ไหน.....ใครว่าใหญ่ค่ะ?

 
ไตรสรณคมน์
วันที่  1 ส.ค. 2552
หมายเลข  13044
อ่าน  1,271

แท้ที่จริง เราเป็นเพียงจุดเล็กๆ ในจักรวาลเท่านั้น

กายที่ว่าใหญ่โตนักหนา

เมื่อแตกทำลายไปก็ไม่ต่างอะไรกับ....ผงธุลี

ไม่เหลืออะไรไว้ให้ยึดถือได้อีก

ขอเชิญทุกท่านร่วมแสดงความเห็นค่ะ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
apicha
วันที่ 2 ส.ค. 2552

สาธุ

สาธุ

สาธุ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
suwit02
วันที่ 2 ส.ค. 2552

สาธุ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
khondeebkk
วันที่ 2 ส.ค. 2552

สาธุ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
wanchai2504
วันที่ 2 ส.ค. 2552

ขออนุโมทนาท่านผู้โพสท์ที่ได้นำภาพการเปรียบเทียบนี้มาให้ดู เป็นการเตือนตนเองได้อย่างดีครับ วันหนึ่งๆ เราหลงไปกับความยึดถือในความเป็นตัวตน ในลาภ ในยศในสักการะทั้งหลาย เพลินไปกับโลภะ โทสะ และความไม่รู้ วนเวียนอยู่ในสังสารวัฏฏ์ ดังฝุ่นธุลีในอากาศ ถูกกระแสลมคือโลภะนั้นพัดล่องลอยไร้จุดหมาย หาสาระอันใดมิได้เลย พระธรรมเท่านั้นที่จะทำให้ฝุ่นธุลีนี้ได้มีที่พึ่ง ที่ยึดเหนี่ยว เพื่อข้ามพ้นห้วงกระแสกิเลสอันเชี่ยวกรากนี้ได้ในวันหนึ่ง แม้จะแสนไกลก็อุ่นใจเมื่อมีธรรม

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
จำแนกไว้ดีจ๊ะ
วันที่ 2 ส.ค. 2552
โลกบังพระอาทิตย์ได้ เกิดคติความเชื่อมากมาย บูชาพระราหู ไม่เชื่ออย่าลบหลู่ ไม่มี

ใครดีกว่าตัวเรา สงสารเสียจริงเสียจัง รักอะไรก็ไม่เท่ารักตัวเอง
 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
จักรกฤษณ์
วันที่ 2 ส.ค. 2552

พูดไม่ออก จึงไม่มีความเห็นครับ

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
ไตรสรณคมน์
วันที่ 2 ส.ค. 2552

อ้างอิงจาก : หัวข้อ 13044 ความคิดเห็นที่ 5 โดย จำแนกไว้ดีจ๊ะ โลกบังพระอาทิตย์ได้ เกิดคติความเชื่อมากมาย บูชาพระราหู ไม่เชื่ออย่าลบหลู่ ไม่มีใครดีกว่าตัวเรา สงสารเสียจริงเสียจัง รักอะไรก็ไม่เท่ารักตัวเอง


มงคลสูตรข้อที่ ๓........บูชาผู้ที่ควรบูชา........นี้เป็นอุดมมงคล

(หมายถึงบูชาในคุณธรรมของผู้นั้น)

ไม่ทราบว่า....พระราหูคือใคร? มีคุณธรรมเช่นใด? แล้วบูชาเพื่ออะไรค่ะ?

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
pornpaon
วันที่ 2 ส.ค. 2552

เทียบกับระบบสุริยะเดียว...ความเป็นเราที่แสนใหญ่...ยังเหลือขนาดเล็กเพียงเท่านี้

เกรงว่า...ขนาดหนึ่งเศษธุลี...ก็น่าจะยังใหญ่ไปค่ะ

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
ไตรสรณคมน์
วันที่ 2 ส.ค. 2552

จริงค่ะ, เพราะหน่วยที่เล็กที่สุดของรูปก็คือ "กลาป"

เมื่อหลายๆ กลาปมารวมกัน ก็บัญญัติขึ้นมาเป็นคน สัตว์ วัตถุ

ที่ว่าใหญ่แสนใหญ่ก็กลายเป็นเพียงแค่...กลาปได้

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
Sam
วันที่ 2 ส.ค. 2552

หากมองในมุมกลับ แม้จะเห็นด้วยตาว่าโลก (โอกาสโลก) และ "ตัวเรา" เป็นเหมือน

ฝุ่นผงเล็กๆ ในจักรวาล แต่ก็ยังไม่เพียงพอที่จะละการยึดมั่นในความเป็นตัวตนได้

อยู่ดี เพราะถึงจะเล็กแสนเล็ก น่าดูหรือไม่น่าดูอย่างไร ตัวเรานี้ก็ยังเป็นสิ่งที่น่ารัก

น่าชอบใจของเราที่สุดครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 11  
 
ไตรสรณคมน์
วันที่ 2 ส.ค. 2552

ความเป็น "เรา" ถึงได้ยิ่งใหญ่ไงค่ะ

ไม่ว่าจะด้วยอำนาจของ........ตัณหา มานะ หรือทิฎฐิ

 
  ความคิดเห็นที่ 12  
 
เมตตา
วันที่ 3 ส.ค. 2552

ทุกๆ ขณะของสภาพธรรมที่เกิดขึ้น และดับไปสืบต่อกันอย่างไม่ขาดสาย ด้วยกิเลส

ที่สะสมมาเนิ่นนานจึงยึดสภาพธรรมว่าเป็นเรา เป็นสัตว์ เป็นบุคคล แท้จริงแล้วไม่

มีเราแม้ขณะเดียว มีแต่จิต เจตสิก และรูปที่เกิดดับสืบต่ออย่างไม่ขาดสาย

ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา ควรหรือที่จะยึดถือว่าเป็นเรา... กายนี้ที่ยึดถือว่าเป็นกายของเรา ที่แท้ก็เป็นเพียงรูปที่เกิดจากสมุฎฐานทั้ง ๔ เมื่อจุติจิต

เกิด...ตายจากภพชาตินี้...รูปต่างๆ ก็ดับหมดเว้นแต่อุตุชรูปซึ่งก็คือ...ผงธุลี

ไหน.....ใครว่าใหญ่ค่ะ?

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 13  
 
noynoi
วันที่ 3 ส.ค. 2552

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า

พระมหากรุณาคุณของพระพุทธองค์แท้ๆ

จึงมีการสนทนากันเรื่องความใหญ่ เป็นเรา ไม่เป็นเรา

ทั้งที่ก็พอจะเข้าใจจากการฟังเรื่องราวของธรรมะว่า

ทั้งหมดเป็นเพียงแต่เพียงจิต เจตสิก และรูป

แต่ความยึดถือว่าเป็นเราก็ยังมีอยู่เต็ม ข้าพเจ้าเองก็ยึดอยู่เต็มเหนี่ยว

ท่านว่า ยิ่งศึกษาและเข้าใจมากขึ้นเท่าไหร่

ความเป็นเราก็จะยิ่งเล็กลงเท่านั้น

สงสัยจะยังไม่เข้าใจ เพราะยังรู้สึกว่าตัวข้าพเจ้าใหญ่มากอยู่เลย

ขอบคุณและขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 14  
 
จำแนกไว้ดีจ๊ะ
วันที่ 3 ส.ค. 2552

ตอบ ความคิดเห็นที่ 7 คติความเชื่อขับเคลื่อนสังคม ใครรับผิดชอบปัญญาของสังคม

 
  ความคิดเห็นที่ 16  
 
choonj
วันที่ 3 ส.ค. 2552

ไหน.....ใครว่าใหญ่ ท่านว่าตัวกูของกู พระอาทิตย์ที่ว่าใหญ่ไม่สามารถขจัดให้หมดไปฉันใด ความคิดของคนที่ไม่ได้เรียนธรรม ก็ไม่สามารถขจัดให้หมดไปฉันนั้นความคิดจึงยิ่งใหญ่พอๆ กับพระอาทิตย์ ขจัดความคิดได้ก็รอดตาย ครับ
 
  ความคิดเห็นที่ 17  
 
suwit02
วันที่ 3 ส.ค. 2552

สาธุ

ที่นี่น่ารื่นรมย์

 
  ความคิดเห็นที่ 18  
 
ไตรสรณคมน์
วันที่ 3 ส.ค. 2552
อ้างอิงจาก : หัวข้อ 13044 ความคิดเห็นที่ 14 โดย จำแนกไว้ดีจ๊ะ

ตอบ ความคิดเห็นที่ 7 คติความเชื่อขับเคลื่อนสังคม ใครรับผิดชอบปัญญาของสังคม


สังคมคือหมู่สัตว์ คติความเชื่อคือทิฎฐิ

ใครจะไปรับผิดชอบชืวิตของใครได้ นอกจากเกื้อกูลกันไปตามเหตุตามปัจจัยตามควร

เพราะยังไง.........สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรมค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 19  
 
JANYAPINPARD
วันที่ 3 ส.ค. 2552

ใหญ่หรือไม่ใหญ่..เป็นแค่ความคิดเราใหญ่ (มีอำนาจเป็นผู้ยิ่งใหญ่) ..จริงๆ คนอื่นอาจมองว่าเล็ก (ไม่มีอำนาจเป็นผู้ยิ่งใหญ่) ความเป็นผู้มีอำนาจหรือความยิ่งใหญ่..ไม่คงที่เป็นไปตามโลกธรรมแปดแต่ตัวใหญ่ (อ้วน) เหมือนจะคงที่กว่า..จนคล้ายว่าเป็นสภาพธรรมที่ไม่เกิดดับ..เลย..ยย

เชิญคลิกอ่าน...
ความเข้าใจสภาพธรรม ๐๑ ...... โลกธรรม ๘ ประการ

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 20  
 
orawan.c
วันที่ 3 ส.ค. 2552

เพราะไม่รู้ความจริง และติดข้อง

จึงต้องอบรมปัญญาเพื่อเห็นถูก เข้าใจถูกในความจริง

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 21  
 
จำแนกไว้ดีจ๊ะ
วันที่ 4 ส.ค. 2552

ไตรสรณคมน์ ความคิดเห็นที่ 18 แล้วประเทศชาติ ศาสนา สมณชีพราหมณ์ และประชาชนจะอยู่ได้อย่างไรเล่า จะด่วนหนีไปเป็นฤาษีชีไพรในป่าในเขากันหรือกระไรศาสนา และสาวกผู้เจริญควรตระหนักในการสร้างปัญญา อารยะชนพึงจรรโลงประเทศชาติ คุณไตรสรณคมน์ก็จรรโลงสังคมอยู่ใช่หรือมิใช่เล่า

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 22  
 
ไตรสรณคมน์
วันที่ 4 ส.ค. 2552

ท่านจำแนกลองกลับไปอ่าน ความเห็น ที่ ๑๘ อีกที่นะคะ........

" เกื้อกูลกันไปตามเหตุตามปัจจัยตามควร " เข้าใจประโยคนี้ว่าอย่างไรค่ะ?

 
  ความคิดเห็นที่ 23  
 
เมตตา
วันที่ 5 ส.ค. 2552

เรียนคุณจำแนกไว้ดีจ๊ะ ขอสนทนาด้วยคนค่ะ ที่คุณกล่าวว่า

คติความเชื่อขับเคลื่อนสังคม ใครรับผิดชอบปัญญาของสังคม

>>เพราะความไม่รู้ เพราะความเห็นผิดจากความเป็นจริง จึงต้องวนเวียนอยู่ในวัฎฎะ

................................

แล้วประเทศชาติ ศาสนา สมณชีพราหมณ์ และประชาชนจะอยู่ได้อย่างไรเล่า จะด่วนหนีไปเป็นฤาษีชีไพรในป่าในเขากันหรือกระไรศาสนา และสาวกผู้เจริญควรตระหนักในการสร้างปัญญา อารยะชนพึงจรรโลงประเทศชาติ คุณไตรสรณคมน์ก็จรรโลงสังคมอยู่ใช่หรือมิใช่เล่า

>>ถ้าหากว่า สมณชีพราหมณ์ และประชาชน ได้มาศึกษาพระธรรม มีความเข้าใจถูก

เห็นถูกในสภาพธรรมความจริงทั้งหลาย ว่าเกิดขึ้นตามเหตุปัจจัย ไม่ต้องหนีไปในป่า

ค่ะ อยู่กับชีวิตประจำวันเป็นปกติด้วยความเข้าใจถูกเห็นถูกในพระสัทธรรม ศาสนา

สอนให้รู้ความจริงในสิ่งที่มีอยู่จริงที่กำลังปรากฎในชีวิตประจำวันค่ะ ขออนุโมทนาค่ะ


 
  ความคิดเห็นที่ 24  
 
hadezz
วันที่ 5 ส.ค. 2552

อัตตา

 
  ความคิดเห็นที่ 25  
 
opanayigo
วันที่ 5 ส.ค. 2552

ใหญ่อย่างเป็นประโยชน์ก็ ดี

เล็กอย่างเป็นประโยชน์ก็ ดี

มีก็มีให้เป็น

ไม่มีก็ไม่มีให้เป็น

เมื่อมีใหญ่ก็มีเล็ก

เมื่อมีเล็กก็มีใหญ่

เกิดแล้ว ปัจจัยปรุงแต่งแล้ว ก็หมดไป

อนัตตา

ทุกสิ่งเกิดขึ้นตามเหตุและผลเสมอ

..........................................

 
  ความคิดเห็นที่ 27  
 
ไตรสรณคมน์
วันที่ 6 ส.ค. 2552
อ้างอิงจาก : หัวข้อ 13044 ความคิดเห็นที่ 25 โดย opanayigo

ใหญ่อย่างเป็นประโยชน์ก็ ดี

เล็กอย่างเป็นประโยชน์ก็ ดี

มีก็มีให้เป็น

ไม่มีก็ไม่มีให้เป็น

เมื่อมีใหญ่ก็มีเล็ก

เมื่อมีเล็กก็มีใหญ่

เกิดแล้ว ปัจจัยปรุงแต่งแล้ว ก็หมดไป

อนัตตา

ทุกสิ่งเกิดขึ้นตามเหตุและผลเสมอ

..........................................


เล็กก็ดี ใหญ่ก็ดี......มีจริงหรือ?

เป็นบัญญัติ หรือปรมัตถ์ค่ะ?

 
  ความคิดเห็นที่ 28  
 
suwit02
วันที่ 6 ส.ค. 2552

สาธุ

กษัตริย์เป็นผู้ประเสริฐที่สุด ในหมู่ชนผู้รังเกียจด้วยโคตร

ท่านผู้ถึงพร้อมด้วยวิชชาและจรณะเป็นผู้ประเสริฐที่สุด ในหมู่เทวดาและมนุษย์.

 
  ความคิดเห็นที่ 29  
 
จำแนกไว้ดีจ๊ะ
วันที่ 8 ส.ค. 2552

ปรมัตถ์ (จิต เจตสิก รูป) และบัญญัติ ก็ยังมีเชื้อเหลือปัจจัย กรรมสั่งสมในจิต ส่วนที่อาศัยรูปทวารในภพก็มี ส่วนที่ไม่อาศัยทวารในภพก็มี จุติจิต ปฏิสนธิจิตนี้แหละที่ไม่ต้องอาศัยตา หู จมูก ลิ้น กาย และใจในภพ กรรมจึงตามไปในวัฏสงสาร ความดับเสียได้ด้วยเหตุนิพพานนั้น เป็นประการใด ดับสัญญาเจตสิกใช่ไหม?

 
  ความคิดเห็นที่ 30  
 
pornchai.s
วันที่ 9 ส.ค. 2552

กษัตริย์เป็นผู้ประเสริฐที่สุด ในหมู่ชนผู้รังเกียจด้วยโคตร

ท่านผู้ถึงพร้อมด้วยวิชชาและจรณะเป็นผู้ประเสริฐที่สุด ในหมู่เทวดาและมนุษย์.

(ผมชอบข้อความนี้อะครับ)

ขออนุโมทนา คุณ suwit02 ครับผม

แต่ที่ผมเข้ากระทู้นี้ เพราะว่ามีผู้อ่าน สามร้อยกว่า ...... 29 ความเห็น

และเป็นกระทู้ของอุบาสิกาผู้ให้ธรรมเป็นทานทางสถานีวิทยุในกรุงเทพฯ

("รายการแนวทางเจริญวิปัสสนา") มากกว่า 1 สถานี ด้วยครับ

สัพพทานัง ธัมมทานัง ชินาติ

(การให้ธรรมเป็นทานย่อมชนะการให้ทั้งปวง)

กราบอนุโมทนาครับ

พระปัญญาตรัสรู้ ของ พระพุทธเจ้าทั้งหลาย ย่อมใหญ่ยิ่งจนหาที่สุดมิได้

ยิ่งกว่าสิ่งที่หาที่สุดมิได้ทั้งหลาย

 
  ความคิดเห็นที่ 31  
 
ไตรสรณคมน์
วันที่ 12 ส.ค. 2552

^

^

นานๆ จะเข้ามาที.....มีแซวนะ ;D

มิน่า..... 3 วันที่ผ่านมารู้สึกหนังตากระตุก (555)

ข้าน้อยต้องขอกราบอนุโมทนา มูลนิธิฯ และสหายธรรมแนวร่วมมากกว่าค่ะ ที่ได้เปิด

โอกาสให้ธรรมทานนี้เกิดขึ้นเป็นไปและสำเร็จลงด้วยดี

ขอกราบบูชาพระคุณของพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ด้วยการช่วยเผยแพร่พระธรรม

รัตนะอันมีค่ายิ่งนี้......จนกว่าจะหมดเหตุปัจจัย จนกว่าชีวิตจะหาไม่ค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 32  
 
ไตรสรณคมน์
วันที่ 12 ส.ค. 2552
อ้างอิงจาก : หัวข้อ 13044 ความคิดเห็นที่ 29 โดย จำแนกไว้ดีจ๊ะ

ปรมัตถ์ (จิต เจตสิก รูป) และบัญญัติ ก็ยังมีเชื้อเหลือปัจจัย กรรมสั่งสมในจิต ส่วนที่อาศัยรูปทวารในภพก็มี ส่วนที่ไม่อาศัยทวารในภพก็มี จุติจิต ปฏิสนธิจิตนี้แหละที่ไม่ต้องอาศัยตา หู จมูก ลิ้น กาย และใจในภพ กรรมจึงตามไปในวัฏสงสาร ความดับเสียได้ด้วยเหตุนิพพานนั้น เป็นประการใด ดับสัญญาเจตสิกใช่ไหม?


เพราะความดับแห่งอวิชชาเท่านั้นค่ะ

เหตุปัจจัยทั้งหลายที่จะปรุงแต่งให้เกิดต่อไปก็ดับไปด้วย

 
  ความคิดเห็นที่ 33  
 
Pongpat
วันที่ 12 ส.ค. 2552

ภาพประกอบนี้ทำให้ละคลายความปรารถนาในชื่อเสียงและสรรเสริญ

มีอะไรที่ใหญ่กว่าโลกมนุษย์ใบนี้อีกมากมาย จนมองเห็นโลกเป็นแค่จุดๆ เดียว

โลกของชื่อเสียงและสรรเสริญ เล็กน้อยยิ่งกว่านั้น

ขออนุโมทนาทุกท่านครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 34  
 
จำแนกไว้ดีจ๊ะ
วันที่ 13 ส.ค. 2552

ไตรสรณคมน์. ความคิดเห็นที่ 32.

อวิชชาอยู่ที่ไหน ดับอย่างไรครับ?

 
  ความคิดเห็นที่ 36  
 
ไตรสรณคมน์
วันที่ 13 ส.ค. 2552
อ้างอิงจาก : หัวข้อ 13044 ความคิดเห็นที่ 34 โดย จำแนกไว้ดีจ๊ะ

ไตรสรณคมน์. ความคิดเห็นที่ 32.

อวิชชาอยู่ที่ไหน ดับอย่างไรครับ?


ดับความไม่รู้....ด้วยความรู้

ความรู้เกิดเมื่อไหร่.....ก็จะเห็นความไม่รู้เองค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 37  
 
wannee.s
วันที่ 13 ส.ค. 2552

ความมืด ตรงข้ามกับความสว่าง ความไม่รู้ก็ตรงข้ามกับความรู้ จะดับอวิชชาได้ด้วยวิชาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 38  
 
pornchai.s
วันที่ 14 ส.ค. 2552

ต้องรู้ก่อนจึงละได้

ถ้ายังไม่รู้ ก็ละไม่ได้

 
  ความคิดเห็นที่ 39  
 
กิเลสเน่าหนา
วันที่ 16 ส.ค. 2552

จึงมีพุทธวจนะว่า ปัญญาเป็นแสงสว่างในโลก ยังไงละครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ