ด้วยบุญที่ได้กระทำไว้แต่อดีต

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

มีคนพูดกันว่าท่านอาจารย์สุจินต์สอนแต่ปริยัติ ไม่สอนปฎิบัติ แต่ถ้าหากว่าผู้นั้นอดทนฟังท่านอาจารย์ และพิจารณา ไตร่ตรอง สิ่งที่ท่านอาจารย์ได้กล่าวธรรมตามที่

พระพุทธองค์ทรงตรัสรู้ ขณะที่ท่านเข้าใจธรรมตามที่ท่านอาจารย์ได้เมตตาแนะให้

เข้าใจในสิ่งที่มีอยู่จริงๆ ซึ่งกำลังปรากฎขณะนี้ ท่านจะทราบว่าท่านเป็นผู้มีบุญที่ได้กระทำไว้แต่อดีตเป็นเหตุให้ได้มาพบท่านอาจารย์ ท่านมีความอดทนที่จะแนะนำให้

ผู้ฟังเกิดความเข้าใจถูกต้องในสภาพธรรมทั้งหลายตรงตามความเป็นจริง ไม่ใช่จำแต่

เรื่องราวธรรมะ แต่ให้เข้าใจถึงตัวสภาวะของธรรม ฟังพระธรรมให้เข้าใจว่าทุกอย่างเป็นธรรม เกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย ไม่อยู่ในอำนาจบังคับของผู้ใดได้ เพราะสภาพ-

ธรรมทั้งหลายเป็นอนัตตา โดยส่วนตัวเองเคยไปปฎิบัติธรรมมาหลายสำนัก ไม่มีที่

ใดสอนให้เข้าใจถูกในสิ่งที่กำลังปรากฎในขณะนี้ ไม่มีที่ใดสอนให้รู้ว่าสภาพธรรมทั้งหลายเป็นอนัตตาอย่างไร มีแต่พูดเรื่องราวของธรรม และให้มีสติไปรู้ ซึ่งขัดกับคำ-สอนของพระพุทธองค์ที่ว่า "สภาพธรรมทั้งหลายเป็นอนัตตา" จะบังคับให้สติ

เกิดได้อย่างไร ท่านอาจารย์สุจินต์ที่แนะหนทางที่ถูกต้อง คือ อริยมรรค์มีองค์ ๘

ซึ่งก็คือการอบรมเจริญสติปัฎฐาน มรรค์องค์แรก คือ สัมมาทิฎฐิ ท่านให้มีความเห็นถูกในลักษณะสภาพธรรมที่กำลังปรากฎในชีวิตประจำวัน หากไม่อบรมเจริญปัญญา

ให้เกิดความเข้าใจถูกในลักษณะสภาพธรรมที่กำลังปรากฎอยู่ขณะนี้ สติปัฎฐานย่อมเกิดไม่ได้แน่นอน ... เมื่อไม่มีเหตุคือสติปัฎฐานเกิด ผลก็คือไม่สามารถบรรลุธรรมได้

เหตุต้องสมควรแก่ผลเสมอ

ธรรม ทั้งหลายเกิดแต่เหตุ

กราบอนุโมทนาท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ค่ะ