พระอุคคเสน
[เล่มที่ 43] พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท เล่ม ๑ ภาค ๒ ตอน ๔ -หน้าที่ 306
เรื่องบุตรเศรษฐีชื่ออุคคเสน
"เชิญเถิด อุคคเสน บุตรคนฟ้อน ผู้มีกำลังมาก เชิญท่านจงดู เชิญท่านทำความยินดีแก่บริษัทเถิด เชิญท่านทำให้มหาชนร่าเริงเถิด" เขาได้ยินถ้อยคำของพระเถระแล้ว เป็นผู้มีใจยินดี หวังว่า "พระศาสดามีพระประสงค์จะดูศิลปะของเรา" จึงยืนบนปลายไม้แป้นแล้วกล่าวคาถานี้ว่า :- "เชิญเถิด ท่านโมคคัลลานะ ผู้มีปัญญามาก มีฤทธิ์มาก เชิญท่านจงดู กระผมจะทำความยินดีแก่บริษัท จะยังมหาชนให้ร่าเริง" ก็แลครั้นกล่าวอย่างนั้นแล้ว ก็กระโดดจากปลายไม้แป้น ขึ้นสู่อากาศ หกคะเมน ๑๔ ครั้งในอากาศแล้ว ลงมายืนอยู่บนปลายไม้แป้น (ตามเดิม)
ลำดับนั้น พระศาสดาตรัสกะเขาว่า "อุคคเสน ธรรมดาบัณฑิตต้องละความอาลัยรักใคร่ในขันธ์ทั้งหลาย ทั้งที่เป็นอดีต อนาคต และปัจจุบันเสียแล้ว พ้นจากทุกข์ทั้งหลายมีชาติเป็นต้นจึงควร ดังนี้แล้ว ตรัสพระคาถานี้ว่า:-
"ท่านจงเปลื้อง (อาลัย) ในก่อนเสีย จงเปลื้อง (อาลัย) ข้างหลังเสีย จงเปลื้อง (อาลัย) ในท่ามกลางเสีย จึงเป็นผู้ถึงฝั่งแห่งภพ มีใจหลุดพ้นในธรรมทั้งปวง จะไม่เข้าถึงชาติและชราอีก"
ในกาลจบเทศนา การตรัสรู้ธรรมได้มีแก่สัตว์ทั้ง ๘๔,๐๐๐ แล้ว อุคคเสนทูลขอบรรพชาอุปสมบท ฝ่ายบุตรเศรษฐี กำลังยืนอยู่บนปลายไม้แป้น บรรลุพระอรหัตพร้อมด้วย ปฏิสัมภิทาแล้ว ลงจากไม้แป้นมาสู่ที่ใกล้พระศาสดา ถวายบังคมด้วยเบญจางคประดิษฐ์ ทูลขอบรรพชากะพระศาสดา ลำดับนั้น พระศาสดาทรงเหยียดพระหัตถ์ เบื้องขวาตรัสกะนายอุคคเสนนั้นว่า "ท่านจงเป็นภิกษุมาเถิด" อุคคเสนนั้นได้ เป็นผู้ทรงไว้ซึ่งบริขาร ๘ ประหนึ่งพระเถระมีพรรษาตั้ง ๖๐ ในขณะนั้นนั่นเอง