กำลังใจคือปัญญาที่รู้ความจริง
ไม่มีผู้ใดที่จะหลีกหนีผลของกรรมไปได้ กรรมที่ตนได้กระทำไว้แล้วในอดีต แม้แต่พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า พระพุทธองค์ก็ไม่สามารถหลีกหนีอดีตกรรมได้ ท่านพระ
อัครสาวกทั้งสอง ท่านพระสารีบุตรและท่านพระโมคคลานะก็เช่นเดียวกัน ก่อนที่ท่าน
โมคคลานะจะปรินิพพานท่านก็ถูกทำร้ายเหตุเพราะอดีตกรรม ท่านมีความทุกข์กายแต่ไม่ทุกข์ใจเพราะท่านหมดจดจากกิเลสแล้ว สำหรับเราเป็นปุถุชนหนาด้วยกิเลส เมื่อ
ผลของกรรมผลิผลก็ทุกข์ใจ หวั่นไหวไปกับกิเลส แต่เมื่อได้ฟังพระธรรมมีความเข้าใจในพระธรรม มั่นคงในกรรมและผลของกรรม ย่อมหวั่นไหวน้อยลงมีความทุกข์ใจน้อยลง
เพราะทุกๆ ขณะที่ได้เห็น ได้ยิน.... กระทบสัมผัสกับสิ่งที่ดีหรือไม่ดีล้วนเกิดขึ้นเพราะ
เหตุปัจจัย เป็นผลของอดีตกรรมทั้งสิ้น การมีโอกาสได้ฟังพระธรรมเข้าใจพระธรรมจึงเป็นสาระสำคัญที่ได้เกิดมาในชาตินี้ ปัญญาที่รู้ความจริงในสิ่งที่กำลังปรากฎทุกๆ
ขณะ เห็น ได้ยิน...คิดนึก ทุกข์กาย โกรธ หวั่นไหว ซึ่งล้วนเกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัยไม่ใช่เรา เป็นเพียงธรรมะเท่านั้น ฟังธรรมแล้วก็ลืมว่าทุกอย่างเป็นธรรมะ
เพียรที่จะอบรมเจริญปัญญา กำลังใจคือปัญญาที่รู้ความจริงในลักษณะสภาพ-ธรรมตรงตามความเป็นจริง แม้ขณะหวั่นไหวก็ไม่ใช่เราเป็นเพียงสภาพธรรม
เท่านั้น
เชิญคลิกอ่าได้ที่....
ผู้มีราตรีเดียวเจริญ [ภัทเทกรัตตสูตร]
ขออนุโมทนาค่ะ
กุศลย่อมเป็นกุศล อกุศลย่อมเป็นอกุศล สภาพธรรมที่ปรากฏตามความเป็นจริงยังอยู่ห่างไกลจากผมมากๆ รู้แต่ว่าสนใจฟัง สนใจศึกษาตามกำลัง ด้วยดี