บาป และ อกุศลวิบาก ต่างกันอย่างไร

 
sirijata
วันที่  1 ก.ค. 2552
หมายเลข  12798
อ่าน  1,330

ขอเรียนถามเพื่อความเข้าใจยิ่งขึ้นว่า "เมื่อไม่มีเจตนา ก็ไม่บาปนั้น" ถ้าเราไม่ได้ตั้งใจฆ่ามด แต่โดยความพลั้งเผลอ ทำให้มดตาย ถือว่า เราไม่บาป แต่กรรมได้ทำไปแล้ว แม้ไม่เจตนา ย่อมยังให้ได้รับอกุศลวิบาก ใช่หรือไม่คะ

แม้มดจะเป็นกรรมเบาๆ ถ้าเป็นสัตว์มีคุณ แม้ไม่เจตนา แต่อกุศลวิบาก ก็คงไม่เบา และจะมาถึงเมื่อไรก็ไม่ทราบ อาจเป็นชาติต่อๆ ไปก็ได้ ถูกต้องหรือไม่คะ

ขอความกรุณาอธิบายให้เข้าใจยิ่งขึ้นด้วยค่ะ ขอบพระคุณค่ะ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
prachern.s
วันที่ 1 ก.ค. 2552

เมื่อพูดถึงกรรมแต่ละประเภทที่สำเร็จเป็นกรรม วิบากที่เกิดจากกรรมนั้นๆ ย่อมมีได้แต่เมื่อไม่สำเร็จเป็นกรรม หรือไม่มีเจตนา ไม่เป็นกรรม วิบากที่เกิดเพราะกรรมนั้นย่อมไม่มี เพราะไม่เป็นกรรม วิบากจึงไม่มี ครับ

ส่วนความหมายคำว่าบาปนั้นส่วนใหญ่หมายถึง อกุศลกรรม

อกุศลวิบากเป็นผลของอกุศลกรรม

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
paderm
วันที่ 2 ก.ค. 2552

เชิญคลิกอ่านเพิ่มเติมที่นี่ครับ

บาปไม่บาปอยู่ที่เจตนาเป็นสำคัญ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
choonj
วันที่ 3 ก.ค. 2552

เจตนาคือตัวกรรม เมื่อไม่มีเจตนาฆ่ามด กรรมก็ไม่ครบองค์ เมื่อไม่ครบองค์ ก็ไม่เป็นกรรมไม่มีอกุศลวิบาก ไม่ต้องรับกรรม เรียกว่าไม่บาป ถ้ามีเจตนาเรียกว่าบาป แต่แน่ใจจริงๆ หรือที่ไม่มีเจตนา เพราะโลภะ โทสะ เขาแนบเนียนมาก แม้นสัตว์มีคุณถ้าไม่มีเจตนาก็ไม่มีกรรม จึงไม่ต้องไปคำนึงถึงว่าจะได้รับกรรมชาตินี้หรือชาติหน้า แต่เราเคยทำกุศลกรรมและอกุศลกรรมไว้มากเพราะได้เกิดมานานแล้ว จึงต้องยอมรับว่าอะไรเกิดก็ต้องเกิด ตามมีตามได้ อยู่ในศีลรักษาศีล เพื่อที่จะไม่ประกอบอกุศลกรรม (บาป) ให้มากขึ้น ครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
wannee.s
วันที่ 3 ก.ค. 2552

การให้ผลของกรรมดีหรือไม่ดี เช่นการให้ทาน ชวนะดวงที่

1. ให้ผลชาตินี้ ชวนะดวงที่

2. ให้ผลนับชาติไม่ถ้วน ชวนะดวงที่ 7 ให้ผลชาติหน้า ในสังสารวัฏฏ์เราก็ทำทั้งกุศล กรรมและอกุศลกรรมมากมายนับไม่ได้ เราไม่ควรประมาทในการเจริญกุศลทุกประการค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
sirijata
วันที่ 21 ก.ค. 2552

ขอบพระคุณและขออนุโมทนาในกุศลกรรมของทุกท่านค่ะ

เจตนา นั้นสำคัญจริงๆ แม้เพียงแว๊บเดียวขณะเดียวของจิตที่เจตนาเป็นอกุศล ซึ่งอาจไม่ทันรู้ตัวเลย อาจอยู่ในชวนะระหว่างดวงที่ 2-6 ก็ส่งผลได้ เมื่อไรก็ไม่รู้ ดังที่พระพุทธองค์ทรงตรัสถึงสาเหตุที่เสวยสุกรมัทวะของนายจุนทะแล้วทรงอาพาธจนดับขันธ์ปรินิพพาน เป็นเพราะในพระชาติที่เป็นแพทย์ ทรงให้ยารักษาผู้ป่วยผิด ทำให้ผู้ป่วยถึงแก่ความตาย จึงเป็นเหตุปัจจัยในพระชาติสุดท้าย

หากดิฉันยังเข้าใจผิดประการใด ขอความกรุณาแก้ไขความเข้าใจให้ด้วยค่ะ

ขอบพระคุณค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
chatchai.k
วันที่ 30 ม.ค. 2565

ขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ