ถ้าเราอยากเผยแพร่ศาสนาจำเป็นต้องรวยก่อนหรือไม่

 
medulla
วันที่  3 มิ.ย. 2549
หมายเลข  1280
อ่าน  1,207

ได้คุยกับเพื่อนคนนึง เค้าบอกว่า ถ้าเรายังตัวเล็กอยู่ (จน) ก็ช่วยศาสนาไม่ได้มาก จะมีกำลังใจการเผยแพร่ได้น้อย แต่ถ้าเราตัวใหญ่ (รวย) เราอยากสร้างวัด เราอยากทำสื่อธรรมะแจกไม่อั้นอย่างไรก็ทำได้ ก็เลยสงสัยว่า อย่างนี้ ถ้าวันนึงประเทศเราจนขึ้นมาเราก็เผยแพร่ศาสนาออกไปได้ลำบากรึเปล่า คนจนๆ แต่มีกำลังใจในการสละออก ทำธรรมทาน ทำการอบรมเจริญปัญญาให้ตนเองเข้าใจตรง แบบนี้จะช่วยเผยแพร่ศาสนาได้สักแค่ไหน จำเป็นต้องรวยก่อนหรือไม่ ขอคำแนะนำ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
study
วันที่ 3 มิ.ย. 2549

การเผยแพร่พระศาสนาของพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าและพระอริยสาวกในสมัยครั้งพุทธกาล ท่านไม่ต้องอาศัยการรวยเงินทองทางโลกเลย ท่านก็เผยแพร่พระศาสนามาจนถึงทุกวันนี้ได้ ในยุคปัจจุบันการเผยแพร่พระศาสนาที่สำคัญอยู่ที่ว่าผู้เผยแพร่ต้องศึกษาพระธรรมให้เข้าใจก่อน จึงค่อยเผยแพร่ภายหลัง ถ้าไม่มีความรู้ความเข้าใจอาจจะเป็นการเผยแพร่ส่งเสริมความเห็นผิด ยิ่งทำให้พระศาสนาเสื่อมเร็วยิ่งขึ้น ฉะนั้น ทางที่ดีควรศึกษาพระธรรมคำสอนให้เข้าใจถูกต้อง และแนะนำผู้อื่นให้ศึกษาพระธรรมคำสอนที่ถูกต้อง ก็เป็นการเผยแพร่ที่ละเล็กทีละน้อย คือทำตามกำลัง แม้ไม่มีเงินเลยก็ทำได้ เพราะว่าพระศาสนาไม่ได้อยู่ที่การสร้างวัดอะไรใหญ่โต แต่พระศาสนาอยู่ที่คำสอนต่างหาก

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 3 มิ.ย. 2549

ขออนุโมทนาในคำตอบของทางมูลนิธิฯ

การศึกษาพระธรรมคำสอนให้เข้าใจถูกต้องเป็นเรื่องที่สำคัญมาก เมื่อเริ่มมีความเข้าใจถูกก็สามารถสนทนาให้ผู้อื่นได้เข้าใจและเห็นคุณของพระธรรมเช่นเดียวกับท่านมีท่านผู้ชมหลายท่านเห็นประโยชน์ของพระธรรม ก็ได้เกื้อกูลโดยขอแผ่นซีดีธัมมะจากบ้านธัมมะ ให้บ้านธัมมะจัดส่งไปให้เพื่อนและญาติพี่น้อง ซึ่งบ้านธัมมะก็ยินดีจัดส่งไปให้ มีท่านผู้ชมท่านหนึ่งได้ขอให้บ้านธัมมะจัดส่งแผ่นซีดีธัมมะไปถวายพระภิกษุหลายรูป บ้านธัมมะก็ได้จัดส่งไปถวายท่าน มีท่านผู้ชมอีกหลายๆ ท่าน ช่วยประชาสัมพันธ์เว็ปไซต์บ้านธัมมะผ่านสื่ออินเตอร์เน็ทและสื่อต่างๆ ซึ่งกระทำได้โดยไม่ต้องใช้เงินทอง

พระภิกษุเองท่านไม่สามารถมีเงินทองตามพระวินัยบัญญัติ แต่ท่านก็เผยแผ่พระธรรมได้ โดยการแสดงพระธรรมแก่อุบาสก อุบาสิกา

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
prapas.p
วันที่ 4 มิ.ย. 2549

ขออนุโมทนาทางมูลนิธิที่ให้พระธรรมเป็นทาน ขออนุโมทนาผู้ร่วมบริจากทรัพย์ทุกท่านที่อนุเคราะห์พระศาสนา ขออนุโมทนาบ้านธัมมะที่เป็นสื่อเผยแพร่และมีการแจกพระธรรม ในรูปแบบต่างๆ ได้กว้างขวางมาก การเจริญบุญกิริยาวัตถุ ไม่ว่าจะตัวเล็ก ตัวใหญ่ ทรัพย์มาก ทรัพย์น้อย ยังไม่ใช่เหตุผล

พระอรหันต์สัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงเหตุแห่งการเกิดขึ้น และการดำเนิน จนสิ้นศาสนา พระองค์ทรงบำเพ็ญทศบารมี ๓๐ ทัศจึงมีคำว่า แม้เพราะเหตุนี้ๆ พระผู้มีพระภาคเจ้าจึงเป็นพระอรหันต์ ฯลฯ การที่พระศาสนาจะดำเนิน หรือเผยแพร่นั้น ต้องมาจากหลายเหตุ พระอริยสาวกก็ต้องสะสมมาที่จะเผยแพร่ ตามเหตุของแต่ละท่านเป็น กษัตริย์ พราหมณ์ แพศย์ ศูทร ในครั้งพุทธกาล ท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี ท่านสะสมความเห็นถูกในพระธรรมไว้แล้ว ก็ยังสะสมทานเป็นเหตุแห่งทรัพย์ไว้ จึงสามารถเผยแพร่พระธรรมได้ทั้ง การบริจาคทรัพย์ และพระธรรมด้วย หรือบางท่าน เช่น มหาเอกสาฎกเป็นพราหมณ์ยากจน มีผ้าห่มเพียงผื่นเดียวใช้ร่วมกับนางพราหมณี ก็ยังฟังธรรมจนให้ทานได้ แม้เรื่องนี้จะปรากฏในสมัยของพระพุทธเจ้าพระนามว่า พระวิปัสสีสัมมาสัมพุทธเจ้า

จะเห็นได้ว่าความมี ความจน ก็ขึ้นอยู่กับเจตนาที่ถูกต้อง เป็นสัมมาทิฏฐิ ก็ทำให้พระศาสนาเจริญ แม้เรื่องของท่านมหาเอกสาฎกซึ่งเกิดขึ้นนานมาก ก็ยังเป็นตัวอย่างและเผยแพร่มาถึงปัจจุบัน หรือท่านอนาถบิณฑิกเศรฐี ก็ยังอุปถัมภ์พระศาสนาในครั้งนั้นอย่างมาก

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
shumporn.t
วันที่ 4 มิ.ย. 2549

ความยากจนและความร่ำรวยเป็นธรรมประจำโลก เป็นของธรรมดาทุกยุคทุกสมัย จะมีพระศาสนาหรือไม่มีพระศาสนา ความยากจนและความร่ำรวยก็ต้องปรากฏให้เห็นได้ศาสนาคือคำสอน จะเจริญหรือเสื่อมไม่ได้อยู่ที่เงินทอง แต่อยู่ที่มีผู้สนใจศึกษามากหรือน้อย และในจำนวนที่สนใจศึกษานั้น ต้องแยกอีกว่าศึกษาคำสอนที่ถูกต้องหรือเปล่า และในการสอนที่ถูกต้องนั้น ต้องดูว่ามีการเจริญขึ้นของปัญญาหรือเปล่าและ

ในการเจริญขึ้นของปัญญาคือความเข้าใจนั้น มีการเจริญคือแพร่หลายกว้างขวางแค่ไหน จึงจะวัดได้ว่าศาสนามีความเจริญและความเสื่อมอย่างไร

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
medulla
วันที่ 4 มิ.ย. 2549
กราบขอบพระคุณทุกท่านเป็นอย่างสูงค่ะ
 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ