วาจาสุภาษิต [สุภาสิตสูตร]
[เล่มที่ 25] พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สคาถวรรค เล่ม ๑ ภาค ๒ - หน้าที่ 319
ข้อความบางตอนจาก
สุภาสิตสูตร
ส่วนวาจาที่ประกอบด้วยองค์ ๔ นี้ แม้ถ้าเป็นวาจานับเนื่องในภาษามิลักขะก็ดี เป็นวาจานับเนื่องในเพลงขับของเด็กหญิงผู้นำหม้อน้ำก็ดี วาจาเห็นปานนั้นชื่อว่า เป็นวาจาสุภาษิต เพราะนำมาซึ่งความสุขทั้งที่เป็นโลกิยะและโลกุตระ จริงอย่างนั้น ภิกษุผู้เจริญวิปัสสนาประมาณ ๖๐ รูป กำลังเดินทางได้ยินเพลงขับของเด็กหญิงชาวสีหล ผู้รักษาไร่ข้าวกล้าข้างทาง กำลังขับเพลงขับที่เกี่ยวด้วยชาติชราและมรณะด้วยภาษาชาวสีหล ก็บรรลุพระอรหัต. อนึ่ง ภิกษุผู้ปรารภวิปัสสนา ชื่อว่า ติสสะกำลังเดินทางใกล้สระปทุม ได้ยินเพลงขับของเด็กหญิงผู้หักดอกปทุมในสระปทุมพลางขับเพลงนี้ว่า ดอกปทุมชื่อ โกกนทะ บานแต่เช้าตรู่ ย่อมเหี่ยวไปด้วยแสงอาทิตย์ ฉันใด สัตว์ทั้งหลายผู้ถึงความเป็นมนุษย์ย่อมเหี่ยว แห้งไป ด้วยกำลังกล้าแห่งชรา ฉันนั้น แล้วบรรลุพระอรหัต
อนึ่ง บุรุษผู้หนึ่งในพุทธันดร (ในเวลาว่างพระพุทธเจ้า) ๑ กลับ จากดงพร้อมกับบุตร ๗ คน ฟังเพลงขับของสตรีผู้หนึ่ง ซึ่งกำลังเอาสากตำข้าวสารดังนี้ว่า สรีระนี้อาศัยหนังมีผิวเหี่ยวแห้ง ถูกชราย่ำยีแล้ว สรีระนี้ถึงความเป็นอามิส คือเหยื่อของมฤตยู ย่อมแตกไป เพราะ มรณะ สรีระนี้เป็นที่อยู่ของหมู่หนอน เต็มไปด้วยซากศพต่างๆ สรีระนี้เป็น ภาชนะของไม่สะอาด สรีระนี้เสมอด้วย ท่อนต้นกล้วย พิจารณาอยู่ก็บรรลุปัจเจกโพธิญาณ พร้อมด้วยบุตรทั้งหลาย วาจาประกอบด้วยองค์ ๔ เหล่านี้ แม้ถ้านับเนื่องในภาษาของชาวมิลักขะ หรือนับเนื่องในเพลงขับของสตรีผู้ถือหม้อน้ำไปไซร้ ถึงกระนั้น ก็พึงทราบว่าเป็นวาจาสุภาษิต.วาจาชื่อว่า ไม่มีโทษ ทั้งวิญญูชนผู้มุ่งประโยชน์ อาศัยแต่ใจความ ไม่ใช่อาศัย แต่พยัญชนะ ไม่พึงติเตียน เพราะเป็นวาจาสุภาษิต
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
อบรมปัญญาให้เข้าใจความจริง จะเป็นประโยชน์ทั้งชาตินี้ และชาติต่อๆ ไป กุศลที่ทำได้เสมอๆ คือ การฟังพระธรรมที่พระอรหันตสัมมาสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง มีคุณค่ามหาศาลสำหรับชีวิตที่ต้องเดินทางต่อไป อีกแสนไกล และกันดาร
ขอเชิญศึกษาพระธรรม...
รวมลิงก์เมนูต่างๆ ในเว็บไซต์
การที่ได้มีโอกาสศึกษาพระธรรม ฟังพระธรรม ทำให้มีความเข้าใจตามความเป็นจริงว่า ทุกสิ่งทุกอย่าง เป็นเพียงสิ่งที่ปรากฏแล้วก็หมดไป ไม่ว่าจะเป็นทางตา ทางหูทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย ทางใจ จิตทุกขณะเกิดขึ้นแล้วก็ดับไป หมดไป ไม่มีอะไรเหลือเลยจริงๆ จากภพหนึ่งไปอีกภพหนึ่ง ดังนั้น เมื่อเป็นเช่นนี้ สิ่งที่ควรสั่งสมไปทุกภพทุกชาติ นั่นก็คือ กุศล (รวมถึงการอบรมเจริญปัญญา ในชีวิตประจำวันด้วย)