บัญญัติ-รูปร่างสัณฐาน

 
VIRIYO
วันที่  23 มิ.ย. 2552
หมายเลข  12740
อ่าน  1,501

จากในหนังสือปรมัตถธรรมสังเขปกล่าวไว้ว่า

เมื่อวิถีจิตทางปัญจทวาร (ทวารหนึ่งทวารใด) ดับหมดแล้วภวังคจิตเกิดคั่นหลายขณะแล้ว มโนทวารวิถีจิตก็เกิดสืบต่อ มโนทวารวิถีจิตวาระแรกมีอารมณ์หนึ่งอารมณ์ใดใน ๕ อารมณ์ที่เพิ่งดับไปทางปัญจทวารนั่นเองเป็นอารมณ์ มโนทวารวิถีจิตวาระแรกที่เกิดต่อจากปัญจทวารวิถีจิตนั้น ยังไม่มีบัญญัติเป็นอารมณ์

มโนทวารวิถีจิตแต่ละวาระมีวิถีจิต ๒ หรือ ๓ วิถีจิต คือมโนทวาราวัชชนวิถีจิต ๑ ขณะ ชวนวิถีจิต ๗ ขณะ ตทาลัม-พนวิถีจิต ๒ ขณะ (บางวาระก็ไม่มีตทาลัมพนวิถีจิต) เมื่อมโนทวารวิถีจิตวาระที่ ๑ ดับไปแล้ว ภวังคจิตก็เกิดคั่นหลายขณะ แล้วมโนทวารวิถีจิตวาระที่ ๒ ก็เกิดต่อ มีบัญญัติคือ รูปร่างสัณฐานของอารมณ์หนึ่งอารมณ์ใดใน ๕ อารมณ์นั้นเป็นอารมณ์ เมื่อมโนทวารวิถีจิตวาระที่ ๒ ดับไปแล้วภวังคจิตก็เกิดคั่น แล้วมโนทวารวิถีจิตวาระต่อๆ ไปก็เกิดขึ้นมีอรรถ

รูปร่างสัณฐานของอารมณ์ คืออะไรครับ (อยู่ในปรมัติธรรมหรือเปล่าครับ- จิต/เจตสิก/รูป)

แล้ว รูปร่างสัณฐานของอารมณ์ มาได้อย่างไรครับ มาจาก สัญญาหรือเปล่าครับ

ขอบคุณมากครับ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
prachern.s
วันที่ 23 มิ.ย. 2552

รูปร่างสัณฐานของอารมณ์ คือ บัญญัติ ไม่ใช่ จิต เจตสิก รูป รูปร่างสัณฐานของอารมณ์ มีเพราะจิตคิดถึง สี เป็นต้นที่จิตรับรู้ต่อจากทางปัญจทวารครับ..

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
จำแนกไว้ดีจ๊ะ
วันที่ 24 มิ.ย. 2552

เราต้องการรู้ปรมัตถ์...

กล่าวเฉพาะทางตา...

สภาพของรูป ไม่เห็นแต่รู้ได้

สภาพการเห็น ต้องอาศัยรูปจึงเห็น

รูปร่างสัณฐานก็คิดไปเอง ไม่ใช่ทั้งรูป และการเห็น ไม่ใช่ปรมัตถ์

สงสัยว่ารูปที่ดับไปแล้วทางตา มาปรากฎทางใจอีกเรียกว่าอะไร

รูปปรากฏทางมโนทวารได้ไหม

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
prachern.s
วันที่ 24 มิ.ย. 2552

รูปที่ปรากฏทางจักขุวิถีแล้ว วิถีทางมโนทวารรับรู้ต่อทันที อารมณ์นั้นเรียกว่า รูปารมณ์ ไม่เปลี่ยนเป็นอย่างอื่น รูปารมณ์ย่อมไม่เปลี่ยนเป็นธัมมารมณ์

เพราะรูปารมณ์รู้ได้ ๒ ทวาร คือจักขุทวาร และมโนทวาร

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
wannee.s
วันที่ 25 มิ.ย. 2552

รูปร่างสัณฐานเป็นอารมณ์ของจิตขณะที่จิตรู้รูปร่างสัณฐาน เช่น เห็นสีปรากฏ สีเขียว

ก็คิดถึงต้นไม้ นามธรรมก็มีหลายอย่าง เช่น วิตกเจตสิก หรือสัญญาเจตสิก แต่มีจิตเป็น

หัวหน้าในขณะนั้น แต่ละนามธรรมก็ทำหน้าที่ต่างกันและเกิดพร้อมกันด้วยในขณะนั้น

อยู่ที่จิตจะคิดถึงไหม ถ้าไม่คิดถึงก็มีสิ่งที่ปรากฏทางตา แต่ขณะนั้นไม่ได้ใส่ใจว่าเป็นอะไร

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
จำแนกไว้ดีจ๊ะ
วันที่ 26 มิ.ย. 2552
เรียนถามท่าน prachern.sความคิดเห็นที่ 3 ผมขอเรียนถามตามที่ท่านกล่าวว่า

"รูปที่ปรากฏทางจักขุวิถีแล้ว วิถีทางมโนทวารรับรู้ต่อทันที"
นั้น ผมขอถามว่า "ขณะที่วิถีทางมโนทวารรับรู้ต่อทันที่นั้น รูปดับหรือยังไม่ดับ ถ้ารูปดับแล้ว สภาพรู้ขณะที่รูปดับแล้วต่างกับสภาพรู้ที่รูปยังไม่ดับอย่างไร? ทรงจำแนกไว้หรือไม่ หรือว่าไม่ต่างกัน ไม่ได้ทรงจำแนกไว้ครับ ขอสนทนาธรรมกับทุกท่านครับ
 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
prachern.s
วันที่ 26 มิ.ย. 2552
อ้างอิงจาก : หัวข้อ 12740 ความคิดเห็นที่ 5 โดย จำแนกไว้ดีจ๊ะเรียนถามท่าน prachern.sความคิดเห็นที่ 3 ผมขอเรียนถามตามที่ท่านกล่าวว่า

"รูปที่ปรากฏทางจักขุวิถีแล้ว วิถีทางมโนทวารรับรู้ต่อทันที"
นั้น ผมขอถามว่า "ขณะที่วิถีทางมโนทวารรับรู้ต่อทันที่นั้น รูปดับหรือยังไม่ดับ ถ้ารูปดับแล้ว สภาพรู้ขณะที่รูปดับแล้วต่างกับสภาพรู้ที่รูปยังไม่ดับอย่างไร? ทรงจำแนกไว้หรือไม่ หรือว่าไม่ต่างกัน ไม่ได้ทรงจำแนกไว้ครับ ขอสนทนาธรรมกับทุกท่านครับ

ขณะที่วิถีทางมโนทวารรับรู้ต่อทันที่นั้น รูปพึ่งดับไป แต่เสหมือนยังมีอยู่เพราะ

ความรวดเร็วของจิต ส่วนสภาพรู้ไม่ต่างกันครับ เพราะเป็นจิตเหมือนกัน

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
จำแนกไว้ดีจ๊ะ
วันที่ 26 มิ.ย. 2552
ในเมื่อมโนทวารรู้รูปที่ดับไปแล้ว ไม่ใช่รู้รูปที่กำลังปรากฏทางปัญจทวารดังนี้แล้ว ใยจึงจะกล่าวว่ารูปารมณ์รู้ได้ ๒ ทวารคือจักขุทวาร และมโนทวารอีกเล่าท่าน prachern.s ผู้เจริญในธรรม อันท่านกล่าวว่าสภาพรู้ไม่ต่างกันเพราะเป็นจิตเหมือนกันนั่นใช่แล้ว ส่วนสภาพรู้ที่ต่างกันเพราะรู้รูปขณะกำลังปรากฏ ๑ กับสภาพรู้ที่รู้รูปพึงดับไป ๑ ไม่ทรงตรัสไว้บ้างเลยหรือ ขอท่านได้โปรดแสดงแจ้งต่อไปเถิด อย่างไรก็ตามต้องขอเรียนถามท่านหวังพึงพาท่านโปรดใช้ปัญญาแสดงความคิดเห็น สนทนาธรรมเถิด ขออนุโมทนาครับ
 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
prachern.s
วันที่ 26 มิ.ย. 2552
พระพุทธองค์ตรัสเรื่องวิถีจิต อารมณ์ ทวาร ไว้โดยละเอียด ตามนัยที่นำเสนอไปแล้วคือ วิถีจิตวาระแรกทางมโนทวารรับรู้อารมณ์ต่อจากทางปัญจทวารทันที เร็วมากรูปนั้นก็เสหมือนยังอยู่ จึงทรงแสดงความจริงว่า มีปรมัตถธรรมนั้นเป็นอารมณ์ครับ

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
จำแนกไว้ดีจ๊ะ
วันที่ 27 มิ.ย. 2552
ขอรับท่าน prachern.s ผู้เจริญกระนั้นจึงกล่าวว่ารู้รูป สภาพรู้ไม่ใช่รูป สภาพรู้นั้นย่อมเหมือนกันดังนี้แล

ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
สุภาพร
วันที่ 17 ก.ค. 2552

ขอขอบพระคุณและอนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 11  
 
จำแนกไว้ดีจ๊ะ
วันที่ 21 ก.ค. 2552

ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ