุชนผู้ที่สะสมปัญญามามากแล้วในอดีตชาติ จะเกิดในสุคติภูมิในชาติปัจจุบัน (หรือชาติต่อๆ ไป) โดยปฏิสนธิเป็นอเหตุกบุคคล หรือทวิเหตุกบุคคล ซึ่งจะเป็นปัจจัยให้ไม่สามารถบรรลุอริยสัจจธรรมในชาตินั้นและในภูมินั้นได้หรือไม่ครับ
๑. บรรลุอุปปจารสมาธิ หรืออัปปนาสมาธิไม่ได้ครับ เพราะปฏิสนธิเป็นเครื่องกั้น
๒. สติปัฏฐานอาจเกิดได้ แต่ปัญญาขั้นวิปัสสนาญาณเกิดไม่ได้ครับ
๓. ได้ครับ เป็นไปได้ทั้งหมด
บุคคลที่ปฏิสนธิด้วยทวิเหตุ ไม่ประกอบด้วยปัญญา ไม่สามารถบรรลุ มรรค ผล นิพพาน แม้แต่จะทำฌาน ฌานก็ไม่เกิด แต่สามารถเจริญปัญญาและสะสมปัญญาได้ ส่วนบุคคลที่ปฏิสนธิด้วยติเหตุกบุคคล ก็ไม่ใช่ว่าจะบรรลุทุกคน ถ้าประมาท นอกจากจะไม่บรรลุฌานและ มรรค ผล นิพพานแล้ว ยังเป็นเหตุให้ไปอบายภูมิ เช่น พระเทวทัต
ขอเรียนถามท่านอาจารย์วิทยากรค่ะ
สำหรับผู้ที่ปฏิสนธิด้วยอเหตุกกุศลวิปากเป็นมนุษย์ หรือเทวดาชั้นจาตุมหาราชิกา พิการแต่กำเนิด บ้า ใบ้ บอด หนวก สามารถที่จะฟังพระธรรมและสะสมปัญญาได้หรือไม่ค่ะ
ขอขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
เรียนความเห็นที่ 3
พวกอเหตุกสัตว์ก็สามารถฟังธรรมสะสมปัญญาได้บ้าง แต่ยากครับ เว้นแต่ผู้มีปัญญาสะสมมามากเช่นพระโพธิสัตว์ทั้งหลาย แต่ส่วนใหญ่แล้วพวกอเหตุกสัตว์ จะไม่สามารถรู้คำสุภาษิตหรือทุพภาษิตได้ ดังนั้นการสะสมปัญญาของพวกอเหตุกสัตว์ จึงเป็นเรื่องยาก แต่ใช่ว่าจะไม่ได้เสียเลย
แม้แต่ปฏิสนธิจิตเพียงขณะเดียวในปฏิสนธิกาล ยังเป็นเหตุเป็นปัจจัยที่สำคัญยิ่งแก่จิตดวงอื่นๆ ซึ่งนับจำนวนไม่ได้ในปวัตติกาล ธัมมะเป็นอภิธรรมช่างยิ่งใหญ่เกินอำนาจบังคับบัญชาของผู้ใดจริงๆ
ขอบคุณและขออนุโมทนาครับ
ในพระไตรปิฎกมีแสดงไว้ว่า ค้างคาว ๕๐๐ ได้ฟังธรรมที่พระภิกษุแสดง ก็จำนิมิตในเสียงว่าเป็นเสียงธรรมะ ภายหลังก็มาเป็นภิกษุ ๕๐๐ และได้บรรลุเป็นพระอรหันต์ค่ะ