ไม่ประกอบด้วยปัญญา
สนทนาธรรมที่มูลนิธิ พื้นฐานพระอภิธรรม อาทิตย์ที่ ๑๒ ตุลาคม ๒๕๕๑
อร. จากที่ท่านอาจารย์ตอบจะพบว่า กิเลสอกุศลความไม่รู้นี้มีมากมายอาจารย์บอกว่าต้องตั้งต้นที่เห็นถูกในสภาพธรรม เมื่อไรที่ยังเห็นผิด เข้าใจผิด ก็เหมือนอย่างคำถามว่าพอพูดถึงอนัตตาและอิสระ คำถามนี้ ก็ดูเหมือนว่าลืมว่าธรรมเป็นอนัตตา เพราะเต็มไปด้วยเรื่องราวของความคิด ซึ่งจริงๆ แล้วคือสภาพธรรม มีแค่นี้คือ ๖ ทาง จะเป็นอะไรก็แล้วแต่ที่คิดไป และคิดก็คิดไปตามการสะสมด้วย ซึ่งท่านอาจารย์ก็เน้นมาตลอด ต้องเริ่มต้นจากการเห็นถูกเข้าใจถูกในสภาพธรรม ซึ่งผู้ฟังก็ยังเต็มไปด้วย สัตว บุคคล ตัวตน (ยัง) ไม่ใช่ทุกอย่างเป็นธรรมซึ่งเกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย
อาจารย์ พระเจ้าพิมพิสาร ทรงเป็นพระเจ้าแผ่นดินแห่งแคว้นมคธ เป็นพระโสดาบันยังเป็นพระเจ้าแผ่นดินได้ ชีวกโกมารภัทรเป็นหมอเป็นพระโสดาบันยังรักษาพระภิกษุได้คนอื่นๆ ด้วย วิสาขามีคารมาดา (และ) ท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐีก็เป็นพ่อค้านักธุรกิจก็เป็นพระโสดาบันแล้ว จะไปคิดว่าจะไม่ทำอะไรยังไงหรือ ให้ทราบว่าแต่ละชีวิตเกิดในขณะที่ปฏิสนธิประมวลมาซึ่งกรรมและสิ่งซึ่งมีปัจจัยที่จะเกิดขึ้นเป็นไปในชาตินั้นตามที่ได้ประมวลมา สำหรับปฏิสนจิตในขณะนั้น เมื่อเกิดเป็นคน ก็เป็นผลของกุศลกรรมประกอบด้วยปัญญาและไม่ประกอบด้วยปัญญา อันนี้ก็ต่างกันนัยหนึ่งนะคะก็จะเห็นได้ถึงแต่ล่ะบุคคลมีความสนใจมีความเข้าใจธรรม มีการศึกษาประ-พฤติปฏิบัติละเอียดขึ้นหรือเปล่า ก็แสดงให้เห็นว่าเป็นไปตามการสะสม เราจะทำให้คนที่เขาไม่ได้สะสมปัญญา ให้เขามีความเข้าใจธรรม จนกระทั่งมีความสามารถที่จะรู้แจ้งสภาพธรรมได้ไหม ก็ไม่ได้
เพราะฉะนั้น ถ้าเขามีฉันทะมีความพอใจที่จะเป็นนักดนตรี ที่จะเป็นนักกฎหมาย ที่จะเป็นวิศวกรจะไปเปลี่ยนความที่เขาสะสมมาที่จะมีฉันทะในทางนั้นๆ ได้ไหม ก็ไม่ได้เพราะฉะนั้นก็แสดงให้เห็นว่าการสะสมมาทั้งหมดในแสนโกฏิกัปป์นี้ ก็ประมวลมาที่จะทำให้ปฏิสนธิจิตเกิดขึ้น เป็นไปพร้อมด้วยสิ่งที่ได้สะสมมาต่างๆ กันไป ไม่ต้องคิดว่าเป็นพระโสดาบันแล้วจะไม่ช่วยใครหรือว่าเป็นพระสกทาคามีแล้ว จะไม่ทำประโยชน์ ไม่ใช่อย่างนั้นเลย คนที่ไม่รู้ความจริงอกุศลมาก อกุศลเป็นประโยชน์แก่ใครแม้กับตัวเองหรือคนอื่นก็ไม่ใช่ ใช่ไหมค่ะแต่เวลาที่กุศลเกิดขึ้นไม่ใช่กับตัวเองเท่านั้น ยังเป็นประโยชน์ต่อผู้อื่นด้วย เพราะฉะนั้นก็ไม่หวั่นไหวเลยนะคะในเรื่องของการที่ว่าเมื่อรู้สภาพธรรมแล้ว จะไม่เป็นประโยชน์ต่อคนอื่น หรือที่ใช้ คำว่า สังคมแต่จะเป็นผู้ที่หนักแน่นมั่นคงในธรรมที่เป็นกุศล มีชีวิตที่ไม่เป็นไปในทางที่ทุจริตแต่กว่าจะถึงอย่างนั้น ภาวนาธิษฺฐานชีวิตเป็นผู้ที่ถึงพร้อมด้วย การอบรมที่มั่นคงเพื่อที่จะได้รู้ความจริงด้วยการดำเนินชีวิตที่เป็นสัมมาอาชีวะๆ นี้ กาย วาจาสุจริตด้วยนะคะรวมทั้งการอาชีพ ถ้าเป็นอย่างนี้ก็วันหนึ่งก็สามารถที่จะอบรมเจริญปัญญายิ่งๆ ขึ้น แล้วก็ล่ะอกุศลได้ตามกำลังของปัญญา